TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistพลิกวิกฤติ Great Resignation ให้เป็นโอกาสสำหรับคุณ

พลิกวิกฤติ Great Resignation ให้เป็นโอกาสสำหรับคุณ

ช่วงนี้เวลาผมคุยกับ HR ในหลายอุตสาหกรรม หนึ่งในหัวข้อที่พูดถึงเหมือนกันอย่างไม่ได้นัดหมาย คืออัตราการลาออกของพนักงานที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนในองค์กร ซึ่งเกิดขึ้นในทุกระดับตั้งแต่พนักงานที่เพิ่งเริ่มทำงานไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงขององค์กร

แนวโน้มการลาออกที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย หลายคนที่ตามข่าวจะทราบว่าประเด็นนี้มีการพูดถึงในฝั่งอเมริกา และยุโรปตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา โดยเรียกกันว่าปรากฏการณ์ Great Resignation ซึ่งหลายธุรกิจได้รับผลกระทบจากการลาออกของพนักงาน เช่น ในบริษัทในธุรกิจขนส่งที่ขาดคนขับรถส่งของ จนต้องมีการดึงดูดพนักงานใหม่ด้วยโบนัสแรกเข้าหลักแสนบาท หรือร้าน Fast Food หลายร้านต้องปิดช่วงบ่าย เพราะไม่มีพนักงานประจำร้าน เป็นต้น

ตัวผมเองก็สังเกตในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา notification ใน LinkedIn มีแจ้งการย้ายงานใหม่ของ connection ที่ผมรู้จักแทบทุกวัน เป็นการยืนยันว่า Great Resignation มาถึงเมืองไทยแล้วจริง ๆ

ถ้ามองในมุมนายจ้าง หรือ HR ปรากฏการณ์นี้คงทำให้องค์กรเหนื่อยมากขึ้นในการดึงดูด และรักษาพนักงานโดยเฉพาะกลุ่ม Talent ให้อยู่กับองค์กร แต่ถ้ามองในมุมพนักงานอย่างเรา Great Resignation เป็นโอกาสที่ดีสำหรับ Talent ไม่ว่าคุณจะอยากเปลี่ยนงานหรือไม่ก็ตามลองคิดตามผมว่าคุณจะใช้วิกฤติ (สำหรับนายจ้าง) นี้ให้เป็นโอกาสสำหรับคุณได้อย่างไร

หากคุณกำลังมองหาโอกาสย้ายงานอยู่ นี่เป็นโอกาสเหมาะที่ตลาดเป็นลูกจ้าง (โดยเฉพาะ Talent) ถ้าบริษัทที่คุณอยู่ไม่เห็นคุณค่า หรือความสามารถของเรา นี่เป็นโอกาสที่เปิดให้คุณย้ายไปหาบริษัทที่เห็นคุณค่า และพร้อมจะจ่ายให้เหมาะสมกับความสามารถของคุณ ถ้าคุณเก่งและมีความสามารถจริง ๆ ไม่ได้คิดไปเองคนเดียว ผมเชื่อว่าตั้งแต่ต้นปี คุณน่าจะได้รับการติดต่อทาบทามจาก Head Hunter สำหรับโอกาสใหม่ ๆ บ้างไม่มากก็น้อย ลองพิจารณาเลือกให้ดีก่อนตัดสินใจไปองค์กรใหม่ที่เห็นคุณค่า และให้โอกาสเรามากกว่า

หากคุณรู้สึกโอเคกับงานปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นตัวงาน หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ภาพรวมมีความสุขดี สามารถอยู่ได้อย่างน้อย 3-5 ปี สบาย ๆ ช่วงนี้เป็นโอกาสเหมาะที่จะ update resume ของตัวเอง สำรวจตลาด และสร้าง connection กับ head hunter พนักงานจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกมีความสุขกับงานปัจจุบัน มักจะชะล่าใจไม่สนใจตลาดงานข้างนอก หรือทำความรู้จัก สร้างสัมพันธ์กับ Head Hunter เพราะคิดว่าไม่จำเป็นผมอาจจะมองต่างว่า จริงอยู่เราอาจไม่ได้อยากเปลี่ยนงานตอนนี้ แต่ใช่ว่าเราจะไม่ต้องการเปลี่ยนงานตลอดชีวิต

ผมนึกถึงสุภาษิตจีนที่บอกว่า อย่าขุดบ่อน้ำเมื่อหิว การเตรียมความพร้อมด้วยการสร้างสัมพันธ์กับ Head Hunter ดี ๆ เพื่อทราบความต้องการของตลาดแรงงาน และทำความรู้จักซึ่งกันและกัน จะช่วยให้เราเตรียมพัฒนาทักษะที่ตลาดต้องการ และทราบช่วงของเงินเดือนในตำแหน่งที่เราเทียบกับตลาด ย่อมทำให้เราได้เปรียบเมื่อวันหนึ่งเราต้องการจะเปลี่ยนงาน 

สุดท้าย หากคุณรู้สึกว่างานและองค์กรที่เราอยู่ใช่สำหรับเราจริง ๆ เราอาจจะอยู่ในกลุ่ม Talent ที่บริษัทกำลังพัฒนา และเตรียมเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งสำคัญ หรือองค์กรเห็นคุณค่าและใช้จุดแข็งของเรา ในขณะที่เงินเดือนและสวัสดิการอื่นก็เป็นที่พอใจ ผมแนะนำว่าใช้โอกาสนี้ในการสื่อสารกับหัวหน้างาน HR และผู้บริหารว่าคุณ commit กับองค์กร พร้อมที่จะร่วมฝ่า Great Resignation ไปด้วยกันกับองค์กร เท่านี้คุณจะได้ใจหัวหน้า และผู้บริหารไปอีกไม่น้อย ซึ่งจะส่งผลดีกับ career ของคุณในระยะยาว 

การเป็น Talent นอกจากทำให้คุณได้เปรียบพนักงานคนอื่น ๆ ในองค์กรแล้ว หากรู้จักเปลี่ยนวิกฤติ Great Resignation ให้เป็นโอกาสสำหรับตัวคุณได้ ก็ยิ่งทำให้มีแต้มต่อในการทำงานไม่ว่าตอนนี้คุณกำลังมองหางานใหม่  หรือมีความสุขสุด ๆ กับงานปัจจุบันก็ตาม เพราะโอกาสนั้นเป็นของคนที่เห็นและไขว่ขว้า… 

ผู้เขียน: ชัชพล ยังวิริยะกุล

บทความอื่น ๆ จากผู้เขียน

ประคองตัวเองไม่ให้ burnout หลัง Omicron บุกอย่างไรดี?

เปลี่ยนจาก trend watcher เป็น trendsetterใน 3 ขั้นตอน

การเขียน … ทักษะถูกมองข้ามในการทำงานยุค Hybrid Workplace

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ