TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyไอดีซี- ซิลเวอร์เลค เผยผลวิจัย 3E ปัจจัยความสำเร็จ ทรานสฟอร์ม คอร์แบงกิ้ง

ไอดีซี- ซิลเวอร์เลค เผยผลวิจัย 3E ปัจจัยความสำเร็จ ทรานสฟอร์ม คอร์แบงกิ้ง

จากผลวิจัยข้อมูลเชิงลึกภาคการเงินของไอดีซี (IDC Financial Insights) รายงานไว้ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้าเราจะได้เห็นการทรานสฟอร์มระบบคอร์แบงก์กิ้งครั้งใหญ่ใน 6 ต้นแบบ โดยงานวิจัยดังกล่าว ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส จำกัด (” SAL”) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ได้ว่าจ้างให้ไอดีซีเป็นผู้จัดทำ ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส เป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์และบริการสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ มุ่งเน้นด้านบริการทางการเงินและการบริการ โดยลูกค้า 40% เป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 20 อันดับแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ต้นแบบที่สำคัญ

·         ดิจิทัลแบงก์รูปแบบใหม่ การลงทุนคอร์แบงกิ้งในช่วงแรก จะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี 2564-2566  โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีธนาคารที่ก้าวสู่การทำทรานสฟอร์มโดยปรับเปลี่ยนจากระบบเดิมมาสู่ธนาคารดิจิทัลแบบใหม่เกิดขึ้นสูงถึง 100 แห่ง ในเอเชียแปซิฟิค และธนาคารเหล่านี้จะริเริ่มออกบริการไมโครเซอร์วิส และมีการเชื่อมต่อช่องทางใช้งานแอปพลิเคชัน (API) เข้ากับระบบคอร์แบงกิ้ง 

·         สร้างช่องทางและการมีส่วนร่วม: ภาคธนาคารมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ช่องทาง และระดับของการมีส่วนร่วมสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ ของการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล การให้ความสำคัญกับ “สุขอนามัยทางดิจิทัล” (digital hygiene) คือ การตรวจเช็คระบบความปลอดภัยของผู้ใช้งานทั่วไป โดยการใช้ช่องทางติดต่อใช้งานแอปพลิเคชัน (API) แบบเฉพาะทาง และการทำดิจิทัลแร็ปเปอร์ (digital wrapper) ซึ่งการทำแบบนี้จะได้รับประโยชน์ในระยะสั้น แต่ทว่า จะทำให้เกิดการสร้างหนี้ทางเทคนิค (Technical Debt) และความไม่คล่องตัว

·         เลือกใช้โมดูลการทำงานมาแทนที่ระบบเดิม: ภาคธนาคารต่าง ๆ จะเลือกใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้วเป็นโมดูลมาใช้งาน ดังนั้น ภาคธนาคารจะเลือกใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นมาปรับใช้สำหรับระบบคอร์แบงกิ้งด้วย เพื่อที่ว่าในอนาคต ธนาคารจะสามารถปรับปรุงการระบบคอร์แบงกิ้งได้ตลอดเวลา เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมา เช่น คลาวด์ การกำหนดข้อมูลประจำตัว และจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ แต่ในระหว่างนี้ ภาคธนาคารจะเลือกขึ้นระบบแบบดิจิทัลแรปเปอร์เพื่อการเติบโตต่อไป 

·         การยกเครื่องครั้งใหญ่: โครงการทรานสฟอร์มธนาคารสู่ดิจิทัล เป็นโปรเจ็คที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคารค่อนข้างมาก มีความเสี่ยง และธนาคารจำเป็นต้องดำเนินการ ทีมบริหารกำลัง ‘เดิมพันธนาคาร’ เพราะเป็นโครงการที่ใช้เวลาดำเนินการยาวนาน และทำอะไรไม่ได้มากนักในช่วงของการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัล ทั้งนี้ การจะดำเนินโครงการให้ประสบความสำเร็จได้นั้น คณะกรรมการและผู้บริหาร ตลอดจนพนักงาน ต้องทำงานไปในทิศทางเดียวกัน สอดรับกับงบประมาณและการปรับเปลี่ยนเชิงเทคนิค

·       การแสวงหาต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ: ธนาคารที่ต้องการขับเคลื่อนให้เกิดประสิทธิภาพต่อต้นทุน จะย้ายปริมาณงานหลักไปยังแพลตฟอร์มคลาวด์หรือคลาวด์เนทีฟ รวมระบบแพลตฟอร์มเดิมเข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยปลดหนี้ทางเทคนิคออกไปส่วนหนึ่ง พร้อมกับสร้างขีดความสามารถใหม่บนบริการดิจิทัล ทั้งนี้ การผลักดันธนาคารให้เป็นลีนแบงก์ ได้นั้นต้องยอมแลกกับความไม่คล่องตัวในช่วงสั้น ๆ 

·         ธนาคารอัตโนมัติ : ธนาคารต่าง ๆ คาดหวังว่าจะทำให้ขั้นตอนต่าง ๆ มีความคล่องตัวและดำเนินการได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าผู้ใช้บริการเกิดความพึงพอใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะทำให้เกิดประสิทธิภาพได้นั้นจำเป็นต้องมีข้อมูลที่มีคุณภาพดีเพียงพอ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการ 

จากข้อมูลของไอดีซี พบว่า 40% ของการทรานสฟอร์มระบบคอร์แบงกิ้งล้มเหลว เนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การส่งมอบระบบงานที่ไม่สมบูรณ์ การสูญเสียความมั่นใจ การใช้จ่ายเกินงบประมาณไปอย่างมาก ประสิทธิภาพการดำเนินงานลดลง และลูกค้าผิดหวังจากการใช้บริการ สิ่งเหล่านี้อาจเกิดจากเหตุผลทางเทคนิค และบุคคล หรือโครงการ

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า หากมีความร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่เหมาะสม การทรานสฟอร์มของธนาคารจะประสบความสำเร็จ และมีความก้าวหน้า จากปัจจัยหลัก ประการ ประกอบด้วย Experience, Expertise และ Execution หรือจะเรียกว่า ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และการดำเนินการ

มิสเตอร์แอนดริว ตัน กรรมการผู้จัดการ  ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส ได้ให้ความเห็นว่า “การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่เร่งการทรานสฟอร์มระบบคอร์แบงกิ้งในภูมิภาคอย่างชัดเจน นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมในการประเมินระบบคอร์แบงกิ้งที่ใช้งานอยู่ กำหนดบิสิเนสโมเดลใหม่เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต และรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน ธนาคารต่าง ๆ ในภูมิภาคต่างอยู่ในขั้นตอนต่าง ๆ ในการเปลี่ยนแปลงระบบ เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานบริการธนาคารที่คล่องตัว รวดเร็ว และเชื่อมโยงถึงกัน ตามที่เน้นย้ำในรายงาน ภารกิจสำคัญที่มุ่งเน้นไปที่ ‘3E’ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จ และนี่คือ จุดที่ ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส นำคุณค่ามาสู่อุตสาหกรรมได้ทันที เพราะซิลเวอร์เลคดำเนินธุรกิจ และมีความรู้เชี่ยวชาญด้านภาคบริการทางการเงิน มามากกว่า 30 ปี และมีความสามารถในการดำเนินโครงการทรานสฟอร์มระบบคอร์แบงกิ้งที่ซับซ้อน และลดความเสี่ยงให้กับธนาคารอย่างไม่มีใครเทียบได้”

ไซรัส ดรุวาลา กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริการทางการเงินและฟินเทค ของไอดีซี กล่าวว่า “เกือบทุกธนาคารที่เราคุยด้วย มีแผนที่จะย้ายระบบการบริการลูกค้าสู่ดิจิทัล สร้างระบบนิเวศและทำให้เกิดกระบวนการอัตโนมัติทั้งภายในและภายนอก เพื่อสร้างความพร้อมในอนาคต ปัจจัยความสำเร็จอันดับหนึ่งของธนาคาร คือ ขีดความสามารถของธนาคารเอง และร่วมมือกับผู้ให้บริการโซลูชันคอร์แบงกิ้ง ธนาคารจำเป็นที่จะต้องเลือกคู่ค้าที่มีประวัติการทำระบบคอร์แบงกิ้ง (Core Banking System – CBS) มาอย่างยาวนานมากในเอเชีย ผู้ที่มีประสบการณ์ในองค์กร และระบบคลาวด์เนทีฟ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งใช้งาน ดังคำกล่าวที่ว่า “โซลูชันก็ดี การติดตั้งก็สามารถทำได้” ธนาคารควรต้องมองหาผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และมีความสามารถในการติดตั้งสำเร็จ เพื่อให้ธนาคารสามารถรีเฟรชระบบ หรือทรานสฟอร์มระบบคอร์แบงกิ้ง (CBS) ได้อย่างประสบผลสำเร็จ” 

คุณสามารถดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้จากลิงก์นี้

[1] Digital Wrapper: คือ การทำระบบเดิมที่ใช้งานอยู่ให้ขึ้นสู่ดิจิทัลแค่เพียงเบื้องต้น                                

[2] Technical Debtเป็นปัญหาด้านเทคนิ ที่อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การออกแบบระบบที่ไม่ค่อยดีนัก การเขียนโปรแกรมที่ไม่ดี เป็นต้น ซึ่งทำให้ต้องเสียเวลามาแก้ไขปัญหาในภายหลัง หรือปรับเพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่เพื่อให้ตอบรับกับการใช้งาน เปรียบเสมือนการเป็นหนี้ที่ต้องชดใช้ทั้งต้นและดอกเบี้ย)   

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ