TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessZAAP PARTY ชี้อีเวนต์ต้องปรับตัว เน้นขายไอเดียสร้างความแตกต่าง

ZAAP PARTY ชี้อีเวนต์ต้องปรับตัว เน้นขายไอเดียสร้างความแตกต่าง

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการจัดอีเวนต์ และ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้อมูลจากสำนักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ ชี้ว่ากลุ่มงานพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการธุรกิจ Event Organizer ในประเทศไทยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 13,000-14,000 ล้านบาท ซึ่งผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทำให้มูลค่าตลาดลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อสถานการณ์การระบาดในประเทศไทยเริ่มอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้

-VOOVAM แพลตฟอร์ม Virtual Live Streaming ใช้ AR จัดอีเวนต์-สัมมนา
-“อีเวนต์” ปรับไซส์ รอวันกลับสู่วิถี Old Normal

ZAAP PARTY ในฐานะหนึ่งในบริษัทอีเวนต์ ออแกไนเซอร์ เดินหน้าจับมือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดอีเวนต์ให้กับภาคธุรกิจ และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อม ๆ กัน

เทพวรรณ คณินวรพันธุ์ ซีอีโอ บริษัท ZAAP PARTY จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมาธุรกิจมีการเติบโตอยู่ที่ 77% และจากสเกลอีเวนต์ที่ใหญ่ขึ้นบริษัทมีรายได้ปี 2019 สูงถึง 500 ล้านบาท แต่เมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 เมื่อต้นปีที่ผ่านมาส่งผลให้รายได้ลดลงไป 75-80%

ZAAP PARTY ปรับตัวการทำงานโดยศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค วิเคราะห์ Pain Point ต่าง ๆ และนำมาผนวกกับเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมเพื่อสร้างปาร์ตี้ อีเวนต์ที่แตกต่างออกสู่สายตาประชาชนอยู่เสมอ เมื่อสถานการณ์การระบาดในประเทศไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น จึงเป็น Event Organizer เจ้าแรกที่จับมือพาร์ทเนอร์ ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการ ด้วยการจัดงานอีเวนต์ในรูปแบบใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ New Normal Festival

ใช้ ยุทธศาสตร์ 3 ข้อ คือ Creativity, Collaboration และ Consumer Needs เปลี่ยนโมเดลจากที่มีรายได้จากการขายบัตรในงานถึง 40% จากสปอนเซอร์ 60% เป็นการร่วมมือกับแบรนด์ เช่น ให้คนซื้อสินค้าเพื่อลุ้นรับบัตร และทำคอนเทนต์เพื่อส่งเข้าแพลตฟอร์มลูกค้า

ส่งผลให้สามารถจัดงานในยุค New Normal ได้ อย่าง TUK TUK Festival นำรถตุ๊กตุ๊กเข้ามาวิ่งในงาน มีคนร่วมงาน 600 คน Social This Camping ที่เชียงราย และ Hotel Fest ที่พัทยา เป็นรูปแบบชมคอนเสิร์ตจากริมระเบียง ซึ่งงานเหล่านี้ไม่ได้เก็บค่าบัตรลูกค้า

โจทย์ใหม่ในช่วง New Normal คือการจัดงานในต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพฯ เพราะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาไม่ได้ จึงต้องปรับให้ลักษณะอีเวนต์เป็นลักษณะไทยเที่ยวไทย แต่ทุกงานต้องเข้มงวดกับมาตรการป้องกันโควิด-19

เชียงใหม่เฟส 2 คาดว่าจะสามารถจัดได้ในปลายปีนี้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ โดยครั้งนี้จะเพิ่มเวทีเป็น 3 เวที จาก 2 เวที เพื่อกระจายความหนาแน่น และยังสามารถรองรับคนเข้าได้เท่าเดิมที่ 18,000 คน ทั้งนี้ทางงานจะไม่ขึ้นราคาบัตร และมีระบบผ่อนราคาบัตรเพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องจ่ายเงินก้อนเดียว

“จากการที่อีเวนต์เริ่มกลับมาจัดได้บ้าง เราเชื่อว่าในไตรมาส 3-4 มีโอกาสที่จะกลับมาสร้างรายได้ประมาณ 29% จากรายได้ในปีที่แล้ว”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

-ฮิตาชิ จับมือ นาสเกต ร่วมทดสอบบริการใหม่สำหรับเมืองอัจฉริยะในไทย
-K Climate Transition กองทุนลดโลกร้อน “ลงทุนอย่างยั่งยืน สร้างโลกยั่งยืน”
-เสียวหมี่ เปิดตัวเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพใต้จอ รุ่นที่ 3
-จับสัญญาณ “รัฐบาลถังแตก” จริงหรือ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ