บล็อกเชน นับเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยี ที่ผู้นำทางความคิดหลายคนให้ความเห็นว่าจะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับเศรษฐกิจในอนาคต เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของการเงินเท่านั้น แต่บล็อกเชนยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งห่วงโซ่อุปทาน การแพทย์ ฯลฯ นั่นจึงทำให้หลายคนเริ่มหันมาศึกษาการพัฒนาบล็อกเชนกันอย่างจริงจังมากขึ้น
เช่นเดียวกับเทคโนโลยีดิจิทัลอื่น ๆ การจะพัฒนาบล็อกเชนได้นั้นจำเป็นต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับภาษาสำหรับเขียนโปรแกรม โดยบทความนี้ได้รวบรวม 5 ภาษาโปรแกรมสำหรับการพัฒนาบล็อกเชนที่นิยมใช้มากที่สุด จะมีภาษาอะไรบ้างมาดูกัน
Solidity
Solidity คือภาษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเขียน Smart Contract ซึ่งใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันต่าง ๆ ขึ้นบนบล็อกเชน โดยเฉพาะบนเครือข่าย Ethereum โดย Solidity เป็นภาษาประเภท Statically typed คล้ายกับ JavaScript ผู้พัฒนาสามารถใช้ Solidity ในการกำหนดกฎเกณฑ์และ Logic สำหรับ Smart contract ซึ่งเป็นสัญญาดิจิทัลที่สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองเมื่อครบเงื่อนไขตามที่มันถูกเขียนขึ้นมาได้
คุณสมบัติสำคัญ:
- ออกแบบมาสำหรับ Smart Contract บนบล็อกเชน Ethereum
- มีชุมชนนักพัฒนาที่ใช้ภาษานี้เป็นจำนวนมาก
- ทำงานร่วมกับเครื่องมือเพื่อการพัฒนาอย่าง Remix และ Truffle ได้
- รองรับเครื่องมือด้านความปลอดภัยอย่าง MythX เพื่อช่วยหาช่องโหว่ของโค้ดได้
- มี Libraries และ Frameworks สำหรับการพัฒนา DApp ที่กว้างใหญ่
Rust
Rust เป็นภาษาโปรแกรมที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในวงการนักพัฒนาบล็อกเชน ยกตัวอย่างโปรเจกต์ชื่อดังอย่าง Polkadot กับ Chainlink ก็ใช้ Rust ในการพัฒนา โดยจุดเด่นของภาษา Rust คือสามารถป้องกันการใช้หน่วยความจำผิดพลาดและมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี Rust จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการพัฒนาโครงสร้างของโหนดไปจนถึงส่วนประกอบสำคัญของบล็อกเชน
คุณสมบัติสำคัญ:
- ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย การบริหารหน่วยความจำ และการทำงานพร้อมกัน (Concurrency)
- เหมาะสำหรับการสร้างโหนดของบล็อกเชนและ Runtime environments
- ประสิทธิภาพการทำงานสูงและมีการควบคุมระบบต่ำ
- ได้รับความนิยมในวงการบล็อกเชนมากขึ้นเรื่อย ๆ
- มีระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาบล็อกเชนหลากหลายรูปแบบ
JavaScript (Node.js)
JavaScript โดยเฉพาะ Node.js นับเป็นภาษาที่ได้รับความนิยมในการพัฒนาแอปพลิเคชันกระจายอำนาจที่ทำงานร่วมกับบล็อกเชนมากกว่าเครือข่ายเดียว และยังเป็นภาษาสำหรับนักพัฒนาเว็บที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชันบนบล็อกเชนที่สามารถสื่อสารกับ Smart contract ผ่าน Web3 Libraries ได้
คุณสมบัติสำคัญ:
- ถูกใช้อย่างกว้างขวางทั้งการพัฒนาแบบ Frontend และ Backend
- นิยมใช้สร้างอินเทอร์เฟซและ API ของบล็อกเชน
- มี Libraries ขนาดใหญ่ รวมถึงเครื่องมืออย่าง web3.js และ ethers.js
- นักพัฒนาใช้ภาษานี้เพื่อสร้างแอปฯ บนบล็อกเชนแบบ Full-stack ได้
Go (Golang)
Go หรือเรียกอีกแบบว่า Golang เป็นอีกภาษาโปรแกรมหนึ่งที่เริ่มได้รับความนิยมในวงการบล็อกเชนมากขึ้น มีจุดเด่นที่ความเรียบง่ายแต่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูง จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการพัฒนาโหนดและระบบ Backend สำหรับบล็อกเชน
คุณสมบัติสำคัญ:
- ให้ความสำคัญกับการทำงานพร้อมกัน (Concurrency) และการทำงานแบบคู่ขนาน (Parallelism)
- เหมาะสำหรับการพัฒนาโครงสร้างส่วนประกอบของบล็อกเชน
- ถูกใช้ในการพัฒนาโปรเจกต์อย่าง Bitcoin, Ethereum และ Hyperledger Fabric.
- ดำเนินคำสั่งได้เร็วและมีประสิทธิภาพ
- มี Libraries และชุมชนนักพัฒนาขนาดใหญ่
C++
C++ เป็นภาษาโปรแกรมที่ถูกใช้มาอย่างยาวนาน รวมถึงวงการบล็อกเชนด้วยเช่นกัน เพราะมันถูกใช้ในการพัฒนา Codebase ของ Bitcoin ถึงแม้ภาษานี้จะไม่ค่อยเป็นมิตรกับมือใหม่เท่ากับภาษาอื่น แต่ C++ ก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญกับการพัฒนาบล็อกเชนระดับโลกอย่าง Bitcoin รวมถึงโปรเจกต์อื่น ๆ ด้วย
คุณสมบัติสำคัญ:
- ถูกใช้ในการพัฒนา Codebase ของ Bitcoin
- มีระดับการควบคุมทรัพยากรของระบบที่ต่ำ
- เหมาะสำหรับการพัฒนาส่วนประกอบหลักของบล็อกเชน
- มีประสิทธิภาพการทำงานสูง
- มี Libraries และทรัพยากรสำหรับการพัฒนาบล็อกเชนขนาดใหญ่
สรุป
การเลือกภาษาโปรแกรมเพื่อพัฒนาโปรเจกต์เกี่ยวกับบล็อกเชนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคนและขึ้นอยู่กับว่าต้องการนำไปพัฒนาส่วนใดของบล็อกเชน เช่น หากต้องการเขียน Smart contract เพื่อสร้างแอปพลิเคชันบนบล็อกเชน Solidity ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ในขณะที่ภาษาอย่าง Rust, JavaScript, Go, และ C++ ก็ให้ทางเลือกที่หลากหลายและมีความถนัดที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ วงการบล็อกเชนก็ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักพัฒนาหรือผู้ที่สนใจก็ควรเปิดใจให้กว้างสำหรับภาษาโปรแกรมใหม่ ๆ ที่อาจเข้ามาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในอนาคตด้วยเช่นกัน
อ้างอิง Bitkub Blog
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจของผู้เขียน
6 วิธีสังเกต โปรเจกต์คริปโทไหนเป็นของปลอม!
7 วิธีบริหารพอร์ตคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อการลงทุนที่ยั่งยืน
รู้จัก STABLECOIN ทั้ง 4 ประเภท ทำไมนักลงทุนถึงชื่นชอบเหรียญเหล่านี้