‘ผมเครียดมากเลยพี่ ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยได้ช่วยทีม หรือมีประโยชน์เท่าไหร่เลย’
น้องใหม่ไฟแรงที่เพิ่งจบและเริ่มงานเป็นที่แรกระบายความรู้สึกท้อให้ฟังหลังทำงานมา 5-6 เดือน
เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่ที่ผมเคยเจอ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความคาดหวังของน้องที่รู้สึกว่ามีเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องเรียนรู้มากมายทั้งตัวงาน รูปแบบการทำงาน สไตล์การทำงานของทีม และความรู้ของตัวเองที่มีแต่ทฤษฏีที่เรียนมา ทำให้หลายคนอึดอัดที่ไม่สามารถแสดงความสามารถของตัวเองให้คนในทีมเห็นเร็วอย่างที่ตั้งใจ
ถ้ามีน้องในทีมมาบ่นแบบนี้ให้ฟัง อยากให้ดีใจก่อนเลยว่า เราได้น้องที่มีความตั้งใจที่จะช่วยทีม อยากสร้างผลงานให้ทีม ไม่ใช่คนที่ไม่สนว่าจะสร้างผลงาน หรือเป็นตัวถ่วงของทีมหรือไม่
สิ่งแรกที่จะแนะนำถ้ามีน้องในทีมอยู่ในสถานการณ์นี้คือ ขอบคุณ
ขอบคุณในความตั้งใจ และพยายามที่อยากจะสร้างประโยชน์ให้กับทีมและองค์กร เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดแบบนี้
หลังจากนั้น ลองชี้ให้เห็นจุดแข็งที่แตกต่างของคนในทีม เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นว่า ประสบการณ์ที่น้องขาด ไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับทีมได้ เช่น พี่ ๆ ที่เป็นผู้บริหารอาจมีความรู้ ประสบการณ์มากกว่าน้อง ๆ ในทีม แต่สิ่งที่พี่ผู้บริหารมีน้อยกว่าน้องพนักงานใหม่ คือ เวลา
ถ้าน้องเข้าใจในจุดนี้ หนึ่งในวิธีที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับทีมมากที่สุดแม้จะยังใหม่กับองค์กร หรืออ่อนประสบการณ์ คือ การใช้เวลาที่เรายังมีมากอยู่เป็นจุดแข็งในการประหยัดเวลาของพี่ ๆ ผู้บริหาร หรือพี่ ๆ ในทีม
ในมุมหนึ่งการเรียนรู้เกี่ยวกับงานใหม่ที่ดีที่สุด ไม่ใช่การอ่านเอกสาร ศึกษาข้อมูล แต่เป็นการทำงานจริง ซึ่งแน่นอนว่าจะเจอปัญหาให้เราหาคำตอบอีกมากมาย ถ้าเราสามารถหาคำตอบได้เอง ได้เร็ว และช่วยพี่ ๆ ในการประหยัดเวลาได้ นี่คือวิธีการเพิ่มคุณค่าที่ดีที่สุด
สุดท้าย คือ อย่าใจร้อน เพราะคุณไม่สามารถที่จะเข้าใจทุกอย่าง และเก่งขึ้นมาในช่วงข้ามคืน เวลาจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ไม่สามารถเร่งได้ แต่หากคุณตั้งใจเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ และพยายามช่วยคนในทีมประหยัดเวลาด้วยการคิด หาคำตอบด้วยตัวเอง และขอ feedback เพื่อพัฒนาวิธีการคิดและการทำงาน
สุดท้ายคนในทีมก็จะเห็นคุณค่าของน้องใหม่ในทีมและอยากจะส่งเสริมให้ก้าวหน้าอย่างไม่ต้องกังวล
บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน
“Quiet Quitter” เมื่อพนักงานไม่ทำงานถวายหัว ใครควรกังวล
“คนปัจจุบัน” …. เป้าหมายที่เป็นไปได้ สำหรับ “การพัฒนาพนักงาน”