TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessWisesight ชี้เทรนด์ดิจิทัลคอนเทนต์ปี 65 คอนเทนต์ความยั่งยืน-นวัตกรรม เน้นสั้น-ย่อยง่าย-วิดีโอ-ไลฟ์สตรีม

Wisesight ชี้เทรนด์ดิจิทัลคอนเทนต์ปี 65 คอนเทนต์ความยั่งยืน-นวัตกรรม เน้นสั้น-ย่อยง่าย-วิดีโอ-ไลฟ์สตรีม

Wisesight Thailand (ไวซ์ไซท์ ไทยแลนด์) ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดียอันดับหนึ่งในประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เผยสรุปภาพรวมปรากฏการณ์สำคัญบนโลกออนไลน์ของผู้บริโภคชาวไทยในปี 2564 และเผยเทรนด์สำคัญในแวดวงดิจิทัลและเทคโนโลยีของปี 2565 พร้อมแนะนำแนวทางสร้างสรรค์คอนเทนต์ออนไลน์ให้โดนใจผู้บริโภคชาวไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเพิ่มทักษะผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งหลายให้สามารถคิดสร้างสรรค์ผลงานได้ตอบโจทย์ตรงใจความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง 

พุทธศักดิ์ ตันติสุทธิเวท Data Research Manager บริษัท Wisesight Thailand กล่าวว่า ภาพรวมของพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยบนโลกออนไลน์ในปี 2564 ที่ผ่านมาจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทางความคิดและพฤติกรรมใน 3 ด้านหลัก ๆ คือ

1) ด้านมนุษย์ (Humanity) ที่คนในสังคมไทยยอมรับความแตกต่างหลากหลาย เห็นได้จากการออกมารณรงค์เคลื่อนไหวการสมรสเท่าเทียม หรือ Real Size Beauty 

2) ด้านจิตใจ (Life Appreciation) ที่โควิด-19 ทำให้คนเห็นคุณค่ากับการดูแลรักษาจิตใจตนเอง จนเกิดกระแส การปลูกต้นไม้ การจัดบ้าน/จัดโต๊ะทำงาน และแนวทางการทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย (Workation) 

และ 3) ด้านการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล (Digital Transformation) คือการเปิดรับให้บริการออนไลน์ต่าง ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เช่น การช้อปปิ้งออนไลน์ การเรียน ทำงาน ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันผ่านทางออนไลน์ นำไปสู่ความพยายามของแบรนด์ในการสร้างประสบการณ์ที่ช่วยให้ผู้บริโภคย้ายจากโลกออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ อย่างการเติบโตของ Virtual Influencer, VR, Virtual World, Metaverse รวมไปถึง Subscription content และ Digital Asset ต่าง ๆ

สิ่งแวดล้อมและนวัตกรรม

ทั้งนี้ พุทธศักดิ์ อธิบาย การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องครอบคลุมถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการยกระดับคุณภาพชีวิตเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคชาวไทยมองหามากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสสำคัญให้เจ้าของธุรกิจและบรรดาผู้ประกอบการทั้งหลาย ตลอดจนสื่อมวลชน ในฐานะคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สามารถนำเทรนด์เหล่านี้มาต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าข้อมูลหรืองานของตนให้โดนใจผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้นได้

สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมออนไลน์ของไทยในปัจจุบัน พบว่า คนไทยมีอัตราการประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ต (Internet Adoption) อยู่ในระดับกลางค่อนไปทางสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยคือราว 77.8% การใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ผ่านสมาร์ทโฟนเป็นหลัก (99.3% เฉลี่ยวันละ 9 ชั่วโมง) ขณะที่คุณภาพอินเทอร์เน็ตตามบ้าน หรือ Fixed net ไทยติดอยู่ในอันดับ 5 ของโลก และการใช้งานเน็ตคือการท่องโลกโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ตามด้วยการรับชมรับฟังคลิปวิดีโอต่าง ๆ ติดตามข่าวสาร (เน้นข่าวบันเทิง เทคโนโยลีนวัตกรรม เรื่องแปลก) และค้นหาข้อมูลที่สนใจ โดยใช้คีย์เวิร์ด รูปภาพ และการค้นหาด้วยเสียง (Voice Search) 

พุทธศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมดังกล่าวถือเป็นแนวทางสำคัญในการเริ่มต้นสำหรับคนทำคอนเทนต์ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อรู้ว่าคนไทยใช้งานเน็ตผ่านมือถือเป็นหลัก ภาพที่เห็นส่วนใหญ่จึงเป็นภาพแนวตั้งเพื่อให้เหมาะกับการรับชมผ่านหน้าจอมือถือ และการที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายเท่าเทียม ตัววิดีโอ มักมีการทำบทบรรยาย (ซับไตเติ้ล) ทำให้เข้าถึงผู้ชมในวงกว้างมากขึ้น 

ในส่วนของคอนเทนต์ที่จะโดนใจผู้บริโภคในปี 2565 นั้น คอนเทนต์ที่สั้นและย่อยง่าย ซึ่งรวมไปถึงคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอ โดยเฉพาะใน TikTok จะยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคมองหา เช่นเดียวกับการนำเสนอแบบ livestreaming จะยังคงเติบโตยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ คาดว่าคอนเทนต์ในรูปแบบ AR/VR มีแนวโน้มจะเป็นที่นิยมมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ และสำหรับคนไทย คอนเทนต์ยืนหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ หมอดูและเลขหวย 

“แต่ไม่ใช่ว่าอะไรก็ใส่เลข ใส่ดวงลงไป คนทำคอนเทนต์ต้องมีเทคนิคในการนำเสนอ จากการศึกษาเก็บข้อมูลของเราพบว่า ผู้บริโภคคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบคอนเทนต์แบบคิดน้อย ดังนั้น คนทำต้องแสดงให้เห็นความพยายามของการทำคอนเทนต์ที่มีการวิจัยค้นคว้าข้อมูลมา คอนเทนต์ที่ได้สามารถเติมเต็มความต้องการหรือทำให้ชีวิตเกิดความอิ่มเอม (Life Compliment) ได้” พุทธศักดิ์ ระบุ

อย่างไรก็ดี หนึ่งในความท้าทายสำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์ คือ การปรับคอนเทนต์อย่างไรให้สามารถเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันยังต้องสามารถรักษาลูกค้าเดิมไว้ได้ ซึ่ง พุทธศักดิ์ ตัวแทนจาก Wisesight ได้แนะนำไว้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำวิจัยเพื่อให้แน่ใจก่อนว่าคอนเทนต์ของแบรนด์อยู่ในที่เดียวกับลูกค้า ใช้ภาษาและคุยเรื่องเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมาย เมื่อได้เข้าใจข้อมูลเชิงลึก (Insight) ที่แท้จริงของลูกค้าแล้ว แบรนด์จะสามารถเลือกช่องทางนำเสนอและรูปแบบได้เหมาะสมยิ่งขึ้น และเมื่อนำเสนอคอนเทนต์ออกไปแล้ว สิ่งสำคัญคือจะต้องสามารถวัดผลได้ เช่น Reach, Engagement และ Conversion จึงจะสามารถวิเคราะห์และประเมินผลได้ว่าคอนเทนต์ที่ผลิตขึ้นมานั้นประสบความสำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้จริง ๆ 

ขณะที่คอนเทนต์ที่เชื่อมโยงชุมชน กับบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เช่นกัน 

“ถ้าจะให้สรุป ต้องบอกว่าคอนเทนต์ยังคงเป็นหัวใจหลักของโลกยุคดิจิทัล เพียงแต่คนทำคอนเทนต์ต้องมีชั้นเชิงในการนำเสนอ และต้องรู้จักใช้ Data strategy ให้เป็น คือเก็บข้อมูล ทำความเข้าใจลูกค้า และกลั่นกรองความเป็นปัจเจกของลูกค้าออกมาให้ได้ (Customize & Personalization) และที่สำคัญที่สุด ด้วยความเป็นโลกดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้น คนทำคอนเทนต์ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ปรับตัวได้เสมอ และเมื่อล้มแล้วต้องลุกขึ้นให้ไว” พุทธศักดิ์กล่าว 

คอนเทนต์เรื่องความยั่งยืน

ด้าน ศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เกรทวอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า กิจกรรมเวิร์คชอฟที่จัดร่วมกับ Wisesight ในครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นกระแสความนิยมในด้านต่าง ๆ ของผู้บริโภคชาวไทยในโลกดิจิทัลในปีที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มความต้องการภายใต้การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ในปีนี้ได้ชัดเจนขึ้น โดยสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดตั้งแต่ปีก่อนคือ คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) เพิ่มขึ้นมาก นำไปสู่ความนิยมของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าซึ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย สอดคล้องกับความสำเร็จของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในปี 2564 ที่รถยนต์พลังงานทางเลือกทั้ง 3 รุ่นได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย 

“ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) ที่มุ่งก้าวเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมรับฟังเสียงผู้บริโภคทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อนำมาใช้พัฒนาบริการในแบบ O2O ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าไทยให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น” ศุภรางศุ์ กล่าว

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

แสนสิริ ชูกลยุทธ์มุ่ง “คน” เป็นศูนย์กลาง เติบโตยั่งยืน เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 1.5 แสนลบ. ใน 3 ปี

ดีแทค ลุยสร้างมาตรฐานปลอดภัยบนโลกออนไลน์ ชวนรัฐ-เยาวรุ่นไทยร่วมยุติ “ไซเบอร์บูลลี่”

นวัตกรรมสมองกลกำกับเบรกเกอร์ 4.0 แนวคิดใช้ไฟฟ้าปลอดภัยยุคดิจิทัล

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ