ยูนิคอร์นสัญชาติอินโดนีเซีย พร้อมปักธงในตลาดไทยภายใต้แบรนด์ Gokek แล้ว หลังจากรีแบรนด์จาก Get
เควิน อลูวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ Gojek กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของ Gojek ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเป็นบริษัทระดับโลกที่มีรายได้จากนอกประเทศอินโดนีเซียครึ่งหนึ่ง การรีแบรนด์และการประกาศบริการภายใต้แอปพลิเคชัน Gojek ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ คือ การตอกย้ำคำมั่นสัญญาถึงการลงทุนทั้งเงินและเทคโนโลยีในตลาดประเทศไทย
ปัจจุบัน Gojek มีบริการใน 215 เมืองใน 4 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศไทย มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 170 ล้านครั้ง มีพันธมิตรธุรกิจมากกว่า 500,000 ราย ซึ่ง 96% เป็นเอสเอ็มอี และมีคนขับมากกว่า 2 ล้านคน
ภายใต้แอปพลิเคชัน Gojek มีบริการส่งอาหาร (GoFood) บริการ eWallet (GoPay) บริการเรียกรถจักรยานยนต์ (GoRide) และบริการรับส่งพัสดุ (GoSend) ไม่แตกต่างจากแอปฯ Gojek ที่ประเทศอื่น
ที่ต่าง ณ ตอนนี้ คือ ฟีเจอร์ GoFood Pickup ที่มีในประเทศไทย เพราะตอบโจทย์ผู้บริโภคคนไทยที่ส่วนมากไม่เพียงแต่สั่งอาหารางออนไลน์เท่านั้น แต่คนไทยชอบออกไปซื้อของอาหารที่ร้าน ซึ่งแอปฯ GoFood Pickup นี้ช่วยให้คนสั่งอาหารแล้วไปรับโดยไม่ต้องไปรอคิว ซึ่งบริการนี้ยังอยู่ในช่วงทดลอง ตอนนี้มีร้านอาหารเข้าร่วมแล้วมากกว่า 500 ราย
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์สำคัญในแอปฯ Gojek สำหรับผู้ใช้คนไทยอีก 3 ฟีเจอร์ คือ chat, share และ wishlist เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของคนไทยที่ชอบแชทกับเพื่อนและครอบครัวชวนกันกิน
‘Dish Likes and Favorites’ ให้ผู้ใช้บริการสามารถบันทึกอาหารจานโปรดไว้เพื่อการสั่งซื้อในอนาคต ‘Consumer-to-Consumer Chat’ เป็นฟีเจอร์การส่งข้อความพูดคุยในแอปฯ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชทและแชร์ร้านค้าหรืออาหารจานโปรดกับเพื่อน ๆ ได้ รวมถึงฟีเจอร์ ‘Invite Friends’ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถแนะนำแอป Gojek ให้กับเพื่อน ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ Gojek ประเทศไทย กล่าวว่า การประกาศเปิดตัวแอปฯ Gojek ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ มีความหมายมากไปว่าการรีแบรนด์จาก Get มาเป็น Gojek แต่เป็นหมุดหมายว่าได้นำ super app อย่าง Gojek มาให้คนไทยได้ใช้งาน
นอกจาก แอปฯ Gojek แล้ว บริษัทยังเปิดตัวอีก 2 แอปฯ คือ แอปฯ GoPartner แอปฯ สำหรับคน และ GoBiz แอปฯ GoPartner แอปฯ สำหรับคนขับ Gojek ที่มาพร้อมกับระบบการสมัครเป็นคนขับใหม่ที่สะดวกและง่ายดายกว่าเดิมในแอปฯ เดียว
ส่วนแอปฯ GoBiz แอปฯสำหรับร้านอาหาร มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ต่าง ๆ อาทิ ‘Chat Head Notifications’ แจ้งเตือนออเดอร์ใหม่ให้ร้านอาหารทราบแม้ในขณะที่ปิดแอปฯ อยู่ ศูนย์บริการร้านอาหารที่ปรับปรุงใหม่ ฟีเจอร์ ‘Partner Badge’ และ ‘Super Partner Badge’ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกหาร้านอาหารที่รับประกันว่าให้บริการที่มีคุณภาพได้ง่ายและสะดวกกว่า
สำหรับร้านอาหาร ปัจจุบัน Gojek มีคนขับอยู่ราว 50,000 คน และมีพันธมิตรร้านอาหารกว่า 30,000 ราย รวมถึงพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ และเดอะมอลล์กรุ๊ป เป็นต้น
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
