แกร็บ และซแว็ก อีวี (SWAG EV) เปิดตัวโครงการ “Grab Green Wheels X SWAG: รถพลังงานสะอาด ปราศจากมลพิษ” นำร่องใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในการให้บริการจัดส่งอาหารผ่านแกร็บฟู้ด (GrabFood) จำนวน 50 คัน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในเวลา 1 ปี
- Skooldio โฟกัส Life-Long Learning เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผู้คน
- Freshket จาก มาร์เก็ตเพลส สู่ แพลตฟอร์มห่วงโซ่อาหาร
เมธิณี อนวัชกุล ผู้อํานวยการธุรกิจแกร็บไบค์และศูนย์อบรมสาขาย่อย แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บจะคัดเลือกพาร์ทเนอร์คนขับจำนวน 20 คน ก่อนจะขยายจำนวนให้ครบทั้งหมดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่จะสนับสนุนแก่พาร์ทเนอร์คนขับ คือ รุ่น SWAG EV Type X คนขับแกร็บจะได้แบตเตอรี 2 ก้อน ขับขี่ได้เป็นระยะทาง 70 กิโลเมตรต่อก้อนต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (รวม 140 กิโลเมตร) ใช้เวลาชาร์จไฟ 2 ชั่วโมง 35 นาที และสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุด 63 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ความร่วมมือครั้งนี้เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและลดมลพิษบนท้องถนน และประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงและค่าบำรุงรักษารถได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับรถจักรยานยนต์ทั่วไป ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 100 ตันภายใน 1 ปี
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประกาศความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการผลักดันให้เกิดการรณรงค์และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอื่น ๆ ภายใต้โครงการ Grab Green Wheels ในอนาคต” เมธิณี กล่าว
เปรมฤทัย วินัยแพทย์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ประธานเปิดตัวโครงการฯ กล่าวว่า การผลักดันประเทศไทยให้เปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของกระทรวงพลังงาน เนื่องจากเป็นแนวทางการใช้พลังงานทางสะอาดที่ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงและน้ำมัน รวมถึงปัญหามลพิษอย่างฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างยั่งยืน
ปัจจุบันแนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับทิศทางของเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและกระแสการลดใช้น้ำมันที่ก่อมลพิษ
กระทรวงฯ ได้เตรียมการด้านระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มมากขึ้น และสนับสนุนให้มีการพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
เจนสัน เชน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซแว็ก อีวี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและพันธมิตรหลักของโครงการฯ กล่าวว่า ด้วยแผนงานที่ชัดเจนของภาครัฐและการลงทุนของภาคเอกชน ประเทศไทยงมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำด้านระบบขนส่งพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งซแว็ก อีวี ตั้งเป้าจะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ได้ร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์ระดับโลกในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
“ความร่วมมือนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจในสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และได้ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับคนขับและการลดมลพิษ คาดว่าโครงการฯ นี้จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 100 ตันตลอดระยะเวลาของโครงการ” เจนสัน กล่าว
ตลอดระยะการดำเนินโครงการฯ แกร็บและซแว็ก อีวี จะร่วมติดตามและวัดผลการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของพาร์ทเนอร์คนขับอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและการลดค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ และขับเคลื่อนการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาดและผลักดันให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างต่อไป
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ