TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessแผนธุรกิจ 3 ปี "บลูบิค" ปักธงตลาดโลก เปิดบริษัทลูก เตรียมปิดดีล M&A ขยายฐานตลาดในไทย

แผนธุรกิจ 3 ปี “บลูบิค” ปักธงตลาดโลก เปิดบริษัทลูก เตรียมปิดดีล M&A ขยายฐานตลาดในไทย

เปิดเผย 3 ปี บลูบิค ปักธง Global Company เปิด Bluebik Global พร้อมบริษัทลูก ขยายตลาด ขยายบริการ ขยายเทคโนโลยี ขยายทีม พร้อมเตรียมเม็ดเงินปิดดีล M&A เติบโตก้าวกระโดด 

บลูบิคนับหนึ่งสู่การเป็นบริษัทระดับโลกและออกเดินบนเส้นทางที่ พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เคยให้สัมภาษณ์กับ The Story Thailand ว่าเขาต้องการให้บลูบิคเป็น Portfolio Company เหมือน Alphabet บริษัทแม่ของบริษัท Google ที่คอยลงทุนและสร้างธุรกิจใหม่ ๆ ด้วยการประกาศแผนยุทธศาสตร์ ​3 ปี (2023-2025) ปักธงเป็น Global Company ตั้ง Bluebik Global ลงทุนเปิด Bluebik UK ในอังกฤษ และ Bluebik Technology Center ที่อินเดีย เปิด 2 บริษัทใหม่ในไทย คือ Bluebik Nexus ลุยงานวิจัยเทคโนโลยีแห่งอนาคต และ Blubik Titan โฟกัสงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมเดินหน้าแผน M&A เพื่อสร้าง inorganic growth และเติมความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ 

พชร กล่าวว่า การเปิดบริษัทใหม่ทั้งหมดใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 50 ล้านบาท  และเตรียมเงินไว้สำหรับการปิดดีล M&A เทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่จะมาเติมเต็มแผนการขยายสู่รูปแบบธุรกิจใหม่ที่จับตลาดแมสมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ที่คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในปีนี้ ซึ่งทั้งหมดใช้เงินลงทุนที่ระดมทุนมาได้ตอนเข้าตลาด MAI ที่ยังมีเงินอยู่ในมือ 350 ล้านบาท เพื่อส่งให้บลูบิคเดินหน้าขยายธุรกิจ ขยายตลาด ขยายบริการ ขยายเทคโนโลยี ขยายทีม ในช่วง 3 ปีนี้ 

บลูบิค กรุ๊ป ลงทุนตั้ง Bluebik Global (ถือหุ้น 78%) จดทะเบียนในไทย ซึ่งไปลงทุนใน Blubbik UK ในอังกฤษ และ Bluebik Technology Center ที่อินเดีย ด้วยสัดส่วนการลงทุน 100% และ 80% ตามลำดับ ในขณะที่ลงทุนเปิด Bluebik Nexus ลุยงานวิจัยเทคโนโลยีแห่งอนาคต และ Blubik Titan โฟกัสงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ด้วยสัดส่วน 80% ทั้งสองบริษัท ที่เหลือเป็นการลงทุนของพันธมิตรธุรกิจและพันธมิตรเทคโนโลยี 

พชร กล่าวว่า บลูบิคต้องการเป็น Growth Partner ที่สามารถให้บริการลูกค้าในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันได้ตั้งแต่ต้นจนจบ คือ ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ ติดตั้งเทคโนโลยี ไปจนถึงร่วมลงมือทำ และร่วมทุนในการเติบโตต่อเนื่องต่อในอนาคต (End-to-end Digital Transformation Partner) ที่จะจับกลุ่มลูกค้าที่กว้างและใหญ่ขึ้นจากเดิมที่เน้นลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ จะขยายสู่ลูกค้าขนาดกลางและเล็ก (SME) และขยายไปสู่ลูกค้าในต่างประเทศ (Global Market) 

บลูบิค เปิดเกมรุก เร่งปั้นพอร์ตโฟลิโอ ติดสปีดขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก มั่นใจโตไม่ต่ำกว่า 70% ต่อปี

บลูบิค ทุบสถิติรายได้ – กำไร โชว์ผลงาน 6 เดือนแรก โตทะลุ 90%

การจะขยายตลาดทั้งในแนวตั้ง (คือจากตลาดลูกค้าขนาดใหญ่สู่ขนาดกลาง) และแนวนอน (คือจากตลาดในประเทศไปตลาดต่างประเทศ) จะต้องขยายทีมและขยายศักยภาพในการให้บริการของบลูบิค ต้องขยายรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ด้วยการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มเทคโนโลยี (Digital Platform)

บลูบิคเตรียมขยายทีมงานในประเทศจากปัจจุบัน 315 คน เพิ่มอีกเท่าตัวภายในปี 2023 ส่วนงานที่ Bluebik Technology Center ที่อินเดียจะเพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ 35 คนเป็น 50 คนภายในสิ้นปี 2022 และจะเพิ่มเป็น 100 คนในปี 2023 ซึ่งทีมงานที่อินเดียจะเน้นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนกาบุกตลาดที่ยุโรปของ Bluebik UK 

สำหรับประเทศไทย Bluebik Nexus จะเป็นเหมือนทีมวิจัยเทคโนโลยีแห่งอนาคต ที่จะเป็นสร้างการเปลี่ยนแปลงในอนาคต อาทิ บล็อกเชน เมตาเวิร์ส ควอนตัม ปัญญาประดิษฐ์ รวมถึง Bionic Humans และ Extedned Reality ซึ่งในช่วงแรกจะเริ่มที่บล็อกเชน จะเน้นที่การประยุกต์ใช้งานในกลุ่มผู้ใช้องค์กร ส่วน Bluebik Titan นั้นจะเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการโซลูชันด้านความปลอดภัยไซเบอร์ 

นอกจากนี้ บลูบิคจะเดินกลยุทธ์การเติบโตแบบขยายอัตราเร่ง (Inorganic Growth) ผ่านควบรวมกิจการ (M&A) พันธมิตรธุรกิจ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มการให้บริการงานที่ปรึกษาด้านการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน และเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เพื่อให้บริการลูกค้า SME ขนาดใหญ่ อาทิ HR operation, producrement, CRM และ e-commerce เป็นต้น เป็นการขยายฐานลูกค้าเป้าหมายจากเดิมที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ (SET50  และ SET100) ซึ่งเป็นตลาดใหม่สำหรับบลูบิค ที่เริ่มทำในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ในปีนี้ราว 5% ของรายได้รวม 

แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่เริ่มให้บริการแล้วคือ LISMA เป็น ERP integration และ SAP โมบายแอป ที่เพิ่งเปิดในไตรมาส 3 ปีนี้ และ HumanOS เป็น HR Solution ที่เปิดตัวในปี 2021 และกำลังอยู่ระหว่างการเข้าซื้อกิจการพันธมิตรอีกหนึ่งรายมูลค่าหลักหลายร้อยล้านบาทเพื่อเพิ่มพอร์ตโฟลิโอการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มเทคโนโลยี (digital platform) คาดว่าจะปิดดีลได้ในปี 2022 และเร่ิมให้บริการได้ปี 2023 

ที่ผ่านมา 5 ปี (2018 – 2021) บลูบิคทำตลาดได้ดีในกลุ่มธนาคาร ประกัน โทรคมนาคม ค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต และพลังงาน ทำให้บลูบิครักษาการเติบโตของธุรกิจไว้ที่ระดับ 70% ต่อเนื่อง พชร บอกว่า แม้ว่าบลูบิคจะเติบโตแข็งแกร่งมาก แต่ขนาดธุรกิจยังถือว่าเล็กมากหากเทียบกับตลาดรวมของการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันทั้งในประเทศไทยและตลาดโลก ที่มีเม็ดเงินลงทุนโดยตรงสำหรับการทำดิจิทัลทราส์ฟอร์เมชันที่เติบโตประมาณ 34-40% และ 16.5% ในประเทศไทยและทั่วโลก ตามลำดับ ที่สำคัญราว 65% ของจีดีพีโลก ถูกใช้ไปกับการลงทุนด้านดิจิทัล 

รายได้ปี 2021 อยู่ที่ 303 ล้านบาท ปี 2022 คาดจะเติบโตขั้นต่ำ 70% ยังไม่รวม inorganic growth จากการควบรวมกิจการ โดยมีรายได้จากต่างประเทศประมาณ​ 15% ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 20% ใน 3-5 ปี ในขณะที่ฐานรายได้รวมโตแบบ organic ที่ 70% ต่อปี 

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

บลูบิค ส่งนวัตกรรม ‘LISMA’ ที่ใช้งาน SAP ผ่าน LINE App ได้เรียลไทม์

Portfolio Company …. เป้าหมาย “บลูบิค กรุ๊ป” กับกลุยทธ์โตแล้วแตก แตกเพื่อโต

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ