ชัชชาติยอมรับเป็นหนี้บุญคุณ content creator เบื้องหลังความสำเร็จ 1.38 ล้านคะแนน
ต้องยอมรับว่า ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มีอะไรหลายๆ อย่างแตกต่างกับอดีตผู้ว่าฯ กทม.หลายๆ คนอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญการหาเสียงที่เป็นเบื้องหลังชัยชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อปีที่แล้วที่ได้คะแนนถึง 1.38 ล้านเสียง การวางจุดขายของตัวเอง และเมื่อเข้ามาทำงานแล้ว สไตล์การทำงานและการประชาสัมพันธ์ตัวเองก็ไม่เหมือนคนอื่นๆ
ซึ่งชัชชาติยอมรับว่า เขาเป็นหนี้บุญคุณเหล่า content creator ผู้ซึ่งมีบทบาทมากสำหรับชัยชนะครั้งนั้น
ชัชชาติเล่าเบื้องหลังดังกล่าวบนเวที iCreator Conference 2023 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา
“ตอนหาเสียงแรกๆ แรกผมไม่รู้จัก tiktok แต่ tiktok ทำให้เด็กอายุ 8-9 ขวบรู้จักผมกันหมดเลย พ่อแม่ของเด็กๆ ก็รู้จักผมจากคลิปใน tiktok ที่มีคนมาขอถ่ายวิดีโอผม ผมถามอย่างเดียวต้องเสียตังค์ไม๊ ถ้าไม่เสียก็ถ่ายไป และคลิปนั้นมียอดวิวถึง 7 ล้าน”
ตอนเป็นผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ชัชชาติก็ใช้สิ่งที่เขาเรียกว่า content creator มาช่วยคิดเนื้อหาเกี่ยวกับการทำงานทั้งของตัวเขาเองและการแก้ปัญหาต่างๆ ในกทม.
เขาและทีมงานเลือกที่จะใช้วิดีโอ Time-Lapse ในการถ่ายภาพการพัฒนาคลองผดุงกรุงเกษม การกำจัดผักตบชวาในคลอง การซ่อมถนน การเก็บขยะหรือการจัดระเบียบสายสื่อสารที่รกรุงรัง โดยบอกว่าเอาไอเดียมาจากเกาหลี
“เราคิดว่าจะ create content ยังไงให้คนรู้ว่าเรากำลังปรับปรุงแก้ไขปัญหาอยู่ ก็เลยทำเป็นวิดีโอ Time-Lapse ให้ดูเวลาแก้ปัญหา” ชัชชาติกล่าว
“ผมเชื่อว่าพลังของ content creator เปลี่ยนโลกได้ แต่สำคัญคือต้องมีเนื้อหาที่ดีด้วย” ชัชชาติกล่าว
แต่ใช่ว่าใครๆ จะสามารถาสร้างสรรค์เนื้อหาที่ดีและโดนได้ทุกคน ซึ่งชัชชาติฝากไว้ว่า หัวใจของการพัฒนาคอนเทนต์คือต้องเข้าใจ product (สินค้า) ที่คุณทำอยู่จริงๆ เหล่า content creator ต้องลงไปคลุกในพื้นที่จริงๆ เขายกตัวอย่างการแก้ปัญหาย่านถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ เขาก็มีทีมงานลงไปคลุกในพื้นที่เพื่อรวบรวมปัญหาและนำมาเสนอเขาอีกที
ชัชชาติเองก็สร้างคอนเทนต์ของตัวเองด้วย โดยบอกว่า เขาจะโพสต์เฟซบุคด้วยตัวเอง แต่ก่อนจะโพสต์ เขาจะส่งข้อความหรือสารนั้นไปให้กลุ่มอเวนเจอร์ของเขาดูก่อนว่าจะอนุมัติหรือไม่
ต้อง authenticity ไม่ใช่ fake
และที่สำคัญ ต้องมีความ authenticity (ความจริงแท้)
ชัชชาติบอกว่า การครีเอท คอนเทนต์อันแรกสุดสำหรับตัวเขาเองคือ ภาพที่เขาใส่เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นสีดำเดินถือถุงแกงด้วยเท้าเปล่าเข้าวัด
ภาพดังกล่าวถูกปล่อยมาในโลกออนไลน์เมื่อ 10 ปีก่อนขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลในขณะนั้น และชัชชาติเคยติดโพลล์ว่าเป็น “รมต.โลกลืม” เนื่องจากไม่เป็นที่รู้จักของประชาชน และยังไม่มีผลงานออกมาโดดเด่น แต่ภาพนั้นกลับกลายเป็นไวรัลและทำให้เขาเป็นที่รู้จักของคนมากขึ้น และมีคนตั้งฉายาเขาว่าเป็น “รมต.ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี”
“ตอนนั้นผมเป็นรัฐมนตรีคมนาคม ไม่มีคนรู้จักเลย แต่พอมีภาพนี้ออกมา มันกลายเป็นมีมและอยู่ยั้งยืนยงมาจน 10 ปี ถามว่าทำไม เพราะ authenticity หรือการเป็นตัวตนของคุณนั่นเอง คุณไม่ต้องไปดัดจริต จะไวรัลไม่ไวรัลไม่เป็นไร ตราบเท่าที่ไม่ใช่คอนเทนต์ที่ fake (ปลอม หลอกลวง)” ชัชชาติกล่าว
