บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท ไทยเจียระไนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านสื่อออนไลน์ระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาด ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ ออแกไนซ์จัดงานกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีสำนักงานและสาขาหลายประเทศในเอเชีย เสริมสร้างการให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนให้กับนักธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงการพัฒนารูปแบบการให้ความรู้ที่เป็นภาคภาษาจีนพร้อมเผยแพร่ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่มี
อรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือกันเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำงานของบล็อกเชน เพราะเป็นสิ่งสำคัญของการลงทุนธุรกิจ โดยเป้าหมายคือการให้เทคโนโลยีได้เข้ากับทุกคนได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการให้ความรู้กับกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนที่อาศัยในประเทศไทย ได้ทราบถึงความรู้คริปโทแบบภาษาจีนได้อย่างถูกต้อง
“การร่วมมือจะไม่มีกรอบระยะเวลากำหนด เพราะการทำงานในครั้งนี้จะเป็นการให้ความรู้เป็นหลัก เช่น การทำงานของบล็อกเชน โดยปัจจุบันกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เข้ามาเทรดปัจจุบัน มีสัดส่วนไม่เกิน 5% การร่วมมือกับไทยเจียระไนกรุ๊ป จะมีการส่งคนเข้ามาดูแลในเรื่องภาษาจีน และเน้นกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนที่อาศัยอยู่ในไทยเป็นหลัก นับเป็นความร่วมมือครั้งแรกและครั้งสำคัญที่มีการทำสื่อเป็นภาษาจีน”
“การร่วมมือกันในครั้งนี้ เพื่อต่อยอดไปสู่การลงทุนที่ยั่งยืนและปลอดภัย ทั้งนี้ บิทคับจะเป็นกำลังหลักในการจัดทำข้อมูลที่ถูกต้อง โดยมีเนื้อหาที่เหมาะสมและหลากหลาย เพื่อให้ข้อมูลต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้ทุกเพศ ทุกวัย”
หลุย แซ่กั๊ว ประธานกรรมการ บริษัท ไทยเจียระไนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับบิทคับ จะช่วยให้บริษัทสามารถถ่ายทอดความรู้ด้านการทำงานของสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างถูกต้อง ทั้งภาษาไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงกลุ่มคนที่ไม่เข้าใจด้านภาษา เช่น จีน ให้เข้าใจได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
ปัจจุบัน ช่องทางการทำสื่อออกมาเผยแพร่ของไทยเจียระไนกรุ๊ปทั้งไทยและจีน มีมากกว่า 15 ช่องทาง โดยสื่อที่ทำออกมาเป็นภาษาจีนในไทยนั้น เป็นการใช้ความรู้ที่ความแม่นยำ เพื่อลดความขัดแย้งความไม่เข้าใจด้านการใช้ภาษาไทยและจีนที่เคยเกิดขึ้น ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้น
“ไทยเป็นประเทศแรก ๆ ในเอเชียที่มีกฎหมายบังคับใช้เกี่ยวกับการซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะนักลงทุนสมัยใหม่ ที่จะมาลงทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิดที่ผ่านมา” หลุย แซ่กั๊ว กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
SOCIAL LISTENING เครื่องมือ การใช้ “ข้อมูล” ในงานข่าว
ZORT จับมือ LINE และ TIKTOK ขยายบริการสู่ตลาด SOCIAL COMMERCE