TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyชวนส่อง ChatGPT รุ่นอัปเกรดล่าสุด GPT-4 แชตบอทเอไอ กับความสามารถใกล้มนุษย์ไปอีกขั้น

ชวนส่อง ChatGPT รุ่นอัปเกรดล่าสุด GPT-4 แชตบอทเอไอ กับความสามารถใกล้มนุษย์ไปอีกขั้น

หลังจากที่ปล่อยให้รอมาได้สักพัก ในที่สุด OpenAI บริษัทสตาร์ตอัพที่อยู่เบื้องหลังแชตบอท ChatGPT ได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ล่าสุด GPT-4 เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นรุ่นอัปเกรดล่าสุดที่ทาง OpenAI ระบุว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ทำให้ แชตบอทปัญญาประดิษฐ์ที่มีความฉลาดใกล้เคียงมนุษย์ไปอีกขึ้น

แม้ว่า GPT-4 จะได้รับความสนใจจากทั่วโลกอย่างล้นหลามไม่แพ้เวอร์ชั่นแรกที่มีการเปิดตัวออกมา และเรียงเสียงฮือฮาได้เหมือนเดิมด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้น เช่น การคำนวนหักภาษี และการตอบคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้น

ส่องกระแส ChatGPT เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก

ChatGPT : AI เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น หรือควรระวังตัวมากขึ้น?

แต่อย่างไรก็ตาม ระบบแชตบอทปัญญญาประดิษฐ์ก็ยังมีความผิดพลาดที่ชวนให้จับผิดได้อยู่ 

GPT-4 มีอะไรใหม่?

ถ้าถามกันโต้ง ๆ ว่า GPT-4 มีอะไรใหม่ ประกาศของ OpenAI บรรยายไว้ว่า GPT-4 สามารถ “แสดงประสิทธิภาพระดับมนุษย์” มีความน่าเชื่อถือ มีความสร้างสรรค์ และสามารถจัดการกับ “คำสั่งที่เหมาะสมยิ่งขึ้น” ได้มากกว่าระบบรุ่นก่อนอย่าง GPT-3.5 ซึ่งสร้างขึ้นบน ChatGPT

ทั้งนี้ ในการสาธิตการใช้งานระบบ GPT-4 ออนไลน์ เมื่อวันอังคารที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เกร็ก บร็อคแมน (Greg Brockman) ประธานของ OpenAI ได้ยกตัวอย่าง บางสถานการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ GPT-4 ซึ่งพิสูจน์ให้ประจักษ์ได้ว่าเป็นการปรับปรุงที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนเมื่อเทียกับเวอร์ชันก่อนหน้า

บร็อคแมน แสดงให้เห็นว่าระบบสามารถหาค่าลดหย่อนภาษีรายได้ที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วหลังจากกรอกรหัสเสียภาษีลงไป ซึ่งการคำนวนดังกล่าวเป็นสิ่งที่บร็อกแมนเชื่อว่าคนส่วนใหญ่รวมถึงตนเอง ค่อนข้างขยาดอย่างมากกับการต้องมานั่งคำนวนภาษี รวมถึงปวดหัวกับการหาตัวช่วยในการลดหย่อนต่าง ๆ 

อย่างไรก็ตาม แม้ GPT-4 จะยังมีข้อผิดพลาดในเรื่องของการให้เหตุผลที่ยังทำให้เอะใจได้ แต่บร็อคแมนก็ไม่รู้สึกถอดใจแต่อย่างใด แถมเจ้าตัวยังกล่าวยอมรับอย่างชัดเจนว่า แม้แต่คนยังไม่สมบูรณ์แบบเลย แล้วประสาอะไรกับ GPT-4 แต่เมื่อความไม่สมบูรณ์แบบทั้งสอง คือ คนกับ GPT-4 มาอยู่รวมกันก็กลับกลายเป็นเครื่องมือที่ยกระดับศัยภาพของมนุษย์ให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับได้ 

ทำไม GPT-4 ถึงสำคัญนัก?

ผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักเชื่อว่า เทคโนโลยี Generative AI อย่าง GPT-4 อาจเป็นอนาคตของอินเทอร์เน็ต ซึ่งอย่างน้อยก็เริ่มมีภาพให้เห็นราง ๆ บ้างแล้ว จากกรณีที่ยักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์ควักเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์ ลงทุนใน OpenAI ให้พัฒนาแชตบอทปัญญาประดิษฐ์ จนกระทั่งสร้างการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นและแตกต่างด้วย การรวมเทคโนโลยี AI chatbot เข้ากับเบราว์เซอร์เสิร์ชเอินจินของทางค่ายอย่าง Bing

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบแมชชีนเลิร์นนิ่งรุ่นใหม่ที่สามารถสนทนา สร้างข้อความที่อ่านได้ตามความต้องการ และสร้างรูปภาพและวิดีโอแปลกใหม่ตามสิ่งที่ระบบได้เรียนรู้จากฐานข้อมูลหนังสือดิจิทัลและข้อความออนไลน์มากมาย

ทั้งนี้ ความก้าวหน้าด้านปัญญาประดิษ์ฐของ AI รุ่นใหม่ ๆ เหล่านี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตที่ Google ครอบครองมาอย่างยาวนาน โดยขณะนี้มีรายงานว่า Google เองก็กำลังพยายามไล่ตามแชตบอทปัญญาประดิษฐ์ของตนเองอย่างจริงจัง ขณะที่สาขาอาชีพต่าง ๆ ก็มีการค้นหาแนวทางประยุกต์ใช้แชคบอทเอไอเช่นกัน

มิเรลลา ลาปาตา (Mirella Lapata) ศาสตราจารย์ด้านการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing) แห่งมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ ให้นิยามว่า GPT-4 เขยิบเข้าไปใกล้ ศิลปะที่เลียนแบบชีวิตของคนมากขึ้นไปอีกขั้น

ขณะเดียวกัน ต่อให้เทคโนโลยีใหม่จะมีทั้งข้อเสียและข้อบกพร่อมมากมาย แต่ลาปาตาก็เชื่อมั่นว่าในท้ายที่สุดแล้ว คนก็ยังมีความคิดที่ล้ำกว่าปัญญาประดิษฐ์ไปอีกขึ้นเสมอ อย่างน้อยก็ มนุษย์ทุกคนก็ไม่ได้เชื่อ AI ไปเสียทั้งหมด เพียงแต่ที่ไม่ได้พูดอะไร เป็นเพราะความผิดพลาดดังกล่าวของเอไออยู่ในระดับขึ้นที่ยอมรับได้ 

ลาปาตาอธิบายว่า ความผิดพลาดที่ยอมรับได้นี้ ก็เป็นเช่นเดียวกับ GPT-4 ในขณะนี้ที่ต่อให้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นการปูทางให้ AI ถูกใช้เป็นเครื่องมือสินค้าในชีวิตประจำวันของคนมากขึ้นเรื่อย ๆ 

เช่นนั้นแล้ว GPT-4 นี้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง?

รายงานระบุว่า GPT-4 เป็น “โมเดลต่อเนื่องขนาดใหญ่” ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้ทั้งข้อความและรูปภาพป้อนเข้าไปเพื่อหาคำตอบ

ทั้งนี้ ในตัวอย่างหนึ่งที่โพสต์บนเว็บไซต์ของ OpenAI มีการถาม GPT-4 ว่า “ภาพนี้มีอะไรผิดปกติ” คำตอบคือ “สิ่งผิดปกติเกี่ยวกับภาพนี้คือชายคนหนึ่งกำลังรีดผ้าบนกระดานรีดผ้าที่ติดอยู่บนหลังคารถแท็กซี่ที่กำลังแล่นอยู่”

นอกจากนี้ GPT-4 ยัง “ควบคุมสั่งการได้” ซึ่งหมายความว่าแทนที่จะได้รับคำตอบด้วยน้ำเสียงและการใช้คำคลาสสิกที่แสนจะฟุ่มเฟือย ของ ChatGPT ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้โดยการขอคำตอบในรูปแบบของโจรสลัดจากปลายปากกาของเชคสเปียร์ได้ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ในการสาธิตออนไลน์ ประธานบร็อกแบนได้ขอให้แชตบอทปัญญาประดิษ์ฐทั้ง GPT-3.5 และ GPT-4 สรุปบทความอธิบายความแตกต่างระหว่าง GTP สองรุ่นในประโยคเดียว โดยสิ่งที่จับสังเกตได้คือขณะที่ GPT-3.5 จะพูดประโยคออกมาตามที่สั่งทันที ด้วยลักษณะรูปประโยคปกติสามัญ แต่คำตอบจากรุ่น GPT-4 นอกจากจะตอบได้เร็วกว่าแล้ว ยังเลือกใช้คำที่ประณีต มีความรู้สึก และมีลูกเล่นเล็กที่ทำเอาคนถามต้องอึ้ง นั่นคือทุกคำที่ GPT-4 นำมาใช้เรียงประโยคล้วนขึ้นต้นด้วยตัวอักษร “g”

“GPT-4 generates groundbreaking, grandiose gains, greatly galvanizing generalized AI goals.”

(“GPT-4 สร้างความแปลกใหม่ทำกำไรมหาศาล กระตุ้นเป้าหมาย ทำให้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตโดยทั่วไปมากยิ่งขึ้น)

GPT-4 ทำงานได้ดีแค่ไหน?

ขณะนี้ ChatGPT สามารถเขียนบทกวีและเพลงง่าย ๆ ตลอดจนอธิบายความเกี่ยวกับทุกสิ่งที่พบบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังได้รับชื่อเสียงในทางลบจากผลลัพธ์ที่อาจเป็นไปได้ เช่น การให้รายละเอียดเกี่ยวกับเกม Super Bowl อย่างละเอียดแต่ทั้งหมดเป็นข้อมูลเท็จในวันก่อนที่จะมีการแข่งขัน หรือแม้กระทั่งโต้ตอบในเชิงดูหมิ่นดูแคลนผู้ใช้งาน 

ผู้คิดค้นและพัฒนา ChatGPT อย่าง OpenAI เองก็ยอมรับว่าต่อให้ฉลาดแค่ไหน แต่ GPT-4 ก็ยังมีข้อจำกัดและเตือนผู้ใช้ให้ระวังการใช้งาน GPT-4 ให้มากขึ้น เพราะระบบ “ยังไม่สามารถเชื่อถือได้อย่างสมบูรณ์” เพราะการเชื่อมโยงข้อมูลนับแสนล้านที่อยู่ในระบบอาจกลายเป็นการให้เหตุผลด้วยข้อเท็จจริงที่ผิดพลาดได้ 

OpenAI ย้ำชัดว่า ต่อให้ข้อผิดพลาดที่เคยพบในรุ่นก่อนหน้าจะลดลงไปอย่างมากในรุ่น ของ GPT-4 นี้ แต่ผู้ใช้งานก็ควรใช้ด้วยความระมัดระวังอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทที่มีความละเอียดอ่อน และมีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องสูง 

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญคือ?

บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำให้ใช้งานด้วยความระมัดระวัง และมีสติตระหนักรู้ เพราะท้ายที่สุดแล้วเทคโนโลยีทุกอย่างก็คือดาบสองคม 

เนลโล คริสติอันนี (Nello Cristianini) ศาสตราจารย์ด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งมหาวิทยาลัยบาธ กล่าวว่า คนเราควรจำไว้ว่าโมเดลภาษา เช่น GPT-4 ไม่ได้คิดในลักษณะที่เหมือนธรรมชาติของมนุษย์ แต่เป็นการพยายามเลียนแบบ ดังนั้นเราจึงไม่ควรหลงไปกับความคล่องแคล่วในการใช้ภาษาของมัน 

ขณะเดียวกัน ปัญหาอีกประการหนึ่งคือ GPT-4 ยังมีความรู้ที่จำกัด กล่าวคือ GPT-4 ยังคงไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเดือนกันยายน 2021 เนื่องจากเป็นวันที่จำกัดสำหรับข้อมูลที่ได้รับการฝึกอบรม

มีแนวทางป้องกันใด ๆ จากการใช้งานที่ไม่ถูกต้องหรือไม่?

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าเทคโนโลยีก็เหมือนดาบสองคม จะเป็นประโยชน์หรือโทษก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานเป็นหลัก กระนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าโทษ ทาง OpenAI กล่าวว่า ความสามารถที่ได้รับการปรับปรุงของ GPT-4 “นำไปสู่ความเสี่ยงใหม่” ดังนั้นบริษัทจึงได้ดำเนินการปรับปรุงระบบความปลอดภัยโดยการฝึกอบรมให้ GPT-4 ปฏิเสธคำขอสำหรับข้อมูลที่ละเอียดอ่อนหรือ “ไม่ได้รับอนุญาต

ยกตัวอย่างเช่น GPT-4 จะปฎิเสธที่จะตอบคำถามที่เป็นอันตรายหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายโดยเด็ดขาด เช่น วิธีสร้างระเบิดหรือซื้อบุหรี่ราคาถูก เป็นต้น

แต่อย่างไรก็ตาม เพราะคนมักฉลาดกว่า AI ก้าวหนึ่งเสมอ OpenAI ก็ยอมรับว่า แม้การ “ล้วงเอาพฤติกรรมที่ไม่ดี” จาก GPT นั้นยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้ ดังนั้น พึงใช้งานด้วยสำนึกและความระมัดระวังเป็นดีที่สุด 

อ้างอิง: AP News 

ThaiGPT กับบทบาท ผู้พัฒนา Generative AI Solution สำหรับประเทศไทย

Amity ประกาศแผน ตั้งบริษัท Amity Solutions เตรียมเข้าสู่ IPO ปี 67 เดินหน้าผลิตภัณฑ์ AI ในตลาดไทย

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ