TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistBook Reviewความเลว...ดูที่ตรงไหน - If We Were Villain

ความเลว…ดูที่ตรงไหน – If We Were Villain [Book Review]

If We Were Villain (ถ้าเพียงแต่เราเป็นคนเลว) นวนิยายเล่มแรกของ M. L. Rio นักเขียนสตรีชาวอเมริกัน น่าจะถูกใจคอหนังสือที่ชอบผลงานของเชคสเปียร์ส 

เรื่องราวของนักศึกษาปี 4 เจ็ดคนในสถาบันแปลก ๆ อย่าง Dellecher Conservatory College ที่หายใจเข้าออกเป็นวรรณกรรมของเชคสเปียร์ ผูกพันกันเหมือนครอบครัว แต่ความสัมพันธ์ต้องมาสั่นคลอนเพราะความรัก ความโกรธ อิจฉา ริษยา ที่มาจบตรงการฆาตกรรมของเพื่อน 1 คน และการถูกจำคุกสิบปีของเพื่อนอีก 1 คน

บอกเลยว่าพออ่านจบ ต้องอ่านประวัติคนเขียน เพราะราวกับเอาเราเข้าไปอยู่ในโลกของวิลเลียม เชคสเปียร์ส นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษ ที่ได้รับการยกย่องทั่วไปว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของวงการวรรณกรรมอังกฤษและของโลก

บทแรกของหนังสือช่างน่าอึดอัดสำหรับคนที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษแบบโบราณ และถ้อยคำจากละครอย่างคนรีวิว เพราะตัวละครใช้คำ วลี ประโยค หรือบทกวีเป็นท่อน ๆ ในชีวิตประจำวัน และทุกอันมีความหมายจนต้องพยายามอ่านสิ่งที่หลีกเลี่ยงมานาน

พอมาถึงกลางเล่ม ถึงเข้าใจว่าผู้เขียนเขาตั้งใจให้เราที่เป็นคนนอกเข้าไปอยู่ในโลกของตัวละคร โลกที่ทุกคนใช้คำพูด บทละคร ของเชคสเปียร์สในชีวิตประจำวัน ในแต่ละเทอมจะจดจ่อกับบทในละครที่ได้เล่น ในวิชาที่เรียนคือเรียนในสิ่งที่เกี่ยวกับบทละคร เช่น ถ้ามีบทต้องฟันดาบ ต้องเรียนฟันดาบ ถ้ามีบทยั่วยวนต้องเรียนรู้ที่มาที่ไปถึงเหตุผลของตัวละคร ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมทุกตัวละครถึงหมกมุ่นกับบทจนบางครั้งไม่เป็นตัวของตัวเอง ทุกคนคิดว่าเพื่อน ๆ เป็นเหมือนครอบครัว เพราะสิ่งที่พวกเขาทำ ที่พวกเขาคิด ไม่มีใครในครอบครัวเข้าใจได้

เนื้อเรื่องเริ่มที่ โอลิเวอร์ (Oliver) เพื่อนที่ทุกคนมองว่าใสซื่อที่สุด ได้รับการปล่อยตัวหลังจากถูกจองจำมาสิบปีฐานฆาตกรรมเพื่อนอีกคนคือ ริชาร์ด (Richard) เพื่อนที่ได้รับการวางตัวให้เป็นกษัตริย์ผู้แข็งแกร่งในละครเวทีมหาวิทยาลัยมาตลอดด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่และเสียงอันทรงอำนาจ

สิบปีก่อนหน้านี้ เกิดอะไรขึ้น ….

ผู้เขียนทำให้เราเข้าใจว่าหลังจากเรียนและเล่นละครในบทที่เข้ากับคาแรคเตอร์ตัวเองมาตลอดสามปี ทำให้ทุกคนโดยเฉพาะตัวหลัก ๆ อย่าง ริชาร์ด, เจมส์ (James – เจ้าชายผู้เฉลียวฉลาดและงามสง่า), เมอเรดิธ (Meredith – สวยสังหาร) อินกับบทนั้น 

ริชาร์ดเป็นแฟนกับเมอเรดิธ คิดว่าตัวเองทรงพลังที่สุด พูดอะไรเพื่อน ๆ ต้องฟัง ชอบใช้อำนาจข่มขู่แม้แต่กับแฟน ทำให้เมอเรดิธเบื่อ และนั่นทำให้ริชาร์ดหงุดหงิดมากขึ้น ถึงขั้นเล่นนอกบท ลงไม้ลงมือกับทุกคนในตอนที่ซ้อมละคร  

แต่แล้ววันหนึ่ง หลังการเล่นละคร มีปาร์ตี้ที่ทุกคนดื่มเหล้าจนเมามาย ริชาร์ดอาละวาด จิกหัวเมอเรดิธต่อหน้าผู้คน จนเธอชวนโอลิเวอร์หนีขึ้นห้อง ก่อนรุ่งสาง อเล็กซานเดอร์ (Alexander) พบริชาร์ดนอนลอยน้ำอยู่ในทะเลสาปอันเย็นยะเยือก และเรียกเพื่อนอีก 5 คนมา ณ เวลานั้นเขายังไม่ตาย แต่ศีรษะเหมือนถูกอะไรทุบ เลือดอาบ ทุกคนลงความเห็นว่าควรปล่อยให้ริชาร์ดตาย ก่อนที่เขาจะฟื้นขึ้นมาและทำร้ายทุกคนต่อไป 
ตำรวจลงความเห็นว่าริชาร์ดตายเพราะอุบัติเหตุ เมา และตกน้ำ แต่ยังวนเวียนในโรงเรียนเพราะยังติดใจอะไรบางอย่าง นับจากวันนั้นชีวิตของทุกคนในกลุ่มก็เปลี่ยนไป แม้ริชาร์ดไม่อยู่ก็เหมือนทุกคนยังอยู่ในเงาของเขา 

เมื่อพวกเขาเข้าเรียนปี 4 ความสัมพันธ์ของทุกคนเปลี่ยนไป คนที่เปลี่ยนมากที่สุดคือเจมส์ เขาดูดุดัน ไม่สนิทกับรูมเมทอย่างโอลิเวอร์ เหมือนเคย อเล็กซานเดอร์ใช้ยาจนเสพเกินขนาด เรน (Wren) ที่เป็นญาติกับริชาร์ดช็อกจนร่างกายอ่อนแอ เมอเรดิธซึมไม่ร่าเริง ฟิลิปป้า (Filippa) พูดน้อยลง

ในกลุ่มนี้ โอลิเวอร์ ดูเป็นปกติที่สุด และเป็นคนพบหลักฐานที่ชี้ว่า เจมส์พลั้งมือฆ่าริชาร์ด และฟิลิปป้ารู้เรื่องแต่ไม่บอกใคร ในวันที่ตำรวจจะมาจับเจมส์จากสิ่งที่เมอเรดิธบอกโอลิเวอร์ได้รับรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นในคืนนั้นและรู้ว่าเจมส์แอบมีใจให้ตัวเอง โอลิเวอร์รับผิดแทนและเข้าคุก เมื่อเขาพ้นโทษ เขาได้รู้ว่าเจมส์ฆ่าตัวตายไปเมื่อ 4 ปีก่อนด้วยการกระโดดลงทะเล เขาเลยตอบรับเมื่อตำรวจที่รับผิดชอบคดี ขอให้เขาเล่าเรื่องจริงให้ฟัง 

ส่วนที่สำคัญที่สุดน่าจะอยู่ที่หน้า 297-298 ที่โอลิเวอร์พูดถึงเชคสเปียร์ส หลังจากที่ตำรวจถามว่า เขาโทษเชคสเปียร์สไหม โอลิเวอรฺ์บอกว่าใช่ เขาโทษเชคสเปียร์สสำหรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น

เขาเล่าว่านักเรียนที่นี่จมอยู่กับเชคสเปียร์สเป็นเวลาหลายปี ที่โรงเรียนพวกเขาสามารถเผยความหมกมุ่นออกมาได้ พวกเขาพูดภาษาเชคสเปียร์สเหมือนเป็นภาษาที่สอง ใช้บทกวีมาคุยกัน และหลุดจากโลกแห่งความเป็นจริง

ตัวละครของเชคสเปียร์สอยู่ในโลกที่สุดขั้ว จากสุขมาก ๆ เป็นความทุกข์ทรมาน จากรักเป็นเกลียด ตัวละครของเชคสเปียร์สที่เก่ง คือ คนที่เข้าใจถึงความลุ่มหลงของตัวละครที่เล่น ไม่ใช่แค่พูดบทละคร แต่รู้สึก แต่ในเวลานั้นความรู้สึกของเราเองก็ยังอยู่ เราจึงรู้สึกถึงความรู้สึกทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน บางครั้งก็ยากที่จะแยกทั้งสองอย่างออกจากกัน 

“เชคสเปียร์สเป็นคนที่เขียนทุกอย่างได้แตกฉาน เขาพูดสิ่งที่คนอื่นพูดไม่ได้ เขาเปลี่ยนความเศร้า ชัยชนะ ความปีติ และความโกรธแค่นให้เป็นคำพูด เป็นอะไรที่เราเข้าใจได้ เขาทำให้ความลึกลับของมนุษย์เป็นเรื่องที่เราเข้าใจได้” 

บทสุดท้ายคือตอนที่ฟิลิปป้าส่งจดหมายที่เจมส์เขียนก่อนตายให้กับโอลิเวอร์ เขาใช้บทกวีของเชคสเปียร์สที่พูดถึงการแกล้งตาย และเมื่อโอลิเวอร์ค้นหาข่าวการฆ่าตัวตายของเจมส์ ข่าวบอกว่าไม่มีใครพบศพหนังสือเล่มนี้จบแค่นี้จริง ๆ ค่ะ แต่เหมือนมีมนต์ ทำให้คิดเรื่องนี้ต่อได้เป็นอาทิตย์ และเหมือนต้องมนตร์คิดว่าอีกไม่นานคงต้องไปหาผลงานของเชคสเปียร์สมาอ่าน

รีวิวเล่มอื่น ๆ

ปาฏิหารย์ แมวลายส้ม

Shuggie Bain … ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข

The Judge’s List …. ผู้พิพากษาโหด

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ