TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnist“กองทุนลดหย่อนภาษี” เครื่องมือการลงทุนทรงประสิทธิภาพ

“กองทุนลดหย่อนภาษี” เครื่องมือการลงทุนทรงประสิทธิภาพ

“อย่าพึ่งพารายได้จากแหล่งเดียวสร้างการลงทุนเป็นแหล่งที่สอง” วลีเด็ดจาก “Warren Buffett”               ปราชญ์แห่งการลงทุน ได้กล่าวเอาไว้ ..

ใช่ครับ การลงทุนเป็นหนทางสำคัญที่จะทำให้เรา ๆ ท่าน ๆ สามารถประสบความสำเร็จทางด้านการเงินได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพารายได้จากแรงกายเพียงอย่างเดียว เพราะวันหนึ่งแรงกายของเราที่เปรียบเสมือนเป็นเครื่องจักรที่สร้างรายได้ หรือเรียกว่า “Active Income” อาจมีข้อจำกัด ทั้งในเรื่องของขีดความสามารถและเวลา เนื่องจากเราไม่สามารถทำอะไรได้หลาย ๆ อย่างพร้อมกัน เราไม่สามารถเป็นหมอ วิศวกร หรือโปรแกรมเมอร์ ได้ในเวลาเดียวกัน และไม่วันใดก็วันหนึ่งอาจมีโอกาสที่จะสะดุดหยุดพักไปบ้าง เช่น วันที่เราเกษียณ 

ฉะนั้นจึงควรหาเครื่องจักรอีกตัวไว้ให้สามารถเป็น “เครื่องผลิตเงิน เพิ่มรายได้” ให้กับเรา ซึ่งแน่นอนว่า เครื่องจักรตัว   ที่สองนี้ คือ การลงทุน ซึ่งเป็นการสร้าง “Passive Income” ให้กับเรานั่นเอง

และเครื่องจักรตัวนี้ ไม่มีข้อจำกัด เราอยากเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ธุรกิจเทคโนโลยี ธุรกิจ Cloud Computing ธุรกิจเกมออนไลน์ หรืออีกมากมาย ก็สามารถเป็นเจ้าของพร้อม ๆ กันได้ และเราก็ไม่จำเป็นต้องให้ Active Income ของเรามอดหมดไปก่อน แล้วค่อยมาหาเติม Passive Income เพราะสามารถสร้างไปพร้อม ๆ กันได้เลย 

ทั้งนี้ การลงทุนให้เป็นแหล่งรายได้ที่ 2 ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญ ซึ่งปัจจุบันก็มีโอกาส มีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายและเปิดกว้างมากขึ้น แต่ก็มีเครื่องมือตัวหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ และให้ผลตอบแทนที่ดี รวมถึงมีให้เลือกหลากหลายรุปแบบ  นั่นก็คือ “กองทุนรวม” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เหมาะกับทุกคน ด้วยจุดเด่นที่มีการบริหารจัดการด้วยมืออาชีพ ที่มีการคัดสรรเลือกสินทรัพย์มาให้กับเรา ที่สำคัญมีการกระจายการลงทุน และมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายให้เราเลือก เพื่อให้เหมาะกับวิสัยการลงทุนของเรา 

ยิ่งในช่วงปลายปีนี้  เรายังได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี ผ่านการลงทุนใน “กองทุน SSF และ RMF” อีกด้วย                           ซึ่งเฉพาะกองลดหย่อนภาษี ถ้าเราสามารถลงทุนได้เต็มที่ ตามเงื่อนไขแล้ว ถือว่าเป็นเครื่องมือในการลงทุนที่สามารถตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือนได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ 

1. “ช่วยสร้างวินัยการออม” เพราะจากเงื่อนไขที่ต้องลงทุนในระยะยาว และ RMF ที่ต้องลงทุนต่อเนื่องจนอายุ 55 ปี 

2. “ช่วยสร้างผลตอบแทนได้เหมาะสม” เพราะมีทางเลือกให้เราค่อนข้างมาก ตั้งแต่ประเภทเสี่ยงต่ำ (ผลตอบแทนก็ต่ำ) ไปจนถึงเสี่ยงสูง (ผลตอบแทนคาดหวังสูง) แต่ด้วยการลงทุนที่ระยะยาว SSF ก็ 10 ปีเต็ม RMF ก็ต่อเนื่อง    5 ปี และผู้ลงทุนต้องอายุ 55 ปีเต็ม ถึงจะทำการขายได้ จึงไม่ควรที่จะลงความเสี่ยงต่ำเพียงอย่างเดียว เพื่อถนอมเงินต้น หรือจะเอาแค่ผลประโยชน์ทางภาษีอย่างเดียว 

ขอยกตัวอย่าง ในส่วนของ RMF ที่มีมาเกือบ 20 ปีแล้วว่า ที่ผ่านมา “กองตราสารหนี้” ให้ผลตอบแทน 2-3%             เรียกว่าแค่ประคองตัวผลตอบแทน แต่ “กองหุ้นไทย” อย่าง กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (BERMF) เริ่มที่ราคา 10 บาท ปัจจุบัน 96 บาทแล้ว ในขณะที่ “กองตราสารหนี้” ปัจจุบันราคาก็อยู่ 15-16 บาทเท่านั้น ห่างกันลิบโลก 

3. “ช่วยลดค่าใช้จ่าย” เพราะผู้ลงทุนสามารถนำค่าซื้อที่ลงทุนไปแล้ว นำไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้

“ลงทุน 1 ได้ถึง 3 ประโยชน์” และถ้าเราลงทุนอย่างต่อเนื่องเต็มเงื่อนไขที่กำหนดทุกปี เมื่อเราเกษียณอายุจากการทำงาน เงินลงทุนลดหย่อนภาษี สามารถเป็นแหล่งรายได้ที่ 2 ให้เราได้เป็นอย่างดี

“ปีนี้ลงทุนอะไรดี”…เป็นคำถาม Classic ที่นักลงทุนถามกันเข้ามาทุกปี ซึ่งทางหลักทรัพย์บัวหลวงได้จัดทำ         รายงาน BLS Top Funds แนะนำ “กองทุน SSF และ RMF” ตัวท็อป เพื่อลดหย่อนภาษีปี 2564 มาให้ทุกท่านได้เลือกลงทุนจำนวน 3 รูปแบบด้วยกัน คือ 

ตารางคำแนะนำกองทุน SSF และ RMF” ตัวท็อปในรายงาน BLS Top Funds

ที่มา : รายงาน BLS Top Funds บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงจำกัด (มหาชน) ข้อมูลวันที่ 10 ..2564

1.  “กองทุนผสม” มีให้เลือกระดับความเสี่ยง ตั้งแต่ปานกลางค่อนข้างต่ำไปถึงสูง เราแนะนำ

“กองทุน BCAP GWSSF” และ “กองทุน BCAP-Target date RMF” ที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ในและนอกประเทศ, ตราสารทุนในและนอกประเทศ และสินทรัพย์ทางเลือก จุดเด่น คือ กระจายการลงทุนไปทั่วโลก และเราสามารถเลือกได้ว่า จะรับความเสี่ยงระดับไหน โดยเฉพาะ “กองทุน BCAP GWSSF” ที่มีให้เลือกผสมสินทรัพย์เสี่ยงไม่เกิน 10% 25% 50% 75% และ 90% แต่ด้วยการลงทุนระยะยาว เราอยากให้เริ่มที่ 50% ขึ้นไป

ส่วนกองผสมแบบ RMF แนะนำ “กองทุน BCAP target date RMF” หากเลือกจะเกษียณใกล้เคียงปีไหน ก็ลงทุนตามปีนั้น โดยมีปี ค.ศ.มาให้เลือก ดังนี้ ปี 2030, ปี 2040 และ ปี 2050 ปีที่ไกลจะมีสินทรัพย์เสี่ยงมากหน่อย แต่จะค่อย ๆ ลดลง จนถึงปีที่คุณใกล้เกษียณ สินทรัพย์เสี่ยงจะลดลงมา ซึ่งเหมาะมากที่จะถือจนเกษียณ

2. “กองทุนหุ้นเทคโนโลยี” ที่นับวันยิ่งมีความสำคัญกับชีวิตมนุษย์มากขึ้น หากเป็นเมื่อ 200 ปีที่ผ่านมา                     ใครลงทุนบริษัทเครื่องจักรไอน้ำ มีโอกาสมั่งคั่งสูง 100 ปีที่ผ่านมา หากลงทุนธุรกิจน้ำมันสินค้าโภคภัณฑ์ มีโอกาสรวยสูง 30 ปีที่ผ่านมา หากลงทุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ หรืออินเทอร์เน็ต มีโอกาสมั่งคั่งสูง แต่มาปัจจุบันยุค Digital ที่รวมเทคโนโลยีและการสื่อสารเข้ากับทุกแขนง ซึ่งจะมีบทบาทอย่างมากในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า การลงทุนในเทคโนโลยีจึงน่าสนใจ

และหากผ่านกองทุนรวม อย่าง “กองทุน KKP TECH-H-SSF” ที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่กำลังเป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และ “กองทุน B-INNOTECHRMF” ที่ลงทุนในหุ้นเทคฯ คุณภาพดี ทั้งแอปพลิเคชันให้บริการออนไลน์ Semiconductor และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากทั่วโลก

3. “กองทุนหุ้นเวียดนาม” ประเทศนี้มีการเติบโตที่สูงและเร็ว เหมือนประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยศักยภาพประชากรที่มีอยู่มากเกือบ 100 ล้านคน การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศที่ให้เวียดนามเป็นฐานการผลิต ทั้งสินค้าแบบดั้งเดิม อย่างอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ปิโตรเคมี ไปจนถึงสินค้าไฮเทค เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ จึงมีโอกาสที่จะเติบโตได้สูงในระยะยาว

เราแนะนำ “กองทุน ASP-VIETRMF” ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือมีธุรกิจหลักในประเทศเวียดนาม คาดว่าจะได้ประโยชน์การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อาจกลับมาเติบโตเฉลี่ย 6-7% ต่อปีอีกครั้งในปี 2565

สำหรับข้อมูลที่เล่ามาทั้งหมดนี้ คือ ประเภทกองทุนที่เราคัดสรรมา เพื่อลดหย่อนภาษีปลายปี ซึ่งเป็นจุดเริ่มที่ดี        ในการสร้างแหล่งที่สองของรายได้ และนำท่านไปสู่อิสรภาพทางการเงินได้ในที่สุด โดย BLS Top Funds ยังมีกองทุนที่คัดสรรให้เหมาะสมและมีผลงานโดดเด่น มาให้นักลงทุนเลือกลงทุนได้อีกมากมาย

สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจรับ BLS Top Funds รายงานอัปเดตสถานการณ์การลงทุนทั่วโลกแบบ Weekly พร้อมคำแนะนำ “กองทุนตัวท็อป” คุณภาพดี ผลงานเด่นกว่า 22 ประเภท จาก 18 บลจ. และการจัดพอร์ตกลยุทธ์เชิงเทคนิค (Tactical Funds Portfolio) จากทีมงานมืออาชีพ มากประสบการณ์ที่มาแนะนำให้ลูกค้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ สามารถเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์กับหลักทรัพย์บัวหลวง ได้ที่ www.bualuang.co.th/funds สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 0-2618-1111            

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ