TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistทำไม "นักท่องเที่ยวจีน" ไม่มาตามนัด?

ทำไม “นักท่องเที่ยวจีน” ไม่มาตามนัด?

เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายหลาย ๆ ประเทศรวมทั้งไทยได้ใช้การท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประกอบกับเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ รัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ อนุญาตให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเศรษฐกิจไทยกลับมีความหวังอีกครั้ง 

ใคร ๆ ก็นึกว่าท่องเที่ยวไทยน่าจะกลับมาเฟื่องฟู โดยเฉพาะตลาดหลักคือนักท่องเที่ยวจีน แม้จะยังไม่เท่าปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีชาวจีนมาเที่ยวไทยมากถึงเกือบ ๆ 11ล้านบาท หรือ 1 ใน 4 จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยเกือบ 40 ล้านคน ไทยเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่คนจีนอยากมาเที่ยว 

จึงไม่แปลกที่รัฐบาลไทยจะคาดหวังไว้สูงว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีคนจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวราว 5 ล้านคน แต่จากรายงานล่าสุดนักท่องเที่ยวจีนในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้กลับพลาดเป้าที่ตั้งไว้ ปรากฏว่านักท่องเที่ยวจีนมาไม่ถึง 2.5 ล้านคน ยิ่งทำให้แผนการที่ไทยวาดไว้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสียแล้ว

ทั้งที่ รัฐบาลภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ก็หวังจะใช้เครื่องยนต์ท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ ทดแทนการส่งออกที่ชะลอตัวลง ทิ้งไพ่เด็ดประกาศยกเลิกวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนเป็นเวลา 5 เดือน หวังจูงใจให้ชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น

แต่โชคร้ายหลังจากประกาศใช้ฟรีวีซ่าไม่กี่วันเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อเยาวชนวัย 14 ปีไล่ยิงคนในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และหนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิตเป็นคุณแม่ชาวจีนลูกสอง ได้สร้างความตกใจให้นักท่องเที่ยวจีน อย่างมากถึงขั้นพากันยกเลิกทัวร์เดินทางกลับประเทศในวันรุ่งขึ้นทันที

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของไทยติดลบอย่างมาก แม้บรรยากาศจะเริ่มคลี่คลาย แต่ยังมีคนจีนจำนวนหนึ่งมีความรู้สึกไม่ดียังมองไทยในแง่ลบ อีกทั้งยังมีเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เกิดกับนักท่องเที่ยวจีนที่ไม่เป็นข่าวในไทยแต่ไปเผยแพร่ในจีนสื่อตอกย้ำอยู่เรื่อย ๆ

ที่สำคัญ รายงานข่าวจากสื่อจีนระบุว่า กระแสข่าวลือบนโซเชียลมีเดียกระพือข่าวว่า มีคนจีนมาเที่ยวเมืองไทยบางส่วนถูกหลอก มาเป็นขบวนการของแก๊งค์สแกมเมอร์ในประเทศรอบ ๆ ของไทย แม้ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง แต่ก็ทำลายภาพลักษณ์ไทยทำให้ชาวจีนมองประเทศไทยเป็นดินแดนที่อันตราย 

ข่าวลือทั้งหลายส่วนหนึ่งมาจากคนจีนรุ่นใหม่ ๆ ที่มาทำมาหากินในเมืองไทย หรือคนจีนที่มาเที่ยวเมืองไทยนำเสนอเรื่องราวด้านลบแล้วนำไปเผยแพร่ในจีนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย หวังยอดไลค์ ยอดแชร์ จึงใส่สีใส่ไข่ เกินความจริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะต้องตรวจสอบพฤติกรรมคนเหล่านี้และต้องเร่งจัดการก่อนที่จะเสียหายมากกว่านี้ 

นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำให้คนจีนเข้ามาเที่ยวไทยน้อยลงส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจภายในจีนที่ยังไม่ฟื้นซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อของประชาชน แม้ทางการประกาศตัวเลขจีดีพี 5% ก็ตาม ซึ่งสวนทางกับความรู้สึกและชีวิตความเป็นอยู่จริง ๆ ของชาวบ้าน คนจีนตอนนี้ตกงานจำนวนมาก ต้องหันมาทำงานอิสระ ลดความฟุ่มเฟือยลง เงินทองจึงต้องใช้อย่างประหยัด มีคนจีนไม่น้อยที่ยังไม่พร้อมเดินทางท่องเที่ยวนอกประเทศ โดยเฉพาะคนมีอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของไทย 

ปัจจัยสำคัญที่หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนไม่ควรมองข้ามคือ นักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวไทยเขามีความรู้สึกไม่คุ้มค่า เที่ยวเมืองไทยแพงกว่าประเทศอื่น เที่ยวบินก็มีน้อย ตั๋วราคาแพง ที่พักโรงแรม อาหารการกินต่าง ๆ สปา ของฝากของที่ระลึก ทุกอย่างแพงขึ้นจากเดิมอย่างมากและแพงกว่าคู่แข่ง 

คนจีนรุ่นใหม่จึงหันไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ได้เปรียบจากค่าเงินเยนอ่อนมากกว่า ไปเที่ยวญี่ปุ่นจึงถูกกว่ามาเที่ยวเมืองไทยมาก การเดินทางก็ใกล้กว่า เที่ยวบินเยอะกว่าไทย ตั๋วราคาถูกกว่า ยิ่งคนจีนรุ่นใหม่ไม่ได้สนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีตกรณีจีนกับญี่ปุ่นเคยมีปัญหากัน ไม่เหมือนคนรุ่นเก่าฝังใจเรื่องนี้ คนจีนที่มาเที่ยวเมืองไทยจึงเป็นคนรุ่นเก่า ที่มีความผูกพันธ์กันในอดีตอย่างลึกซึ้ง

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวร้ายแต่ก็มีข่าวดีเล็ก ๆ คนในวงการการท่องเที่ยวบอกว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาไทยในตอนนี้เป็นกลุ่มตลาดบนแล้ว กลุ่มนี้จะเดินทางมาเองมากับครอบครัว พูดภาษาอังกฤษได้ไม่ต้องพึ่งบริษัททัวร์ ไม่ต้องพึ่งไกด์ ฐานะค่อนข้างดียอมจ่ายแพงเพื่อรับประทานอาหารดี ๆ โดยเฉพาะร้านอาหารคนไทย พักโรงแรมหรู ๆ ซื้อของจากร้านคนไทย ไม่ชอบต่อราคา ไม่เหมือนกับทัวร์ศูนย์เหรียญในอดีตที่อุดหนุนทุกอย่างที่เป็นของคนจีน อยู่ที่ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีกลยุทธ์ให้คนกลุ่มนี้มาเที่ยวเพิ่มขึ้นได้อย่างไร 

หากจะให้ฟันธงเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนพลาดเป้าคนจีนไม่มาตามนัด เพราะเรามัวแต่จับกรุ๊ปทัวร์จีน ไม่จับกลุ่มอื่นไม่กระจายความเสี่ยงไปประเทศอื่น ๆ รวมถึงการวางแผนที่ผิดพลาด ทั้งที่หลายปัจจัยไม่ได้เหนือความคาดหมาย ไม่ใช่เหตุสุดวิสัยแต่อย่างใด

ผู้เขียน: ทวี มีเงิน

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

“วิกฤติ” หรือ “ไม่วิกฤติ”

จุดตาย “ดิจิทัล วอลเล็ต”

“ส่วนต่างดอกเบี้ย” โจทย์ยากแบงก์ชาติ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ