TH | EN
TH | EN
หน้าแรกStartup“บิทคับ เวนเจอร์ส” เพาะพันธุ์กล้าสตาร์ตอัพไทย

“บิทคับ เวนเจอร์ส” เพาะพันธุ์กล้าสตาร์ตอัพไทย

“เราอยากช่วย อยากให้โอกาสสตาร์ตอัพ เพราะบิทคับเองก็เคยเป็นสตาร์ตอัพมาก่อน” 

เนาวรัตน์ ธรรมสวยดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด เริ่มต้นการสนทนากับ The Story Thailand ด้วยวิสัยทัศน์ของบิทคับพร้อมเปิดโอกาสและให้การสนับสนุนด้านการเงิน การช่วยเหลือด้านองค์ความรู้ต่าง ๆ และเป็นพี่เลี้ยงในการทำธุรกิจให้กับสตาร์ตอัพไทย

ภูมิทัศน์สตาร์ตอัพไทย

แม้ไทยจะมีสตาร์ตอัปที่โตในระดับยูนิคอร์น หากด้วยจำนวนประชากรที่มีเพียงแค่ 60 กว่าล้านคน เมื่อเทียบกับคู่แข่งเช่นอินโดนีเซียที่มีจำนวนประชากรสูงถึง 260 ล้านคน ซึ่งสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขยายการเติบโตได้ง่ายกว่า สตาร์ตอพไทยจึงต้องคิดให้ไกลกว่าการพัฒนาเพียงเพื่อรองรับเฉพาะการใช้งานในประเทศ แต่นั่นหมายถึงตัวเลขเงินลงทุนที่สูงขึ้นตามมา

“ปัญหาของสตาร์ตอัพไทยโดยเฉพาะระดับ Seed Stage มักจะระดมทุนได้ค่อนข้างลำบากแม้ว่าราคาลงทุนจะต่ำกว่า เมื่อเทียบกับระดับ series A ซึ่งมีทั้งลูกค้าและเห็นผลการเติบโตมาระดับหนึ่ง อีกทั้งกว่าจะสำเร็จก็ยากและมีความเสี่ยงล้มเหลวมากถึง 90%”

ดังนั้น การลงทุนกับสตาร์ตอัพประการแรกก็ต้องดูว่า เป็นการลงทุนที่เข้าข่ายเมกะเทรนด์หรือมีความต้องการสูงหรือไม่ เพื่อตอบโจทย์การลงทุนให้เข้าเป้า ประการที่สอง คือ การลงทุนในตัวโปรดักส์ บริการเฉพาะด้าน หรือคอนเทนต์ต่าง ๆ อาจจะโตในระดับหนึ่งแต่ต้องใช้เงินเยอะ และสเกลธุรกิจอาจอยู่แค่ระดับเอสเอ็มอี แต่การดันบาร์ให้สูงไปถึงระดับแพลตฟอร์มที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งในต่างประเทศจะทำให้โตมากขึ้นและตอบโจทย์ในระดับเมกะเทรนด์ได้ดีกว่า 

นอกจากนี้ การพิจารณาตัวผู้ก่อตั้งก็ถือว่ามีความสำคัญ ตลอดจนปัจจัยอื่น ๆ เช่น บทบาทการสนับสนุนจากภาครัฐที่ถือว่าเพิ่มขึ้นมาก อาทิ โครงการดีป้า ซึ่งอุดหนุนสตาร์ตอัปซึ่งเป็นธุรกิจเทคเกือบ 80% มีผู้ลงทุนเกิน 24 เดือน ก็จะอนุมัติให้ได้รับการยกเว้นภาษีถ้ามีกำไรจากการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนเข้ามาช่วยสตาร์ตอัปมากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนการร่วมลงทุนอื่น ๆ (Matching Fund) เพิ่มเติม

แตกยอดเมล็ดพันธุ์

บทบาทหลักของบิทคับ เวนเจอร์ส คือ บริษัทผู้ลงทุนหรือ CVC เพื่อส่งเสริมให้เกิดการผสานพลังทางธุรกิจภายใต้บิทคับ กรุ๊ป โดยมีบริษัทแม่ คือ บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ เช่น บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ บิทคับ บล็อกเชน บิทคับ อะคาเดมี รวมถึงบิทคับ เวนเจอร์ส บริษัทร่วมทุนและอื่น ๆ โดยช่วงเริ่มต้นของบิทคับ เวนเจอร์ นับตั้งแต่ปี 2564 จะเป็นการลงทุนในบล็อกเชนที่มีการใช้งานหรือยูสเซอร์เคสเกิดขึ้นกับบิทคับ เชน ซึ่งเป็นพับลิค เชน 

“บิทคับ เวนเจอร์สเน้นการลงทุนในระดับ Seed Stage เยอะ โดยมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับสตาร์ตอัพที่เพิ่งเริ่มต้น ซึ่งตลอดปีกว่าที่ผ่านมา มีการลงทุนแล้วราว 10 โปรเจกต์ ซึ่งหากดูอันดับเชนที่เป็นพับลิคที่ให้บริการทั่วโลก เราติดอันดับหนึ่งของเมืองไทย เป็นอันดับหนึ่งเของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ และติดอันดับที่ 11 ของโลก โดยนับจากมูลค่าธุรกรรมที่เข้าใช้งานในบิทคับ เชน ซึ่งมีมูลค่าสะสมรวมกว่า 320 ล้านรายการ”

ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ร่วมลงทุนคือ มอร์นิ่ง มูน วิลเลจ เกมแรกของประเทศไทยซึ่งยังมีการเคลื่อนไหวใช้งานที่สามารถสร้างยูสเคสได้เพิ่มขึ้น คับเพลย์ แพลตฟอร์มเชื่อมเกมออนไลน์บนมือถือเพื่อผูกเข้ากับบล็อกเขนในการแก้ปัญหา เช่น การขายเกมไอเท็มของปลอมบนออนไลน์ซึ่งเป็นการจับมือกับบริษัท เอเชียซอฟต์ หรือการลงทุนในผลิตภัณฑ์ “GameFi” อื่น ๆ ซึ่งเป็นเกมที่เล่นแล้วได้เงินในรูปแบบ Play-to-Earn ซึ่งนำมาแลกเปลี่ยนในตลาดคริปโทได้ ภายหลังจึงเริ่มมีกระจายความเสี่ยงออกไปยังส่วนอื่น ๆ เพราะที่ผ่านมาการลงทุนในเกมจะเยอะเกือบทั้งสิบรายการ ก็ปรับมาเป็นดาต้าให้กับพอร์ตโฟลิโอของแต่ละคน เพิ่มการทำ คิลสวิตซ์ ไฟแนนซ์” (KillSwitch Finance) แพลตฟอร์มการลงทุนที่เหมือน Defi แต่ง่ายขึ้นในการโอนเหรียญข้ามบล็อกเชนไปมาได้จากที่เมื่อก่อนต้องทำหลายขั้นตอน และยังสามารถตั้งจุดทำกำไรและตัดขาดทุนเพิ่มได้ สะกิด แอปหาคู่ของคนไทย เน้นการเข้าไปในพื้นที่ร้านอาหารแล้วใช้แอปในการทักทายผู้คนรอบตัว ซึ่งจะทำให้เห็นตัวจริงก่อนการติดต่อพูดคุยหากเกิดความสนใจ 

“สิ่งที่เราทำ คือ การจับตาเมกะเทรนด์ การดูอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี และมองหาการลงทุนที่เสริมพลังทางธุรกิจซึ่งกันและกัน บิทคับ เวนเจอร์สจึงไม่ได้มองแค่การให้เงิน แต่ต้องให้ความรู้ ให้ทิศทางการลงทุน คำแนะนำเรื่องระบบอย่างเช่น บล็อกเชน รวมถึงการตลาดให้กับสตาร์ตอัพที่ร่วมลงทุนด้วย เพราะบิทคับมีทีมการตลาดที่เก่งที่ทำให้บิทคับเป็นที่รู้จัก ซึ่งสตาร์ตอัพเองก็ต้องการให้ช่วยเรื่องการทำตลาด การเข้าถึงสื่อต่าง ๆ ผ่านช่องทางติดต่อที่เรามี” 

ยกตัวอย่างโปรเจกต์ ทองลาวาทุเรียนภูเขาไฟซึ่งสามารถพัฒนาเป็นสินค้าเกรดพรีเมียมและมีจำนวนจำกัด ที่เพิ่มทั้งคุณค่าและราคาเข้ามาในบล็อกเชนของเรา นอกจากนี้ ความกลัวในการได้รับสินค้าปลอมเลยไม่กล้าสั่งกลายเป็นจุดอ่อนที่เราสามารถเอาบล็อกเชนเข้ามาแก้ปัญหาได้ จุดเชื่อม คือ เอาบล็อกเชนมาทำอะไรสักอย่าง แต่จะไปถึงขั้นการรับรองตัวผลิตภัณฑ์หรือไม่นั้น ก็ต้องดูถึงเทคโนโลยี เช่น เอ็นเอฟที ความพร้อมของเกษตรกร รวมถึงจะมีสินค้าเกษตรตัวอื่น ๆ อีกหรือไม่ ซึ่งต้องมีการค้นหาเพิ่มเติม  

สำหรับการคัดเลือกโปรเจกต์ลงทุน ยังคงมองสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานยูสเคส การมองภาพรวมใหญ่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นอย่าง ธุรกิจการเกษตร การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ คาร์บอนเครดิตซึ่งยังไม่ค่อยเจอโปรดักส์ที่ตอบโจทย์ การมองไปไปที่ธุรกิจสุขภาพ เป้าหมายการดูแลคนสูงวัยแต่มีอำนาจซื้อซึ่งมีถึง 11.8 ล้านคนจากประชากรหกสิบกว่าล้านคน คิดเป็นเกือบ18% ของประชากรทั้งหมด เข้ามาอยู่ในบิทคับ เชน เพื่อให้คับเชนเสมือนเป็นอินฟราสตรัคเจอร์หนึ่งของประเทศไทย

“บิทคับ เวนเจอร์สตั้งเป้าการลงทุนปีนี้ประมาณ 3-4 ราย โดยยังคงเน้นการลงทุนในไทย แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่ามีโปรเจกต์เข้าตาหรือไม่ สภาพตลาดเป็นยังไง เราต้องไปตีกับใครรึเปล่า เพราะสิ่งที่เราหมายตาอาจจะมีคนลงทุนไปแล้ว อีกทั้งเป้าหมายลงทุนของบิทคับ เวนเจอร์ส เน้น Seed Stage  จึงต้องใช้เวลาบ่มเพาะในช่วงแรกหากเป็นโปรเจกต์ที่เราร่วมลงทุน แต่ถ้าเป็นในส่วนที่ไปเร่งการเติบโตในโปรเจกต์ที่ไม่ได้ร่วมทุน บทบาทของเราคือไปเป็นพี่เลี้ยง อย่างเช่นความร่วมมือที่เกิดกับเทคซอร์สเป็นต้น” 

KPI ที่ไม่ได้วัดแค่กำไร

จริงอยู่ว่าการลงทุนของ CVC มักจะมองที่ผลกำไร แต่ในมุมของบิทคับ เวนเจอร์ส กลับไม่ได้มองแค่ผลกำไรอย่างเดียว เพราะการลงทุนเป็นหุ้นนั้นได้ผลตอบแทนช้ากว่า ดังนั้น การดูกำไรอย่างเดียวจึงไม่ถูกต้อง หากต้องเน้นให้เกิดการส่งเสริมทางธุรกิจระหว่างกันร่วมด้วย การตัดสินใจลงทุนของบิทคับ เวนเจอร์ส ในแต่ละโปรเจกต์ จึงเริ่มจากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อเข้าใจในตัวโปรดักส์ก่อนการลงทุน เมื่อเข้าใจแล้ว ก็จะมีน้อง ๆ ในส่วนที่เป็นเวนเจอร์สแคปมาวิเคราะห์ด้านการเงิน และตรวจประเมินได้ว่า การดำเนินการมากไปหรือน้อยไปอย่างไรบ้าง

“สิ่งสำคัญ คือ การเอาเงินมาลงทุนแบบไหน จะเล่นแบบถนอมตัวไว้ก่อน ให้สตาร์ตอัพรับได้ว่า นี่ยังไม่ใช่เงินลงทุน และก้าวแรกจะเดินไปอย่างไร หรือจะทำแบบไหนให้วินวินด้วยกันทุกฝ่าย ซึ่งทีมงานเองก็ต้องมีความสร้างสรรค์มากขึ้นในอนาคต รวมถึงรณรงค์ให้สื่อต่าง ๆ มาช่วยส่งเสริมเผยแพร่ผลงานของสตาร์ตอัพแต่ละราย เพราะเราอยากทำอะไรให้มากกว่าทองลาวา เพื่อให้บิทคับได้ทำอะไรให้กับอินฟราของเมืองไทยเพื่อช่วยสตาร์ทอัปไทยได้มาก ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เมื่อทำแล้วรู้สึกภูมิใจ”

วาณิชธนกิจคิดแบบดิจิทัล

เนาวรัตน์ เล่าว่า ตนเองเริ่มต้นจากการทำงานด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking) เกี่ยวกับการทำไอพีโอ เอาหุ้นเข้าตลาด ทำเอ็มแอนด์เอ มารู้จักกับคุณท๊อป (จิรายุ ทรัพย์ศรีโสภา) ตอนมาเสนองานไอพีโอให้บิทคับช่วงเข้าตลาด คุณท๊อปก็ชวนให้มาช่วยอะไรบางอย่าง ก็รับงานไว้แล้วตั้งใจจะหาคนมาช่วย พอดีเป็นจังหวะที่ลาออกจากงานมาทำพาร์ทไทม์ แกก็ชวนว่าแล้วทำไมไม่มาทำด้วยกันเสียเลย

พอมาอยู่ที่นี่เหมือนโลกใหม่ ต้องมาฟังความรู้จากเด็ก ๆ  ปีแรกคือฟังอย่างเดียว เกมเป็นยังไง รายได้มาจากทางไหน พอนานเข้าก็เริ่มรู้ว่า เกมเวอร์ชันถัดไปหน้าตาควรเป็นยังไง ส่วนความรู้เดิมที่มีก็ช่วยได้เยอะตรงที่การจบวิชาบัญขีทำให้แน่นเรื่องการเงิน การอ่านวิเคราะห์งบการเงินลูกค้า คุยกับลูกค้ารู้เรื่อง ความเป็นผู้สอบบัญชีมาก่อน ก็เลยมีความรู้เรื่องบัญชี ภาษี กฎหมายธุรกิจติดตัวมาด้วย ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันทั้งส่วนของเทคโนโลยีโปรดักส์และกระบวนการทางการเงินต่าง ๆ  

“เรียกว่าตื่นตาตื่นใจดีกว่า เพราะตอนมาร่วมงานแรก ๆ เรายังรู้แค่ว่าเป็นบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ ที่อยู่ในคริปโต แต่ตอนนี้มีทั้ง ดิจิทัล เอ็กซ์เชนจ์ ขยับมาเป็นบล็อกเชน จากเดิมที่แค่ตาม ตอนนี้ต้องรู้ว่ามีโปรดักส์อะไร อะไรที่ยังไม่มีอย่างเช่นคาร์บอนเครดิต ทำให้การทำงานจากเดิมที่เป็นการนำโปรดักส์มาเสนอ มาเป็นการให้ไอเดียไปคิด และต้องไม่หยุดสร้างสรรค์”

ถึงตอนนี้ เนาวรัตน์ มองบิทคับเป็นสตาร์ตอัพที่ครบเครื่องที่มีทั้งเทคโนโลยีบล็อกเชน มีอะคาเดมีซึ่งมาทำในเรื่องการศึกษา หรือกระทั่งตัวเวนเจอร์สเอง และยังคงเดินหน้าวางแผนพัฒนาแต่ละบริษัทให้มีฐานธุรกิจที่กว้างและแน่นขึ้น เพื่อยกระดับสู่การเป็นอินฟราสตรัคเจอร์ให้กับประเทศ รวมถึงมีแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้น เพื่อโตต่อไปเป็นอีโคซิสเท็มในการแข่งขันกับอนาคตที่ไม่ได้จำกัดแค่การเป็นศูนย์ซื้อขายอย่างเดียวอีกต่อไป

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Bitkub Series ที่เป็นความร่วมมือด้าน content ระหว่าง The Story Thailand และ BitKub

EP:3 ‘Bitkub Chain’ กับเป้าหมายสร้าง ‘บล็อกเชน’ เป็น ‘ฐานรากเศรษฐกิจ’ ของประเทศไทย

EP:2 กลยุทธ์การสื่อสาร 360 องศา กับ การสร้างแบรนด์ ‘Bitkub’ สู่ Great Company

EP:1 Bitkub ปรับกลยุทธ์เน้นความยั่งยืน จัดทัพเตรียมรับการเติบโตรอบใหม่

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ