TH | EN
TH | EN
หน้าแรกInterviewDesign My Life: จาก “วิศวกร” สู่ “ผู้บริหารด้าน HR ” ชีวิตที่ออกแบบได้ของ ชัชพล ยังวิริยะกุล

Design My Life: จาก “วิศวกร” สู่ “ผู้บริหารด้าน HR ” ชีวิตที่ออกแบบได้ของ ชัชพล ยังวิริยะกุล

การข้ามสายงานขณะที่ชีวิตการทำงานกำลังรุ่งโรจน์ในฐานะผู้บริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่ อาจเป็นเรื่องยากลำบากใจของใครหลายคน แต่สำหรับคนที่มองการณ์ไกล และมีวิสัยทัศน์ในทุกบทบาทอย่าง ชัชพล ยังวิริยะกุล ผู้ที่มีอุดมคติ ‘Design My Life’ จะไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ใน Comfort Zone กลับเปลี่ยนหางเสือ และเริ่มออกแบบชีวิตการทำงานจากผู้จัดการดูแลสายการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมในฐานะวิศวกร สู่สายงาน HR ทันที เมื่อโอกาสดี ๆ เดินทางมาถึง

จากวิศวะหนุ่มไฟแรง เบนเข็มทิศสู่ชีวิต HR

ด้วยพื้นฐานความเป็นนักอ่านตัวยง โดยเฉพาะหนังสือกลุ่มการบริหารและจิตวิทยา ผนวกกับสนใจเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีตั้งแต่สมัยมัธยม ชัชพลจึงตัดสินใจเลือกเรียนต่อด้านวิศวกรรมอุตสาหการ หรือ IE (Industrial Engineering) ในระดับปริญญาตรีจนคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 มาเป็นรางวัลให้แก่ตัวเองและครอบครัว และด้วยความมุ่งมั่น รวมถึงแพสชันอย่างล้นเหลือในศาสตร์วิชานี้ จึงไม่ลังเลที่จะเรียนต่อระดับปริญญาโทด้วยทุนจากประเทศสวีเดนในสาขาที่ต่อยอดจากความรู้เดิมและเพิ่มด้านการบริหารและจัดการในโรงงานอุตสาหกรรม

แล้วโอกาสงานแรกก็เป็นใจ ชัชพลได้เริ่มงานตรงสายกับบริษัทคอร์ปอเรตระดับโลกอย่าง P&G ในตำแหน่ง Utility Manager ของแผนกวิศวกรรมทำหน้าที่เป็นวิศวกรควบคุมระบบสาธารณูปโภคโดยรวมในโรงงาน พร้อมดูแลทีมงาน 10 กว่าคน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของงานบริหารบุคคลครั้งแรกในชีวิต

ด้วยความเป็นวิศวะหนุ่มไฟแรง และนิสัยส่วนตัวที่มุ่งมั่น ทำจริง จึงสกัดความรู้ทั้งสาขาที่เรียน และความรู้จากการอ่านมาประยุกต์ใช้ในบทบาทที่รับผิดชอบอย่างหมดเปลือก บริษัทต้นสังกัดจึงเห็นแววนักบริหาร และมอบโอกาสการเติบโตใหม่ให้เป็นผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ (Operation Department Manager) ดูแลสายการผลิตแชมพูแบบขวดให้ P&G แบบเต็มสูบ พร้อมลูกทีมในสังกัดอีกกว่า 30 คน ซึ่งความท้าทายใหม่ก็ไม่ได้สร้างแรงกดดันใด ๆ กลับเป็นแรงผลักดันทำให้ต้องกลั่นความรู้ ความเชี่ยวชาญทั้งจากด้านวิศวกรรมผนวกกับความเป็นนักอ่านหมวดสายบริหารมาปรับใช้ให้กลมกลืน

ชัชพลใช้วิธีดึงศักยภาพของลูกทีมแต่ละคนออกมาอย่างเต็มที่ ให้ทุกคนรู้จุดดี จุดด้อยของตัวเอง เพื่อพัฒนาผลงาน (Performance) ให้ดีขึ้น จนในที่สุดเพียงระยะเวลา 2 ปี เขาก็สามารถโปรโมทลูกทีมได้ถึงสองคน นับเป็นความสำเร็จด้านการบริหารบุคคลที่ภูมิใจมาจนถึงทุกวันนี้

“ผมมีโอกาสนำสิ่งที่อ่านมาใช้ในการทำงานกับทีม เราพูดกันตั้งแต่แรกว่า มีอะไรต้องคุยกัน ทุกคนต้องรู้ว่าหน้าที่ของแต่ละคนคืออะไร ส่วนผมจะเป็นคนดู performance และโค้ชทีม ติดขัดตรงไหนให้บอก ซึ่งจะมีทั้งคนที่ฟังและไม่ฟัง เป็นเรื่องปกติ แต่คนที่ฟังก็มีการพัฒนาผลงาน มี performance ดีขึ้น สุดท้ายเราโปรโมทเขาได้สองคนในเวลาสองปี ซึ่งรู้สึกภูมิใจที่ได้เติมเต็มในส่วนที่ไม่ใช่เงิน แต่เราสามารถพัฒนาคนอื่น ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยน มี career ดีขึ้น มีรายได้มากขึ้น เราเองก็ฟูลฟิลว่าความรู้ที่อ่านมาสามารถประยุกต์ช่วยให้ทีมงานดีขึ้นได้”

จากโอกาสวันนั้น จึงได้จุดประกายแพสชันใหม่กระตุ้นให้เกิดความสนใจเรื่อง ‘คน’ มากขึ้น เพราะรู้สึกสนุก ได้เรียนรู้ค้นหาสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลาที่ไม่ใช่แค่ความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับเครื่องจักรกลที่เพียงแค่รู้ว่าเสียตรงไหนก็ซ่อมแค่ตรงจุดนั้น แต่การบริหารคนกลับได้รับความอิ่มเอมใจ และภูมิใจที่ได้สร้างความเติบโตให้กับองค์กรโดยตรง

ถือเป็นความโชคดีอีกครั้งที่ขณะนั้น P&G มีโครงการ Summer Internship Program ที่เปิดให้นักศึกษาเข้ามาฝึกงานเป็นเวลา 2 เดือนครึ่ง ชัชพลจึงใช้โอกาสนี้ทดลองงานด้าน HR โดยทำเป็น assignment พิเศษควบคู่กับงานที่ทำอยู่ในสายการผลิต เพื่อประเมินดูว่า ชอบสายงานนี้จริงหรือไม่ ถ้าชอบจริงทาง P&G ก็พร้อมสนับสนุน career path ใหม่ให้เหมาะสมตาม career interest และความต้องการทางธุรกิจ

แต่เมื่อจบโปรเจ็กต์ผลลัพธ์ที่ได้กลับเกินคาด น้อง ๆ นักศึกษาฝึกงานสามารถทำโครงการที่ได้ประโยชน์กับธุรกิจในช่วง 2 เดือนครึ่ง ซึ่ง win-win ทั้งน้องที่มาฝึกงานและบริษัท

“Summer Internship Program ของ P&G เป็นหนึ่งในโครงการฝึกงานที่มีชื่อเสียงมาก ผมมีโอกาสได้ดูโปรเจ็กต์นี้ ตั้งแต่การคัดเลือกน้องที่จะร่วมโครงการ การเตรียมความพร้อมของคนที่จะเป็นโค้ช พี่เลี้ยง การโค้ชน้องก่อนพรีเซนต์กับผู้บริหาร น้อง ๆ ที่เราได้มาเป็นคนเก่งทุกคน เรียนรู้เร็ว มีโปรเจ็กต์ชัดเจน พรีเซนต์ชัดเจน เมื่อประเมินตอนจบโปรเจ็กต์ ทุกฝ่ายเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ก็มาถามย้ำว่า ยังสนใจงานนี้อยู่หรือเปล่า ถ้าทำแล้วรู้สึกว่าใช่ ก็ให้ทำแพลนทรานสิชันได้เลย”

Design My Life – ชีวิตของเรา เราต้องออกแบบเอง

คงไม่ใช่แค่โชคชะตากำหนด แต่เป็นการที่เรากำหนดบทบาทชีวิตด้วยตัวเอง ยิ่งเมื่อต้องรับผิดชอบบทบาทส่วนตัวด้านอื่นเพิ่มขึ้น หากออกแบบและวางกลยุทธ์ชีวิตให้สมดุลและอยู่บนหน้าที่การงานที่ชอบด้วยก็จะยิ่งเติมเต็มความรู้สึกให้มีคุณค่า

โดยเฉพาะบทบาทวิศวกร ตำแหน่งงานระดับสูงอย่าง Operation Department Manager ในอุตสาหกรรม Manufacturing ซึ่งต้องทำงานอยู่แต่ในโรงงานที่ตั้งอยู่นอกตัวเมือง ตารางการทำงานที่ไม่เหมือนเพื่อน ๆ ซึ่งถึงแม้ตัวเองจะกำหนดเวลาได้ แต่ก็จะมีเวลาเข้างานและเลิกงานที่ต่างจากคนอื่นที่ทำอยู่ในออฟฟิศอยู่ดี

“ตอนนั้นผมเป็นหนุ่มโรงงาน ซึ่งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ บางนา-ตราด กม.36 ผมตื่นตีห้าทุกวัน เริ่มงาน 7 โมงครึ่ง เลิกงาน 4 โมงเย็น ถ้าผมอยากนัดเจอเพื่อนที่สยาม ผมมาถึงที่นัดตั้งแต่ 5 โมงครึ่ง แต่เพื่อนที่ทำงานในกรุงเทพฯ ยังไม่ได้ออกจากที่ทำงานเลย ตารางผมค่อนข้าง predictable แต่มันก็ค่อนข้างมีข้อจำกัด”

นอกจากปัจจัยด้านการเข้าสังคม ยังมีปัจจัยของครอบครัว ที่ถือเป็นบทใหญ่สำหรับผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว การออกแบบชีวิตให้มีมิติที่สอดคล้องกับทั้งแพสชัน และความเหมาะสมกับคนใกล้ชิดรอบข้าง จึงมีความจำเป็นที่สุดในขณะนั้น

“เนื่องจากภรรยาผมเป็นนักการทูต ซึ่งมีลักษณะงานที่อาจต้องไปประจำการในต่างประเทศ ผมต้องคิดต่อแล้วว่า role อะไรที่สามารถย้ายประเทศได้แบบ Flexible ถ้าอยู่ในสายงานวิศวกรรมก็จะจำกัดโอกาสของงานในสายงานการผลิต แต่ถ้าเป็น HR ทั้งยังสามารถข้าม industry ได้เป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นการเลือกที่ทำงานอีกด้วย”

หลังจากจบ Summer Internship Program ชัชพลจึงตัดสินใจที่จะออกจาก comfort zone เบนเข็มชีวิตไปสู่เส้นทาง HR อย่างไม่ลังเล เพราะเมื่อทุกอย่างลงตัว โอกาสมาตรงหน้าตามเป้าหมายที่ออกแบบไว้ การ ‘Design My Life’ ครั้งใหญ่จึงได้เริ่มต้นอีกครั้ง

ความท้าทายใหม่ ที่ใครก็ต้องทึ่ง

แน่นอนว่า จากวิศวกรกระโดดข้ามไปเป็นผู้บริหารระดับสูงฝ่าย HR ย่อมต้องเจออุปสรรคและคำถามจากใครหลายคน โดยเฉพาะการทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานยอมรับและเชื่อมั่น แต่ด้วยได้รับการเทรนนิ่งและเมนเทอร์ที่ดีจึงเป็นกุญแจลัดให้เขาเข้าใจสายงานนี้ได้เร็วขึ้น

“ผมโชคดีมากที่ได้ทำงานกับองค์กรที่มีระบบเทรนนิ่งที่ดี พอผมตัดสินใจเปลี่ยน role มาเป็น HR บริษัทก็ส่งผมไปเทรนด์ที่เซี่ยงไฮ้ และแนะนำผมกับ HR Director ชาวอังกฤษที่จบวิศวะและทำงานในโรงงานมาก่อนจะเปลี่ยนมาดูแลงาน HR เหมือนกันมาเป็นเมนเทอร์ส่วนตัว เรามีแบ็กกราวด์เดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน เคยผ่านปัญหาแบบเดียวกันมาก่อน จึงทำให้ผมได้รับคำแนะนำที่ตรงจุด ช่วยการเรียนรู้งานในบทบาทใหม่ได้เร็วขึ้นมาก”

การทลายกำแพงของลูกทีมในช่วงแรก คือ การสร้างการยอมรับ และทำให้ทุกคนมั่นใจว่า เขาพร้อมนำทีมไปสู่เป้าหมายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งการจะก้าวผ่านจุดนั้นไปได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วย mindset ที่เรียนรู้อยู่เสมอจึงทำให้ชัชพลประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย

“หลายคนบอกว่า กล้าไปเริ่มต้นใหม่แบบนี้ด้วยเหรอ จากวิศวะมาเป็น HR จาก HR ย้ายไปทำงานต่างประเทศที่เป็น Corporate แล้วย้ายไปเป็นที่ปรึกษา ย้ายกลับมาทำ Corporate อีกที ทุกอย่างออกจาก comfort zone เยอะเลย”

เมื่อความเชี่ยวชาญผสานกับทักษะเฉพาะตัวที่เป็นคนมีตรรกะในการนำเสนอ พูดคุยสนุกสนาน อธิบายเห็นภาพชัดเจน ชัชพลจึงได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรพิเศษในมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง เริ่มสร้างบล็อกความรู้ด้านการบริหารบุคลากรให้คนที่สนใจได้ติดตาม ได้รับการทาบทามไปเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาบุคลากรให้กับผู้บริหารในหลายองค์กร รวมทั้งเป็นวิทยากรให้กับทั้งภาครัฐ เอกชน และงานสัมมนาต่าง ๆ จนได้รับการกล่าวขานว่า เป็นกูรูในวงการ HR ที่มากความสามารถคนหนึ่ง

ด้วยความที่ชอบเรียนรู้ ไม่หยุดนิ่ง ในปี 2566 ชัชพลได้ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมโครงการ “IMET MAX-IMET Mentorship Academy for Excellent Leaders” หรือโครงการอุทยานผู้นำ รุ่นที่ 5 ของมูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย (Institute for Management Education for Thailand Foundation) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง มีความต้องการที่จะยกระดับตนเองให้เติบโตไปเป็นผู้นำที่ดี มีความมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าให้กับตนเองและผู้อื่น จากผู้สมัครนับร้อย ในที่สุดความสามารถของชัชพลก็เป็นที่ประจักษ์ จนได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งใน 36 ผู้ผ่านเข้าสู่ Mentee รุ่นที่ 5 ของโครงการฯ ประจำปีนั้น

ทุกครั้งที่ตัดสินใจออกจาก comfort zone ชัชพลจะถือว่าเป็นโอกาสที่ต้องรีบไขว่คว้า และเมื่อเลือกทำงานอยู่ที่ไหน หรือทำอะไร ก็จะลงลึกกับรายละเอียดทุกขั้นตอน พยายามมองหาสิ่งใหม่ที่ต้องเรียนรู้ ไม่ใช่มองหาที่ใหม่เพื่อกระโดดไปสู่ที่สูง และนี่คือเส้นทางชีวิตที่ชัชพลได้ออกแบบแล้ว

One on One หลักสำคัญในการเข้าถึงคน

“One on One ในมุมมองผมเป็นเวลาที่มีค่าที่สุด เป็นเวลาที่ผมคอมมิตให้กับน้อง ๆ ในทีมทุกเดือน เขาอยากให้ agenda ในการพูดคุยเป็นเรื่องอะไรไปคิดมา ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องงาน เพราะเรื่องงานเรามี channel อื่น มีวิธีอื่นแล้ว”

จาก Mindset ของชัชพลที่ว่า HR ต้องเป็นเพื่อนคู่คิดของพนักงาน เป็นคนที่พนักงานไว้ใจได้ ไม่ใช่คนคุมกฎ One on One จึงเป็นเวลาทองที่ทำให้รู้จักตัวตนของทีมงาน ควรให้เวลานี้เป็นเวลาที่พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องการพัฒนาตำแหน่งงาน เรื่องปัญหาชีวิต ปัญหาครอบครัว หรือเรื่องที่ต้องการคำปรึกษาอื่น ๆ จากประสบการณ์ที่ P&G ซึ่งสอนและสนับสนุนให้มี One on One อย่างมีประสิทธิภาพจึงสัมผัสได้ว่าเป็นหนึ่งประชุมที่สำคัญและมีค่าที่สุด

ใน One on One ต้องให้ลูกทีมเป็นคนที่ได้รับประโยชน์ จึงจะถือเป็น One on One ที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น เมื่อทีมและหัวหน้าเลือกเวลาสำหรับ One on One แล้ว ทุกคนต้องให้ความสำคัญกับเวลาทองนี้ และการ One on One ที่ดีต้องไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ต้องทำสม่ำเสมออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่ออัปเดตความก้าวหน้าในเรื่องที่เคยพูดคุยกัน และที่สำคัญจะช่วยเชื่อมสัมพันธภาพระหว่างหัวหน้ากับลูกทีมได้เป็นอย่างดี

why-why analysis สร้างแรงผลักดันด้วยคำว่า “ทำไม”

“ผมจะพยายามเชื่อมโยงให้ทุกคนเห็นว่า Why ของสิ่งที่เขาทำ กับเป้าหมายของบริษัท เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าทำไป “ทำไม” และ “ทำไม” ต้องเติบโต เช่น ปีนี้เรามี initiative ใหม่ เราจะ launch product ใหม่ KPI ของเขามีเรื่องนี้เข้ามา และตัวเขามีส่วนในการขับเคลื่อนภาพใหญ่อย่างไร นี่อันที่หนึ่ง

อันที่สอง ก็คือ แต่ละคนจะมีจุดที่สำคัญสำหรับชีวิตเขาที่แตกต่างกัน คนนี้มีครอบครัว หารายได้คนเดียว แสดงว่าสำคัญมาก และหากเขาโตขึ้น เขาจะได้อะไรเพิ่มขึ้น มีประโยชน์กับครอบครัวยังไง พอเขาเก็ตแล้ว ที่เหลือเขาก็สามารถเรียบเรียงได้ว่าต้องทำยังไงเพื่อให้ achieve ตรงนี้”

Why-why analysis จึงเป็นหลักการที่ชัชพลใช้สร้างวิเคราะห์ปัญหาและสร้างแรงผลักดันในการทำงานกับลูกทีม โดยชี้มุมคิดให้ทีมงานเห็นภาพการเติบโตของบริษัท กับ KPI ของแต่ละคนที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายนั้น เพราะเมื่อบริษัทเติบโต ทุกคนก็เติบโตเช่นกัน

ประยุกต์ความรู้ทางวิศวกรรมกับการทำงาน HR

จากพื้นฐานความเป็นวิศวะชัชพลจึงมีตรรกะและวิธีคิดที่เป็นระบบ และมักวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนตัดสินใจแก้ปัญหา ยิ่งเรื่องคนที่มีความซับซ้อนละเอียดอ่อน หากนำความรู้และวิธีการคิดที่ได้จากการเรียนด้านวิศวะมาประยุกต์ใช้จะยิ่งส่งเสริมให้งาน HR ลงตัวอย่างกลมกลืน

“ผมว่าความรู้ด้านวิศวะช่วยงาน HR ของผมได้เยอะเลยนะ เราจะรู้วิธีดีลกับคนที่มีพื้นฐานไม่เหมือนกันว่าต้องคุยยังไง เข้าหาแบบไหน เช่น เวลาจะคุยกับช่าง เราจะต้องอธิบายเป็นขั้นตอน 1-2-3 ให้เขารู้ว่าต้องทำงานอะไรต่อไป ส่วนการคุยกับพนักงานออฟฟิศ เราต้องให้เห็นภาพกว้าง ภาพ Career Path การเติบโตที่เป็นมุมใหญ่ขึ้น แบบการสร้าง Growth mindset”

นอกจากความรู้ด้านวิศวะจะมาช่วยส่งเสริมการทำงานกับคนในระดับบริหารแล้ว ชัชพลยังนำความรู้ด้านนี้ไปใช้ในการสื่อสารกับผู้บริหารระดับสูง เพื่อสนับสนุนผลงานของทีม หรือโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ให้ดูเป็นรูปธรรม และตอบโจทย์ของบริษัทมากที่สุด

“ไม่ใช่แค่สื่อสารกับทีมเท่านั้น ผมยังนำความรู้ด้านวิศวะมาใช้ในการเสนอโปรเจ็กต์กับผู้บริหารด้วย ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ HR เดินไปบอกนายว่า โครงการนี้ดีนะ พวกเราจะทำแบบนี้แบบนั้น แต่ไม่วางกรอบภาพลึกที่เชื่อมโยงกับธุรกิจว่า ROI ของโปรเจ็กต์คืออะไร มีแผนการทำงานไปในรูปแบบไหน และวัดประเมินผลอย่างไร จะทำให้ขายโปรเจ็กต์นายได้สำเร็จเร็วขึ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีในการบริหารบุคลากรระดับสูงเช่นกัน”

Born to be HR

“ผมเป็นผลผลิตของการอ่านและทำ ผมสนใจเรื่อง self-improvement มาตั้งแต่ ม.ปลาย ผมอ่านและทดลองทำสิ่งที่ได้อ่านและเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ก็มีเฟลบ้างสำเร็จบ้าง แต่ก็ยังทำ ซึ่งผมมองว่าผลลัพธ์ของการอ่านและพัฒนาตัวเองไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน และใช้เวลาเป็นปี ๆ แต่ผลที่ได้จะเป็นเหมือน compound effect ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย”

จากพื้นฐานรักการอ่าน ไม่ยอมแพ้ต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ และทบทวนพัฒนาสิ่งที่ต้องทำในหน้าที่อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องการบริหารคน จึงสั่งสมบ่มเพาะทำให้ชัชพลขึ้นมาอยู่ในจุดที่เรียกได้ว่าเป็น HR มืออาชีพได้อย่างไม่ค้านสายตาใคร

การยอมรับจากองค์กรใหญ่ให้ดำรงตำแหน่ง HR Manager ในระดับภูมิภาค และ Director ในบริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารบุคลากร จนวันนี้ชัชพลได้ก้าวมาเป็นหัวเรือใหญ่ของไทยคมในฐานะ Vice President ในส่วนงานทรัพยากรบุคคลและบริหารงานทั่วไป ที่เขาเริ่มวางแผนงานพัฒนาองค์กรไว้อย่างครอบคลุม จึงพิสูจน์ได้ว่า เส้นทางนี้เหมาะสมสมกับที่ Born to be HR อย่างแท้จริง

“ผมชอบงาน HR เพราะเป็นงานที่สนุก และสร้าง impact ให้กับพนักงานและธุรกิจจริง ๆ ทุกครั้งที่ผมได้คุยกับคนในบริษัท ไม่ว่าจะระดับพนักงานทั่วไป หรือผู้บริหาร ผมจะมองเห็นโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ที่อยากจะทำ อยากจะพัฒนา แม้งานบางมุมจะไม่ง่ายนัก แต่ถ้าศึกษาข้อมูลดี ๆ เข้าใจจุดประสงค์ และเป้าหมาย ก็จะเห็นโอกาสและสิ่งใหม่ที่จะได้เรียนรู้”

บทบาทใหม่ที่ไทยคม

การเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในตำแหน่ง Vice President ในส่วนงานทรัพยากรบุคคลและบริหารงานทั่วไป ของบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ชัชพลจะได้นำความรู้ทั้งด้านวิศวกรรมและ HR ที่สั่งสมจากการทำงานกับบริษัทคอร์ปอเรตทั้งในและต่างประเทศ และการเป็นที่ปรึกษาด้าน HR รวมเกือบ 20 ปี มาสกัดใช้อย่างแท้จริง โดยมีจุดหมายที่จะนำไทยคมไปสู่องค์กรที่มีความพร้อมเรื่องคนในมิติต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขององค์กรที่ตั้งเป้าเป็น International Company ที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย

นอกจากนี้ ชัชพลยังจะใช้โอกาสในฐานะผู้บริหารสูงสุดด้าน HR ขององค์กร ลงรายละเอียดประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ต้องพิจารณา แล้วผลักดันการขับเคลื่อนองค์กรให้เร็วขึ้น

อีกสิ่งสำคัญที่ถือเป็นกำไรชีวิตของผู้บริหารระดับสูงอายุน้อยประทับใจมากที่สุด ก็คือ การได้เรียนรู้แนวคิด ทัศนคติจากผู้บริหารระดับ C-Level ซึ่งบอร์ดทุกคนจะมองภาพการบริหารธุรกิจแบบมุมกว้าง แต่ลงลึกอย่างเฉียบขาด ชัดเจน แม้แต่คำคอมเมนต์เพียงเล็กน้อยจากการนำเสนองานก็สามารถสร้างแรงพลังที่ยิ่งใหญ่ในการทำงานได้อย่างเปี่ยมล้น ยากที่จะหาประสบการณ์เหล่านี้ได้ในองค์กรอื่น ๆ

“บอร์ดแต่ละท่านเก่งและมีประสบการณ์มาก การที่ผมอายุน้อยค่อนข้างน้อยในกลุ่มผู้บริหารทำให้ตัวเองได้เรียนรู้มุมมอง วิธีคิดและตัดสินใจของคนเก่ง ๆ เป็นอีกขั้นที่ Advance มาก ๆ ว่า แต่ละคนคิดเห็นหรือชอบอะไรกับประเด็นนี้ ข้อมูลต้องเตรียมแบบไหน มุมไหนถึงจะครบ แค่ฟังบอร์ดคอมเมนต์ ก็รู้สึกว่าได้อะไรเยอะมาก ๆ อันนี้คือ สิ่งที่ผมมองเป็น take ในแง่ของการเรียนรู้”

เพราะชีวิตออกแบบได้ จากอุดมคติ ‘Design My Life’ ที่มองว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ และทุกสิ่งคือการเรียนรู้ จึงทำให้ชัชพลก้าวข้าม comfort zone จากวิศวะหนุ่มไฟแรงมาถึงจุดที่ใคร ๆ ก็ยกย่องให้เป็นกูรูแห่งวงการ HR

บทสัมภาษณ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เปิดใจ “พิมพ์พิชา อุตสาหจิต” ทายาทรุ่น 3 ขายหัวเราะ “การ์ตูนเป็น Soft Power ที่ไปอยู่กับอะไรก็ได้”

ทาเลนต์ไทยคืนถิ่นที่ Looloo Technology ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้าน AI

“ตะวัน จิตรถเวช” CTO ยุคดิสรัปชัน แห่ง KBTG

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ