TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessบิทคับ ผนึก ทองแตงกรุ๊ปตั้ง บิทคับ เวิร์ดเทค สร้างหลักสูตรปั้นคนดิจิทัลเสริมแกร่งศก.ไทย

บิทคับ ผนึก ทองแตงกรุ๊ปตั้ง บิทคับ เวิร์ดเทค สร้างหลักสูตรปั้นคนดิจิทัลเสริมแกร่งศก.ไทย

บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เจ้าของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประกาศจับมือกับ กลุ่มทองแตง กรุ๊ป ก่อตั้งบริษัทร่วมทุน “บิทคับ เวิลด์ เทค” (Bitkub World Tech)” มีเป้าหมายหลักเพื่อให้ความรู้ สอนทักษะที่สำคัญและจำเป็นสำหรับแรงงานในอุตสาหกรรมดิจิทัล และบล็อกเชนให้กับประเทศไทย โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือนักเรียน นักศึกษาในระดับอาชีวะ ก่อนจะขยายให้ครอบคลุมเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่สนใจด้านบล็อกเชน รวมถึงคนทำงานทั่วไปที่ต้องการจะอัพสกิล-รีสกิลทักษะทางดิจิทัลและบล็อกเชน

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคับ ชี้แจงหลังจากที่ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับวิชัย ทองแตง ประธานกลุ่มทองแตง กรุ๊ป ว่าในรอบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเศรษฐกิจโลกมักจะเกิดขึ้นในทุก ๆ 10 ปี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสองครั้งแรกอย่างการเข้ามาของอินเทอร์เน็ตกับสมาร์ทโฟน แสดงให้เห็นแล้วว่า ความสามารถในการเรียนรู้ที่จะปรับตัวและยืนหยุ่นคือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดและก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

“ที่ผ่านมาสิ่งที่ไทยขาดมาตลอด และทำให้ช้าไปกว่าประเทศอื่นก้าวหนึ่งในแทบจะทุกครั้ง คือการที่ไทยไม่มีชุดความรู้และคนที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนวัตกรรมเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้งเป็นของตนเอง ช่องว่างดังกล่าว ทำให้บิทคับต้องการสร้างพื้นที่แห่งหนึ่งขึ้นมารองรับ เพื่อให้การศึกษาและพัฒนาทักษะที่สำคัญสำหรับโลกในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนซอฟท์สกิลทั้งหลาย ทำให้เด็กไทยและคนรุ่นใหม่มีความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อตลาดแรงงานเฉพาะทางในอนาคต เช่น บล็อกเชน มากขึ้น และเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ผู้ใหญ่ในสังคมไทยอย่าง วิชัย ทองแตง มองเห็นและเห็นด้วยกับวิสัยทัศน์ดังกล่าวของบิทคับ” จิรายุสกล่าว

จิรายุส กล่าวว่า “อีก 10 ปีข้างหน้าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่ไทยจะต้องปรับตัว และการศึกษาจะเป็นกุญแจสำคัญที่เข้ามาปลดล็อกให้ไทยหลุดออกจากกับดักรายได้ปานกลาง บิทคับ เวิลด์เทค เป็นหนึ่งในความพยายามของเราในการส่งต่อองค์ความรู้ที่เรามี และโอกาสที่เราเคยได้รับไปให้กับสังคม เพื่อให้ผู้คนในสังคมสามารถยกระดับและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บิทคับอาจจะเป็นที่รู้จักและพูดถึงในแง่ของคริปโทเคอร์เรนซี แต่จริง ๆ แล้ว บิทคับคือผู้ให้บริการที่ครอบคลุมเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อสร้างโอกาสให้กับสังคมไทยในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการเข้าถึง โอกกาสในการเปลี่ยนแปลงทักษะใหม่ โอกาสในการสร้างรายได้ อีกทั้งยังจะเป็นการช่วยแก้ปัญหาตลาดแรงงานไทย ที่มีเด็กจบใหม่ตกงานกันมากเพราะไม่ได้มีทักษะทางด้านเทคโนโลยีบล็อกเชน และดิจิทัลอื่น ๆ อย่างที่ตลาดต้องการ”

วิชัย ทองแตง นักลงทุนตลาดหุ้นในฐานะเซียนหุ้นที่เน้นการลงทุนในหุ้นมูลค่า (VI) และผู้ก่อตั้ง ทองแตง กรุ๊ป กล่าวว่า “ในฐานะคนรุ่นเก่าที่ล่วงเลยเข้าสู่วัย 75 ปี สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือเทคโนโลยีดิจิทัล คริปโทฯ บ็อกเชน คือทิศทางเศรษฐกิจที่นานาประเทศมุ่งไป และจะมีผลกระทบต่อคนรุ่นใหม่ของไทยอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงมีทั้งความเป็นห่วงทั้งในแง่ของความพร้อมและความปลอดภัย อยากเห็นคนรุ่นใหม่ และสังคมไทย ก้าวตามได้ทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อ และหากเป็นไปได้ก็ให้ก้าวอยู่ในระดับแนวหน้าของเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งการจะทำให้เป็นไปในแบบที่ตนต้องการได้นั้น ก็ต้องพัฒนาที่การศึกษา และในเมื่อปัจจุบันยังไม่มีมหาวิทยาลัยหรือสถาบันใดเปิดสอนอย่างจริงจัง ทองแตงกรุ๊ปจึงจับมือกับบิทคับสร้างขึ้นมาเอง

“การร่วมมือกันในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเชื่อมโยงโลกระหว่าง คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนทั้งสองรุ่นนั้นสามารถสร้างโอกาสและเติมเต็มกันและกันได้ เพื่อร่วมกันพัฒนาอนาคตของเด็กไทยให้เติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยที่ผ่านมา ทองแตงกรุ๊ป ได้เฝ้าดูและเห็นพัฒนาการของบิทคับมานานพอสมควร จึงมีความคิดอยากต่อยอดขยายความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อกระจายโอกาส สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้ทั่วถึงทุกคนทั่วหน้ากัน” วิชัยกล่าว

ทั้งนี้ บิทคับ เวิลด์เทค จะเป็นบริษัทร่วมทุน (joint venture) ที่ บิทคับ และ ทองแตง กรุ๊ป เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 50% เท่ากัน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบุคลากรด้านเทคโนโลยีและบล็อกเชนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นการสร้าง “คน” ที่จำเป็นต่อโลกอนาคต ซึ่งตัวหลักสูตรจะเป็นลักษณะแบบไฮบริด ที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้เสมอ เพื่อให้ทันและสอดคล้องกับเทคโนโลยีโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และลักษณะการสอน ตลอดจนการฝึกอบรม จะเน้นภาคปฏิบัติเป็นหลัก เช่นการเขียนโค้ด การเขียนบล็อกเชน และจะเป็นไปในลักษณะของการเข้าไปร่วมมือกับทางสถาบันการศึกษาทั้งหลายทั่วประเทศไทย ซึ่งปัจจุบัน ยังไม่มีหลักสูตรและครูผู้สอนที่รองรับเรื่องบลอกเชน และเทคโนโลยีโดยตรง

สำหรับโครงการของบิทคับ เวิลด์เทค จะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมนี้ โดยประเดิมกับทางวิทยาลัยอาชีวศึกษา อุดรธานีเป็นที่แรก ก่อนจะขยายต่อไปยังสถาบันการศึกษาในจังหวัดอื่น ๆ ซึ่งวิชัยแย้มว่าที่ต่อไปน่าจะเป็นที่สถาบันการศึกษาในจังหวัดมหาสารคาม

ในส่วนของสถาบันการศึกษาที่สนใจ สามารถเข้ามาพูดคุยและปรึกษากับทางบิทคับ เวิลด์เทคได้โดยตรง โดยวิชัย เสริมว่าเงื่อนไขหรือข้อกำหนดมีเพียงแค่ 3 ข้อเท่านั้น คือ 1) ต้องเรียนรู้และรู้จักใช้โดยไม่นำความรู้นั้นไปคดโกงหลอกลวงใคร 2) เรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์สังคมที่ดีมีคุณธรรม และ 3) ต้องแบ่งปันความรู้และโอกาสที่ได้ให้แก่ผู้อื่นต่อไป พร้อมย้ำชัดว่า คนที่เรียนรู้เทคโนโลยีจนเชี่ยวชาญต้องได้รับการปลูกฝังในเรื่องของคุณธรรมและจริยธรรมควบคู่ไปด้วย

จิรายุส กล่าวเสริมว่า การก่อตั้งบิทคับ เวิลด์เทค ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยบิทคับที่กำลังจะขยายธุรกิจและต้องการกำลังคนคุณภาพมาร่วมงาน ซึ่งปีนี้ บิทคับมีแผนที่จะเพิ่มบุคลากรอีก 500 คนจากปัจจุบันที่มีทีมงานอยู่ราว 1,480 คน ก่อนใช้โอกาสนี้ชี้แจงความแตกต่างระหว่างบิทคับ เวิลด์เทค กับ บิทคัพ อะคาเดมีว่า บิทคัพ เวิลด์เทค จะให้ความรู้ด้านบล็อกเชนและเน้นการลงมือทำเป็นหลัก พร้อมปรับหลักสูตรให้มีความยืดหยุ่นสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดต่อเนื่อง แตกต่างจาก บิทคับ อะคาเดมีที่จะให้ความรู้เรื่องการเทรดคริปโทเคอร์เรนซี หลักการและแนวคิดเกี่ยวกับคริปโทเป็นหลัก

“โควิด-19 ที่เกิดขึ้น เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฝ่ามือในหลายวงการ จะเห็นได้ว่าขณะที่เศรษฐกิจที่ดั้งเดิมยุคเก่าได้รับผลกระทบเยอะ ล้มไปก็มาก แต่ก็มีเศรษฐกิจใหม่ (new economy) ที่เติบโตได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งสิ่งที่จะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจใหม่ในไทย นอกจากกำลังคนแล้ว ก็คือการกำกับดูแล ซึ่งต้องพิจารณาให้รอบด้านสอดรับกับสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น เช่น การเก็บภาษีคริปโทฯ ที่ทางบิทคับได้ร่วมกับสมาคมฟินเทคเสนอให้เลื่อนการจัดเก็บภาษีคริปโทฯ ออกไปอย่างน้อย 2 ปี เพื่อปรับปรุงข้อกฎหมายให้ทันสมัยและชัดเจน สอดรับกับเทคโนโลยีในปัจจุบันมากขึ้น” จิรายุส กล่าวสรุป

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ม.มหิดล เผยผู้บริโภคไทยคนรุ่นใหม่ ยืนหนึ่งปลื้ม “การอวดแบบถ่อมตน”

Wisesight ชี้เทรนด์ดิจิทัลคอนเทนต์ปี 65 คอนเทนต์ความยั่งยืน-นวัตกรรม เน้นสั้น-ย่อยง่าย-วิดีโอ-ไลฟ์สตรีม

แสนสิริ ชูกลยุทธ์มุ่ง “คน” เป็นศูนย์กลาง เติบโตยั่งยืน เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 1.5 แสนลบ. ใน 3 ปี

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ