TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessแรบบิท แคร์ เผยกลยุทธ์ ปี 65 หลังรีแบรนด์ใหญ่ ตั้งเป้าโบรกเกอร์ออนไลน์เบอร์หนึ่งด้านประกันและการเงิน

แรบบิท แคร์ เผยกลยุทธ์ ปี 65 หลังรีแบรนด์ใหญ่ ตั้งเป้าโบรกเกอร์ออนไลน์เบอร์หนึ่งด้านประกันและการเงิน

“แรบบิท แคร์” เผยกลยุทธ์และแนวทางธุรกิจปี 2565 หลังปรับเปลี่ยนรีแบรดน์ชุดใหญ่จาก แรบบิท รีไฟแนนซ์ โดยมีเป้าหมายเดินหน้าสู่การเป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ชั้นนำด้านประกันภัยและการเงินในประเทศไทย พร้อมเตรียมขยายเครือข่ายพันธมิตรจากเดิมที่มีกว่า 70 บริษัทชั้นนำ เพื่อให้สามารถออกผลิตภัณฑ์ประกันและการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าทุกระดับชั้นได้ครอบคลุมกว้างขวางมากขึ้น รวมถึงตั้งเป้ารายได้จากเบี้ยประกันในปีนี้ให้เติบโตแตะระดับ 3,000 ล้านบาท

ไมเคิล มันเฟรดส สไตลเบิล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด เปิดเผยว่า การรีแบรนด์ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการตอกย้ำความสำเร็จของบริษัทในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วย 1) รายได้ที่เติบโตจากปีก่อนหน้าแบบก้าวกระโดดที่ 166% หรือมากกว่า 2 เท่ามาอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท 2) การมีผู้ร่วมหุ้นรายใหม่นอกเหนือจากบีทีเอส อย่างซัมซุง และโคเรีย อินเวสต์เมนต์ พาร์ทเนอร์ ผ่านรอบการลงทุน Series B  3) การเข้าซื้อกิจการของบริษัทประกันภัยรถยนต์ Asia Direct Broker ( ADB) และ4) การรีแบรนด์สู่แรบบิท แคร์ 

ในส่วนของการรีแบรนด์ครั้งนี้ สไตลเบิล กล่าวว่า ตั้งใจให้บริษัทได้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น และตอบโจทย์วิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการเป็นทางเลือกของการเป็นที่ปรึกษาทางประกันและการเงินที่โปร่งใสให้กับลูกค้า (Your first choice for transparent insurance and financial advice) ซึ่งความโปร่งใสที่ว่านี้ หมายถึงการเป็นมาร์เก็ตเพลสสำหรับการเสนอทางเลือกที่หลากหลาย ในราคาที่ดีที่สุดที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ขณะที่การเป็นที่ปรึกษาก็สะท้อนให้เห็นได้ว่า แรบบิท แคร์นั้น จะบอกข้อมูลทั้งที่เป็นจุดเด่นและจุดด้อยของผลิตภัณฑ์อย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกสินต้าที่ตอบโจทย์เงื่อนไขของตนเองให้มากที่สุด

“ในปี 2565 แรบบิท แคร์ ยึดค่านิยมหลักขององค์กร ภายใต้สโลแกน “ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ” (Complete Care) เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจและเชื่อมั่นในการนำเสนอทางเลือกในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้งด้านความครบครัน (Comprehensive) รวดเร็ว (Agile) รับผิดชอบ (Responsible) และเรียบง่าย (Effortless) เพื่อนำเสนอราคาที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดให้กับลูกค้า”

ทั้งนี้ แรบบิท แคร์ เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเน้นตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบและซื้อประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้อย่างสะดวกสบาย โดยลูกค้าสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการแบบเฉพาะบุคคลได้อย่างสมบูรณ์แบบ และประหยัดเวลาด้วยบริการที่สามารถค้นหาและเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ได้ทุกที่ทุกเวลาในทุกช่องทาง พร้อมการดูแลจากเจ้าหน้าที่ของแรบบิท แคร์ กว่า 300 คน ที่มีความรู้คอยให้คำปรึกษา เพื่อนำเสนอราคาที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดให้กับลูกค้าผ่านการโทรและแชทตลอด 24 ชั่วโมง 

สำหรับภาพรวมของตลาดประกันภัยทั่วโลก และในประเทศไทย แรบบิทแคร์คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวจากโควิด-19 โดยตลาดประกันภัยของไทยยังคงอยู่ในระดับที่ยังสามารถดำเนินการได้ เมื่อเทียบกับตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งทิศทางแนวโน้มของตลาดในเชิงบวกนี้ สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตการซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อได้ว่า แรบบิท แคร์ น่าจะเติบโตที่ตัวเลขสองหลัก พร้อมตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยเติบโต 3,000 ล้านบาท 

ขณะเดียวกัน แรบบิท แคร์ยังมีแผนเตรียมขยายข้อเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มการประกันภัยรถยนต์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น ตลอดจนการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพในราคาที่เข้าถึงได้ เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้ธุรกรรมอีคอมเมิร์ซมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยได้เตรียมวางแผนที่จะเปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีความคุ้มครองทันทีภายในปีนี้ด้วย และมีแผนที่จะขยายบริหารให้ครอบคลุมประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชาต่อไป 

ด้าน โจฮันเนส ฟริดริค วอน โรห์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน แรบบิท แคร์ เป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันภัยที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย โดยนอกจากตัวเลขรายได้ที่เติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว จำนวนทีมงานของบริษัทก็เติบโตจาก 300 คนมาอยู่ที่กว่า 700 คนในปัจจุบัน ส่วนการเติบโตของประกันภัยรถยนต์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 212% ประกันสุขภาพ เติบโตขึ้น 261% และประกันภัยองค์กร มีอัตราการเติบโต 63% ต่อปี

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อตอกย้ำความเป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันภัยเบอร์หนึ่งของไทย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการกล่าวว่า ทางแรบบิทแคร์ ยังได้มีการก่อตั้ง แรบบิท อคาเดมี (Rabbit Academy) เพื่อฝีกอบรมทักษะพนักงานในฐานะผู้ให้บริการคำแนะนำปรึกษา และขายประกันเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

พร้อมกันนี้ แรบบิท แคร์ ยังได้สร้างการรับรู้แบรนด์ด้วยแผนการสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา โดยเตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาครั้งแรก ครอบคลุมทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ภายใต้แนวคิดเรียบง่าย สื่อถึงการดูแลและให้การสนับสนุนลูกค้าด้วยความห่วงใย ชูธีม CFO หรือ Chief Family Officer ซึ่งเป็นบุคคลที่คอยทำหน้าที่จัดการเรื่องการประกันภัยและการเงินสำหรับครอบครัว ที่ทางแรบบิท แคร์ ตั้งใจมาช่วยแบ่งเบาภาระและอยู่เคียงข้าง CFO เพื่อช่วยดูแลด้านประกันภัยและการเงินให้กับทุกคนในครอบครัว ตอกย้ำการเป็นบริษัทชั้นนำด้านประกันภัยและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เข้าใจและห่วงใยลูกค้าทุกคน ตามสโลแกน “ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ” โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านทางทีวี สื่อนอกบ้าน ทางวิทยุ และออนไลน์ 

สำหรับสิทธิพิเศษในส่วนอื่น ๆ ทาง โจฮันเนส ฟริดริค วอน โรห์ กล่าวว่า แรบบิท แคร์จะเปิดตัวออกมาเรื่อย ๆ เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการเงินเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เบื้องต้นมีการจัดโปรโมชันด้วยข้อเสนอที่ช่วยให้ลูกค้าประหยัดสูงสุด 70% และแคมเปญ “ซื้อเลยจ่ายทีหลัง” กับโปรโมชัน ผ่อน 0% นาน 10 เดือน เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีตัวเลือกที่หลากหลาย จากแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมครบวงจร ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งเงิน ตลอดจนสามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านราคาคุ้มค่าสูงสุด

“ในส่วนของเป้าหมายการเติบโตข้างหน้า เราจะสามารถคงสถานะการเติบโตไปได้เรื่อย ๆ เนื่องจากข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ความพร้อมในเรื่องขององค์ความรู้ และเทคโนโลยีจากยุโรปที่นำมาใช้ในบริบทของไทย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะของบุคลากรอยู่เสมอ และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และช่องทางเข้าถึงประกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนวัยทำงาน มีกำลังซื้อและมีการศึกษาสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อประกันด้วยตนเองได้ง่ายขึ้น คาดว่าใน 3 ปีข้างหน้า แรบบิทแคร์จะสามารถเติบโตทำรายได้ได้ถึง 5,000 ล้านบาท” โจฮันเนส ฟริดริค วอน โรห์ กล่าว

ขณะที่ ชยพัทธ์ สกุลร่มโพธิ์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเชิงพาณิชย์ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด  เสริมว่า ปัจจุบัน แรบบิท แคร์ ได้ดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรชั้นนำมากกว่า 70  บริษัท โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งตอบสนองทุกความต้องการ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค พร้อมให้ความสำคัญและแคร์ผู้บริโภคผ่านการบริการด้านต่าง ๆ เช่น แคร์เซ็นเตอร์ เป็นต้นนี้ 

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา แรบบิทแคร์ยังได้เปิดตัว ระบบปฏิบัติการ CareOS หรือ ระบบปฏิบัติการความแคร์ มีจุดเด่นในการทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่ออัตโนมัติกับระบบของพันธมิตร ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาดีลดี ๆ และเปรียบเทียบข้อมูลด้านประกันและการเงินต่าง ๆ ได้ครบจบในที่เดียว มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งระบบปฏิบัติการนี้เป็นกลไกสำคัญที่เข้ามาช่วยลดความซับซ้อนของขั้นตอนต่าง ๆ ทำให้การใช้งานผ่านแพลตฟอร์มของ แรบบิท แคร์ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น พร้อมด้วยบริการหลังการขายแบบครบวงจรบนแพลตฟอร์มออมนิแชแนล ที่พร้อมให้บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์เพื่อรับความคุ้มค่าที่พิเศษกว่าที่เคย ผ่าน Care Center 1483 ที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าให้สามารถติดต่อหรือขอรับบริการ, Care Emergency บริการช่วยเหลือเร่งด่วนสำหรับผู้ซื้อประกันรถยนต์ เช่น กรณีเคลมอุบัติเหตุ และ Health Caresultant บริการรับคำปรึกษาจากแพทย์สำหรับลูกค้าประกันสุขภาพ

“จริง ๆ ต้องบอกแบบนี้ว่า แรบบิท ไฟแนนซ์เราเป็นโบรกเกอร์ เราไม่ได้มีใบอนุญาตเป็นของตนเอง เราก็ทำงานร่วมกับทางบริษัทประกันวินาศภัย แล้วก็ประกันชีวิตในการสร้างผลิตภัณฑ์ออกมานะครับ ทีนี้ถามว่าเราจำเป็นจะต้องออกมาผลิตภัณฑ์เป็นของตนเองตลอดไหม ก็ต้องบอกว่าไม่มีความจำเป็น คือเราจะออกผลิตภัณฑ์ออกมาก็ต่อเมื่อเรารู้และเห็นได้ชัดเจนว่ามันมีช่องโหว่และเห็นความต้องการของตลาดที่ลูกค้ามองหาแต่ว่าไม่มีใครสามารถทำออกมาได้ ซึ่งเราจะเข้ามาตอบโจทย์ตรงนั้น ด้วยการหาข้อมูล ทำการบ้านร่วมกับทางประกันภัยเพิ่มเติม เพือสร้างตรงนั้น หรือช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับประกันเพื่อมาตอบโจทย์ลูกค้าโดยตรง ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ประกันของเราจึงเป็นการ co-brand กันระหว่างบริษัทประกันหรือจะเป็นแบรนด์ของเราไปเลยแต่ underwrite โดยประกันนั้น ๆ ครับผม สำหรับเรา การขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และออฟไลน์ มันคือความหลากหลายของช่องทาง เป็น omnichannel ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ ออฟไลน์ หรือขายทางโทรศัพท์ เราต้องการให้มีเพื่อที่ว่าลูกค้าบางท่านอาจจะชินกับการซื้อออฟไลน์ ไม่สะดวกการโทรศัพท์ ไม่สะดวกการใช้ผ่านแอพนะครับผม  เพราะฉะนั้น ความหลากหลายตรงนี้คือข้อดีของเรา” ชยพัทธ์ กล่าว

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

แบงก์กรุงศรีฯ เปิดเกมรุกมุ่งตลาดอาเซียน เล็งอัปเกรดระบบนิเวศดิจิทัล ตั้งเป้ารายได้โต 10%

เบนซ์พร้อมลุยสนับสนุนตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทย เตรียมเข็นโมเดลใหม่รั้งแนวหน้ารถระดับพรีเมียม

Google เผยการทำงานเบื้องหลัง เพื่อทำให้รีวิวใน Maps น่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ