TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากเข้ามาทำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 2 ปี กว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 800 กว่าล้านคน ในประเทศไทยมีผู้ใช้งานรายเดือนอยู่ที่ประมาณ 18.5 ล้านคน และใช้งานเฉลี่ย 7 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ต่อวันต่อคน
ปกรณ์ วัฒนเฉลิมวุฒิกร, หัวหน้าฝ่ายการตลาด ประเทศไทย กล่าวกับ The Story Thailand ว่า TikTok เป็นแอปพลิเคชันสำหรับทุกคนที่เข้ามาสร้างสรรค์แรงบันดาลใจ และยังสามารถตัดต่อหรือตกแต่งวิดีโอ และเสียงเพลง รวมถึงใส่เอฟเฟคต่าง ๆ จบภายในแอปฯ
จุดเด่นของ TikTok มีหลายปัจจัย คือ
1.ความสดใหม่ของแอปฯ ที่เข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แค่ประมาณ 2 ปีกว่า
2.การบริโภควิดีโอสั้นกำลังได้รับความนิยม
3.แมชชีนเลิร์นนิ่งที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ช่วยแยกหมวดที่เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน ให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด
4.เครื่องมือการตลาด มีแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มนำ TikTok ไปเป็นเครื่องมือทางการตลาด เพื่อสื่อสารกับลูกค้า
“เราพยายามพัฒนาแคมเปญและฟีเจอร์ต่าง ๆ ออกมาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค”
ผุดแคมเปญ-ฟีเจอร์ ตอบโจทย์ผู้บริโภค
ปกรณ์ กล่าวว่า TikTok พยายามเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ และสร้างความหลากหลายของเนื้อหาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ที่มีความต้องการและความสนใจแตกต่างกันในกลุ่มเพศ และอายุ เช่น คนที่อยู่ในช่วงอายุ 18-25 ปี หรือ 25-34 ปี จะสนใจมากกว่าความสนุกสนาน แต่สนใจเนื้อหาที่ให้ความรู้ได้ ซึ่ง TikTok มีแคมเปญอย่าง #TikTokUni ที่ผสมผสานระหว่างความสนุกและสาระความรู้ ทั้งด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ รวมถึงการพัฒนาตนเอง โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ของครีเอเตอร์ ให้มีทั้งความสั้น กระชับ สนุกสนาน และส่งต่อข้อมูลได้
“เราพยายามพัฒนาฟีเจอร์หรือแคมเปญให้เหมาะกับผู้ใช้ ทำแคมเปญที่เหมาะกับเมืองไทย เช่น เดือนเมษายนที่ผ่านมา คนต้องอยู่บ้าน แต่จะทำอย่างไรให้เขาไม่เบื่อ จึงเป็นที่มาของแคมเปญ #เมษาathome ให้คนเข้ามาโชว์สกิลต่าง ๆ หรือส่งต่อความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งมียอดวิวรวมสูงถึง 1.5 พันล้านวิว”
นอกจากนี้ยังร่วมมือกับองค์กรระดับโลกอย่าง WHO Unicef และ กระทรวงสาธารณสุขของไทย เพื่อใช้ TikTok เป็นสื่อกลางส่งต่อข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว ฉับไว และถูกต้อง
ปัจจุบันมีการเปิดฟีเจอร์ Live ให้กับบางผู้ใช้ เป็นการทดสอบเพื่อดูว่าแบบไหนจะตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีที่สุด ฟังก์ชันใช้งานยังเป็นแบบพื้นฐาน แต่ก็จะค่อย ๆ มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ออกมา ซึ่ง TikTok มีเป้าหมายที่จะเป็นแพลตฟอร์มของทุกคน จึงพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ
“การทำเป็นวีดีโอสั้นมีความท้าทายในระดับหนึ่ง เพราะในปัจจุบันโลกเรามีข้อมูลข่าวสารเยอะมาก ขณะที่คนมีแนวโน้มที่จะรับข่าวสารแบบกระชับฉับไวมากขึ้น”
สร้างรายได้จาก Reach และ Engagement
TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่หารายได้จาก Reach แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ Brand takeover, In feed ads และ Top view รายได้อีกส่วนมาจาก Engagement แบ่งเป็น Hashtag challenge และ Branded Effect
TikTok มีจุดเด่นหลายอย่างที่นักการตลาดจะใช้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ ทั้ง Reach และ Engagement ปัจจุบันมีแบรนด์เข้ามาร่วมหลากหลาย ทั้งเครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องดื่ม
ขยายฐานลูกค้า สร้างระบบนิเวศ
ปกรณ์ กล่าวว่า TikTok พยายามพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดี ข้อแรก คือ การกระจายเนื้อหาให้มีความหลากหลาย มีเรื่องของการศึกษาผสมผสานกับความสนุกสนาน เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น
ส่วนที่สอง คือ การตลาดดิจิทัล เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงขยายกลุ่มผู้ใช้กลุ่มอื่นให้มากขึ้น
“เราพยายามสร้างสรรค์แรงบันดาลใจ ให้ทุกคนเข้ามาใช้งาน และสร้างสรรค์วีดีโอในแบบที่ตัวเองเป็น ตอบโจทย์ผู้ใช้ ครีเอเตอร์ และแบรนด์ ที่เป็นระบบนิเวศของเรา”
บทสัมภาษณ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
-Bitkub แนะทำกลยุทธ์ดิจิทัล รับมือ Force Disruption
-โควิดดันออนไลน์อีเวนต์บูม ก่อนลู่สู่ไฮบริด
-Save Thailand 4.0 .. save สตาร์ตอัพไทย
-BUILKONE ปรับมุมธุรกิจ พิชิตโควิด-19
-มิวเทอร์ม เฟสเซนซ์ นวัตกรรมไทย วัดอุณหภูมิใน 0.1 วินาที
