TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistเรื่องของคน 3 วัย กับ 3 เวลา

เรื่องของคน 3 วัย กับ 3 เวลา

ในบรรยากาศของศักราชใหม่ เฉกเช่นในเวลานี้ ทำให้เห็นความสำคัญของคำว่าเวลาในหลาย ๆ มิติ วันนี้อยากเอาวัยของคนเปรียบเทียบกับช่วงเวลาในหนึ่งวัน ว่าแนวคิดวิธีการดำรงชีวิตเป็นอย่างไร

รุ่งอรุณ แสงของการเริ่มต้น การเปลี่ยนแปลง

แสงแห่งรุ่งอรุณเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้น หลังจากการหลับใหลมาระยะหนึ่ง เป็นบรรยากาศเหมาะกับการเริ่มต้นด้วยพลัง มีชีวิตชีวา เปรียบได้กับคนในวัย Gen Z หรือช่วงอายุ 12-26 ปี (บางข้อมูลบอกว่าอยู่ในวัย 21-36 ปี) พวกเขาเหล่านั้นเติบโตกับเทคโนโลยี ผลที่เห็นได้ชัดคือต้องการอะไรที่ “แรงและเร็ว”  ที่เห็นได้ชัดอีกอย่างคือ ความซับซ้อน คนรุ่นนี้มีความหลากหลายในด้านพฤติกรรม แล้วแต่ข้อมูลและการเรียนรู้ที่เขาจะได้รับมา บุคลิกโดยรวมที่เห็นได้ชัด คือชอบการเปลี่ยนแปลง กล้าตัดสินใจ ต้องการเห็นผลเร็ว แต่ผลของความรวดเร็วและรุนแรง ก็สร้างให้คนอีกกลุ่มในวัยนี้ที่ตามไม่ทัน

คนรุ่น Gen Z นี้ว่ามักถูกวิจารณ์ว่า ไม่สู้งาน พร้อมจะเปลี่ยนงาน และมีงานวิจัยบางที่บอกว่า 40% ของคนในวัยนี้ พร้อมจะลาอกจากงานที่ทำอยู่ แม้จะมี่งานใหม่รองรับ เพราะไม่อยากเป็นบ้าเพราะงานที่ทำอยู่ เรามีคำศัพท์ที่อธิบายพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ อาทิ Quiet Quitting ที่เริ่มไม่เชื่อแล้วว่าการเริ่มต้นการทำงานจากตำแหน่งเล็ก ๆ เติบโตในองค์กรขึ้นไปเรื่อย ๆ ช้า ๆ สม่ำเสมอ จะเป็นเสน่ห์สำหรับคนในวัยนี้อีกต่อไป เพราะเห็นผลช้า หรือบางคนอยากเป็นชาว NEET (Not in Education, Employment or Training) ที่ไม่อยากทำงานประจำ นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่บ้าน (ให้พ่อแม่เลี้ยง) ใช้ชีวิตไปวัน ๆ เล่นเกมส์ ไม่เกี่ยวข้องข้องแวะกับใคร นอกจากเพื่อนในสังคม Digital หรือแม้แต่ทัศนคติการดำรงชีวิต คนในวัยนี้มักจะเป็น Waithood ที่ไม่รีบมีครอบครัววัยหนุ่มสาว (หรือจะเรียกว่าปรากฏการณ์ 30 ยังโสด) เนื่องจากไม่พร้อมจะมีความรับผิดชอบคนอื่น หรือไม่มั่นใจในสภาพสังคมปัจจุบัน

คนวัยนี้เก่งในเรื่องการใช้เครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่ ความคิดความอ่านเร็ว กล้าได้กล้าเสีย เรื่องการหารายได้ ดูเหมือนจะหาได้ง่าย ได้เร็วและได้มาก จนบางครั้งการใช้จ่ายก็ฟุ่มเฟือยเกินอายุ จนลืมข้อเท็จจริงว่า อะไรที่มาง่ายมาเร็ว ก็จบได้เร็วเหมือนกัน “มาเร็ว เคลมเร็ว” เราจึงเห็นคนรุ่นนี้โดยเฉพาะบรรดา influencer ที่มีรายได้มหาศาลจากคลิปวันนี้ แต่วันรุ่งขึ้นก็เลือนหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

คนในวัยนี้ มีความกดดัน เคร่งเครียด ต่างจากบรรยากาศในวัยที่เริ่มต้น ที่ควรจะเป็นอรุณรุ่ง สดใส แต่การอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีนำการเปลี่ยนแปลง ยิ่งกว่ายุคปฏิวัติอุตสาหกรรม หรือยุคเหล็ก ทำให้เด็กยุคใหม่มีความแตกต่างและมีความแตกแยกในพฤติกรรมที่ต้องเข้าใจมากกว่า

ตะวันสาดส่อง เมื่อต้องเข้มทุกบทบาท

Sandwich Generation คือชื่อที่เหมาะสมกับคนในวัยนี้ หรือคนในกลุ่ม Gen Y ซึ่งก็คือคนวัยกลางคน ที่มีทั้งบุพการีที่ต้องดูแล ต้องมีลูก ที่ต้องรับผิดชอบ ภาระหนักในฐานะเสาหลัก (จะเป็นเสาเดี่ยวหรือเสาคู่ก็แล้วแต่สถานภาพ) ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนทำงานที่เข้าสู่วัยกลางคนที่ “ห่วงหน้า พะวงหลัง” ทำให้ต้อง “คิดหน้า คิดหลัง”

ความหมายก็คือ “ห่วงหน้า” คือความกังวลในเรื่องอนาคตของตัวเองของสมาชิกในครอบครัว จนบางครั้งการตัดสินใจจะออกจาก comfort zone ไม่ง่าย เพราะกังวลกับอนาคตที่ไม่รู้ ทำให้ต้องพะวงกับบุคคลในความรับผิดชอบ “การคิดหน้า” เกี่ยวกับอนาคตจึงต้องวางแผนทั้งของตนเองและสมาชิกในครอบครัว ขณะเดียวกันก็ต้อง “คิดหลัง” ว่าหากเราเป็นอะไรไป ความรับผิดชอบจะตกอยู่กับคนข้างหลังอย่างไร เขาจะได้ไม่ทุกข์

  • การสร้างเงินออมสำหรับวัยเกษียณของตนเอง
  • การสร้างหลักประกันสำหรับคนที่อยู่ข้างหลัง
  • การมีเงินฉุกเฉิน หากมีเรื่องกะทันหันแบบที่ไม่คาดคิด
  • ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่คนรุ่นนี้ต้องมีความพร้อม ซึ่งอาจจะมีระยะเวลาที่แตกต่างกัน บางเรื่องอาจจะต้องรีบทำ บางเรื่องต้องใช้เวลาในการสะสม อันนี้ขึ้นอยู่กับผลของการวางแผนตั้งแต่ยุครุ่งอรุณ เขาว่ากันว่า การเริ่มต้นก่อนจะได้เปรียบก่อน

โรยรา หยุดที่วัยนี้ หรือ วัยไม่มีผล

เวลาบ่ายคล้อยสู่การลาลับของแสงตะวัน ทำให้เวลาชีวิตของเราดูจะอ่อนล้าลง คนในวัยนี้ส่วนใหญ่จะเดินทางมาแล้วครึ่งร้อย เหนื่อยกายเหนื่อยใจกันไม่ใช่น้อย แต่สำหรับ YOLD (Young Old) ไม่ปล่อยให้จำนวนอายุมาบดบังประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาของตน ยิ่งแนวโน้มว่าคนไทยกำลังเข้าสู่ยุคชราเป็นใหญ่ จากจำนวนเด็กเกิดใหม่น้อย แต่คนสูงอายุยาวนานขึ้น

สำนวนระหว่างเงินกับอายุใครจะหมดก่อนกัน! ยังไม่ล้าสมัย หากตายก่อนเงินหมด เขาว่าคือความสุข เพราะยังเหลือให้คนอื่นได้ แต่หากเงินหมดก่อนอายุนี่สิ…ปัญหาเลย

คนรุ่น YOLD เป็นกลุ่มคนสูงอายุที่พร้อมจะใช้ชีวิตบนเส้นทางที่อาจจะไม่ได้ทำอย่างที่วาดฝันในวัยหนุ่มสาว หรือบางคนยังมีความพร้อมที่จะทำงานตามความพร้อมของร่างกายและจิตใจ การไม่ปล่อยให้ชีวิตค่อย ๆ แห้งไปตามอายุ เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน

หากคิดได้เช่นนี้ ก่อนอื่นต้องเตรียมตัวมาตั้งแต่เช้า หลายคนไม่ได้ทำงานอย่างที่หวัง หรืออาจจะทำงานไปนาน ๆ แล้วไม่ชอบ ก็จะถือโอกาสในช่วงนี้เปลี่ยนแปสู่ความต้องการของตัวเอง โดยเป็นอิสระ ไม่ต้องมีภาระ ซึ่งนั่นหมายความว่าได้เตรียมแผนไว้เรียบร้อยแล้ว

ในหนึ่งวันจะมีช่วงเวลาไหนที่ยาวสั้นแค่ไหน คุณเป็นคนกำหนดและวางแผนครับ

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

ทำงาน 40 ปี ใช้ชีวิต 60 ปี ในชีวิตของคน ๆ หนึ่ง มีการเรียนรู้มากมาย

เงินทองเป็นของคนอื่น !! ไม่ผิดที่อยากมีรายได้สูง ๆ แต่ผิดที่ไม่มีทัศนคติและเป้าหมายที่ถูกต้อง

การบริหารชีวิตให้มี “ความสุข” ด้วย “สำเร็จ” ด้วย นั้นเป็นเรื่องยาก แต่ทำได้

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ