TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessเกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดเกมรุกเดือดตลาดอีวี เตรียมเข็นรถไฟฟ้าอีก 5 รุ่นเพิ่มช่องทางเข้าถึงลูกค้า

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดเกมรุกเดือดตลาดอีวี เตรียมเข็นรถไฟฟ้าอีก 5 รุ่นเพิ่มช่องทางเข้าถึงลูกค้า

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ฉลองครบรอบ 1 ปีเปิดตัวในประเทศไทย ประกาศแผนกลยุทธ์เชิงรุกดันค่ายสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าไทย เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ปี 2565 อีก 5 รุ่น เล็งเพิ่มช่องทางจำหน่ายและเข้าถึงลูกค้า พร้อมปั้นไทยเป็นฮับอีวีขยายอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน 

เอลเลียต จาง ประธานเกรทวอลล์มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2565 นี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ยังมีแผนขยายการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ 4+4 เพื่อรุกตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยให้ไทยเป็นศูนย์กลางที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคอาเซียน ซึ่งหมายรวมถึงการผลักดันขับเคลื่อนให้ไทยและโรงงานผลิตที่จังหวัดระยองเป็นศูนย์กลางของยานยนต์ไฟฟ้าและฐานการผลิตของภูมิภาคอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ 

“ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ เข้าไปดำเนินงานอย่างเป็นทางการใน 4 ประเทศแล้ว คือ ไทย ลาว กัมพูชา และบรูไน เรามีแผนที่จะเปิดตัวแบรนด์ในอีก 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เพื่อขยายตลาดในอาเซียนให้ครอบคลุมมากขึ้น โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงเดินหน้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นครั้งแรกของโลกอย่างต่อเนื่องในตลาดประเทศไทยเหมือนปี 2564 ที่ผ่านมา”

ขณะเดียวกัน ทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ส ยังใช้โอกาสนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเติมเต็มระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าของไทยด้วยกลยุทธ์ 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านผลิตภัณฑ์ 2) ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย 3) ด้านสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า และ 4) ด้านประสบการณ์ลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคชาวไทย

ในด้านผลิตภัณฑ์ คือ การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย คือ การขยายเครือข่ายศูนย์จำหน่ายให้เพิ่มขึ้นอีก 50 แห่งจากเดิม 30 แห่ง เป็นทั้งหมด 80 แห่งทั่วไทย ขณะที่สถานีชาร์จประจุไฟฟ้า คือ การขยายสถานีชาร์จไปตามต่างจังหวัดเพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และด้านประสบการณ์ลูกค้า คือ การนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาช่องทางการเข้าถึงลูกค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์

“ความสำเร็จของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังสะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในด้านยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืนต่อสังคม ซึ่งเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่สัญชาติจีนที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก” ประธานจาง กล่าว

พร้อมให้คำมั่นว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมนำความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถยนต์กว่า 30 ปี และประสบการณ์ด้านการวิจัยและพัฒนาด้านพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะอีกกว่า 10 ปี มาใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพ พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นยิ่งกว่าให้กับผู้บริโภคชาวไทย เพื่อเป็นอีกหนึ่งพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ทั่วโลกในปีที่ผ่านมามีมากกว่า 1.28 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 15.2% จากปีก่อนหน้า และสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยยอดขายมากกว่า 1 ล้านคันเป็นเวลา 6 ปีติดต่อกัน โดยเป็นยอดขายยานยนต์พลังงานใหม่ถึง 137,000 คัน 

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่เพื่อต่อยอดความพึงพอใจให้กับลูกค้าคนไทย ทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ได้เดินหน้าเปิดตัวกลยุทธ์ “Four-dimensional One” ในประเทศไทย ซึ่งเป็นเครือข่ายการบริการที่ผสานการบริการลูกค้าใน 4 รูปแบบ ผ่าน GWM Experience Center, GWM Direct Store, Partner Store และการเชื่อมต่อประสบการณ์ลูกค้าและการสื่อสารระหว่างแบรนด์ของเรากับผู้ใช้ในรูปแบบ Online-to-Offline (O2O) ผ่านทางโทรศัพท์มือถือและ GWM แอปพลิเคชัน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด หรือ Satisfaction + 1 ให้แก่ลูกค้า 

ยกระดับการทำงาน ตอบสนองลูกค้าแม่นยำ

ด้าน สตีเว่น หวัง รองประธานเกรทวอลล์มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย ได้กล่าวถึงแนวทางการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาปรับปรุงยกระดับการทำงานและการให้บริการของบริษัทในทุกมิติ ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้องและตรงจุด

“ปัจจุบัน  เรามีแฟน ๆ ชาวไทยเกือบ 500,000 คนที่ติดตามเราอย่างเหนียวแน่นผ่านทางโซเชียลมีเดียของเรา ทั้ง Facebook, TikTok และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ รวมถึงใน GWM แอปพลิเคชันของเรา เรียกได้ว่าผู้บริโภครวมถึงเจ้าของรถเกรท วอลล์ มอเตอร์ คือคนพิเศษที่เป็นเสมือนพลังที่ทำให้เราเติบโตต่อไปได้ และเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 1 ปี ทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ยังได้ทำการปรับโฉมอัตลักษณ์แบรนด์และเปลี่ยนโลโก้ในครั้งนี้ ผ่านการทำวิจัยและสำรวจผู้บริโภคในเชิงลึก ทำให้เราได้เห็นโอกาสในการที่จะสื่อสารพันธสัญญาที่เรามีต่อผู้บริโภคและเป้าหมายที่จะบรรลุร่วมกันในอนาคตได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเกรท วอลล์ มอเตอร์ จะเริ่มนำโลโก้ใหม่นี้ไปใช้ใน GWM Store รวมถึงตามกิจกรรมสื่อสารการตลาดต่าง ๆ ของแบรนด์ เพื่อสื่อถึงความเป็นเพื่อนคู่ใจที่พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้คนไทยตลอดเส้นทาง”

สำหรับความหมายของโลโก้ใหม่นี้ ทางสตีเว่น หวังอธิบายว่า เป็นการออกแบบในรูปตัว G สไตล์โมเดิร์นที่เป็นสองตัวประกบเข้าหากันอย่างสมมาตร แสดงถึงความสัมพันธ์ที่สมดุลเท่าเทียมกันระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค ขณะเดียวกันยังสะท้อนถึงความรับผิดชอบ การเปิดกว้างอย่างไร้พรมแดน และการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของเกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  

นอกจากนี้ รองประธานเกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังให้คำมั่นว่าในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) ซึ่งได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจะยังคงมุ่งมั่นรับฟังเสียงผู้บริโภค และพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตอบโจทย์ทุกความต้องการ และเคียงข้างเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคม เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเศรษฐกิจไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ขณะที่ทาง ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรทวอลล์มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้กล่าวถึงแนวคิดหรือคอนเซ็ปต์ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ส ในปีที่ 2 นี้ว่าจะมุ่งมั่นให้รถยนต์ของทางค่ายเป็น “เพื่อนร่วมทางอัจฉริยะที่รู้ใจกันมากยิ่งขึ้น” ของผู้บริโภคชาวไทย โดยจะไม่หยุดยั้งในการพัฒนาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคชาวไทย เพื่อก้าวขึ้นไปสู่การเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้งสร้างสังคมยานยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย 

ณรงค์ยังใช้โอกาสนี้ขยายความเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิสัยทัสน์และกลยุทธ์ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ประธานจางได้กล่าวไว้ในช่วงเปิดงานที่ทางค่ายจะจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญใน 4 ด้านเป็นพิเศษ คือ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า และด้านประสบการณ์ลูกค้า

เปิดตัวอีก 5 รุ่น จาก 3 แบรนด์

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ ณรงค์ เผยว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์จะขับเคลื่อนภายใต้ภารกิจ Mission 9 in 3 ตามที่เคยประกาศไว้ในปีแรกว่าจะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 9 รุ่นมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดภายใน 3 ปี

สำหรับในปี 2565 นี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยกทัพรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอีก 5 รุ่น จาก 3 แบรนด์ โดยหนึ่งในนั้นได้แก่ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV จากแบรนด์ HAVAL ที่เคยเผยโฉมครั้งแรกของโลกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และรถยนต์อีก 2 รุ่นที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% จากแบรนด์ ORA ที่จะเข้ามาสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ชาวไทย รวมถึงเป็นการตอบรับกับนโยบายการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจากทางภาครัฐอีกด้วย ส่วนอีก 2 รุ่นจะมีการเปิดเผยรายละเอียดให้ทราบต่อไป ซึ่งรถทั้งหมดที่จะทำการเปิดตัวในปีนี้ จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

ส่วนช่องทางจัดจำหน่าย จะขยาย GWM Store ทั้งที่เป็น Direct Store และ Partner Store ให้ได้ 80 แห่ง ตามที่ประธานจางกล่าวไว้ ขณะเดียวกันก็เพิ่มสถานีชาร์จประจุไฟฟ้า ให้ได้ 55 แห่ง ภายในปี 2565 ครอบคลุม 3 รูปแบบ คือ  1) G-Charge Supercharging Station สถานีชาร์จขนาดใหญ่ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ดำเนินการเอง ซึ่งจะจ่ายไฟกำลังสูงสุดขนาด 160 กิโลวัตต์ รองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้พร้อมกันถึง 6 ช่องจอด ถือเป็นสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบ DC ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ  2) Partner DC Charging Station ซึ่งเป็นการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์สโตร์ในการติดตั้งจุดชาร์จแบบชาร์จเร็ว (DC Charge) ในกรุงเทพและจังหวัดสำคัญต่างๆ โดยเปิดให้ใช้บริการได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และ 3) Destination Charging Station เป็นการจับมือกับพันธมิตรในธุรกิจอื่นๆ เพื่อขยายจุดชาร์จตามโรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้าต่างๆ 

“ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นอีกหนึ่งกำลังในการสร้างระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ดังนั้น สถานีชาร์จของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ทุกแห่งยินดีให้บริการกับรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทและทุกแบรนด์ พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน GWM Application ไม่เพียงเท่านี้ เรายังมีแผนที่จะสร้าง (Emergency Mobile EV Charging Unit) หรือรถบริการเคลื่อนที่ในการชาร์จไฟฉุกเฉินให้กับลูกค้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยกับบริการนี้ เพื่อลดความกังวลในการใช้งานของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าด้วย” ณรงค์ กล่าว

สำหรับในส่วนของประสบการณ์ลูกค้า จะดำเนินการด้วยการเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (User-Centric) ที่มุ่งยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมกับลูกค้าที่ GWM Experience Center อย่างน้อย 200 กิจกรรมตลอดทั้งปี การทำโรดโชว์ตามที่ต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น การอัปเกรดเว็บไซต์โดยนำเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) มาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเลือกซื้อรถและค้นหาข้อมูลต่าง ๆ

การพัฒนา GWM แอปพลิเคชันเพื่อเพิ่มความสะดวกในด้านบริการหลังการขาย ซึ่งรวมถึงการนำข้อมูลของสถานีชาร์จประจุไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) การไฟฟ้านครหลวง (MEA) และผู้ประกอบการเอกชนด้านสถานีชาร์จอื่น ๆ ให้ครอบคลุมถึง 80% ของสถานีชาร์จสาธารณะที่มีอยู่ในขณะนี้มาไว้ในแอปฯ ตลอดจนการจับมือกับหลากหลายแบรนด์ชั้นนำเพื่อผสานความแข็งแกร่งในการส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้ผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ 

ความสำเร็จปี 2564

เอลเลียต จาง กล่าวถึงความสำเร็จของบริษัทในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมาว่าถึงแม้จะเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน แต่ก็เป็นความท้าทายที่ให้ผลักดันให้เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งกระแสตอบรับที่ดีของผู้บริโภคชาวไทย นอกจากจะเป็นผลจากนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ที่ไม่เป็นสองรองใครแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทางบริษัทก้าวขึ้นมาเป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของตลาดไทยภายในเวลาอันรวดเร็วเป็นผลมาจากการที่บริษัทให้ความสำคัญกับประสบการณ์และความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก บวกกับการให้บริการเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าแบบครอบคลุม ตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์ การตกแต่ง การดูแล ไปจนถึงการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า จึงยิ่งส่งเสริมให้รถยนต์ไฟฟ้าของเกรท วอลล์ มอเตอร์ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

“รถยนต์ 3 รุ่น ของทางค่ายล้วนได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ประเดิมด้วยรุ่น HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ครองยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์คอมแพคเอสยูวีถึง 3 เดือนซ้อนและยังคงครองความเป็นผู้นำอันดับต้นๆ ในเซ็กเมนต์นี้ ตามด้วยรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่าง ORA Good Cat ที่มียอดจองล้นหลามทะลุ 10,000 คันภายใน 7 วันหลังเปิดจองสิทธิ์ลงทะเบียนเพื่อซื้อและยังก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของไทยทันทีที่มีการส่งมอบ ส่วนรุ่น All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ก็ได้เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์เอสยูวี บี และยังคงได้รับยอดสั่งจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เสียงตอบรับทางบวกทำให้ตลอดหนึ่งปีมานี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ สามารถส่งมอบรถยนต์ทั้ง 3 รุ่นให้กับลูกค้าในไทยรวมเกือบ 4,000 คัน” เอลเลียต จาง กล่าว 

ขณะเดียวกัน เพื่อสร้างความพึงพอใจ รวมถึงเข้าใจความต้องการของลูกค้าชาวไทยได้มากยิ่งขึ้น ทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ยังได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารทั้งออฟไลน์และออนไลน์ที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงการริเริ่มจัดทำแอปพลิเคชัน ที่ประธานจางแห่งเกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดเผยว่า มีผู้ดาวน์โหลดและใช้งาน GWM แอปพลิเคชัน กว่า 50,214 ราย มีเครือข่ายช่องทางจำหน่ายที่ขยายครอบคลุมพื้นที่สำคัญ ๆ รวมกว่า 30 แห่ง ซึ่งมีผู้บริโภคเข้าเยี่ยมชมรวมกันมากกว่า 75,000 ราย 

“ผมต้องขอขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่านสำหรับความไว้วางใจและความสนับสนุนที่มอบให้เกรท วอลล์ มอเตอร์ มาโดยตลอด และขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และทีมงานทุกคน สำหรับความเชื่อมั่นและความทุ่มเทอย่างเต็มที่เสมอมา จนทำให้เราสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งจนถึงวันนี้” ประธานจาง กล่าว 

บทความมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เบนซ์พร้อมลุยสนับสนุนตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทย เตรียมเข็นโมเดลใหม่รั้งแนวหน้ารถระดับพรีเมียม

การ์ทเนอร์คาดการณ์ยอดจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าปี 65 พุ่งแตะ 6 ล้านคัน

วอลโว่ แง้มกลยุทธ์ปี 65 มุ่งตลาด EV 100% ตั้งเป้าเปิดตัวโมเดลใหม่ต่อเนื่องทุกปี

การีนา ผนึกกรมสุขภาพจิต สร้างภูมิคุ้มกันออนไลน์ รับมือ Cyberbully

เซ็นทรัล รีเทล กางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ทุ่มงบแสนล้านนำเซ็นทรัลสู่เบอร์หนึ่งค้าปลีกแห่งเอเชีย

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ