TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistลงทุนสไตล์แวมไพร์ พอร์ตโตไม่มีวันตาย

ลงทุนสไตล์แวมไพร์ พอร์ตโตไม่มีวันตาย

ก่อนจะถึงเทศกาลฮาโลวีนปีนี้ ผมมีเรื่องราวเกี่ยวกับผี ๆ อย่างผีดิบหรือ ‘แวมไพร์’ มาเล่าให้ฟังครับ

ว่าแต่แวมไพร์กับเรื่องการลงทุนเกี่ยวข้องกันอย่างไรนะหรือครับ ตามผมมาได้เลย

ผมเชื่อว่าคุณหลาย ๆ คนจะเคยดูภาพยนตร์เกี่ยวกับแวมไพร์ใช่ไหมครับ 

เพราะมีภาพยนตร์มากมายนับไม่ถ้วนที่ถูกสร้างขึ้นโดยการตีความคำว่า แวมไพร์ ในหลาย ๆ แง่มุม ทั้งที่เป็นปีศาจกระหายเลือด มนุษย์ผู้มีพลังพิเศษ ตำนานรักข้ามเผ่าพันธุ์ หรือ ตำนานรักหลายพันปี ตามความเชื่อที่ว่า ‘แวมไพร์’ มักเป็นอมตะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้รับความนิยม และกวาดรายได้จากผู้ชมไปมากมายครับ จนคำว่า ‘แวมไพร์’ กลายเป็นสิ่งที่คนส่วนมากรู้จักกัน

ตำนานสยองขวัญ เรื่องราวของเหล่ามนุษย์ที่ ‘แตกต่าง’ ที่ถูกจินตนาการถ่ายทอดออกมาให้ดู ‘เท่’ มากกว่าจะน่ากลัว แต่สิ่งที่ผมอยากจะชวนคิดก็คือ  ทำไมแวมไพร์ในภาพยนต์แทบทุกเรื่องต้องเป็น ‘คนรวย’ นอกจาก ‘ความเป็นอมตะ’ ‘ผิวขาวซีด’ แล้ว ยังมีอีกจุดขายหนึ่งครับ นั้นก็คือ ความรวย

แวมไพร์แทบจะทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นแวมไพร์แก๊งธรรมะ หรืออธรรม ล้วนแล้วจะต้องเป็นคนมั่งคั่ง ร่ำรวยทั้งสิ้น แล้วเหล่าแวมไพร์เหล่านี้ ‘ร่ำรวยได้ยังไง’ในเมื่อออกมาทำงานตอนกลางวันไม่ได้ด้วยซ้ำ แค่มีเวลามากกว่าคนอื่นอยู่มาได้หลายร้อยปีก็สามารถรวยได้ง่าย ๆ ?

…หรือจริง ๆ แล้วพวกเขาจะเป็น นักลงทุน แล้วใช้ความเป็นอมตะของพวกเขาเพื่อให้มีเวลาหาเงินได้นานกว่ามนุษย์ทั่วไป ?

‘แวมไพร์’ เศรษฐีผีดูดเลือด…ตำนานหรือเรื่องจริง

มาถึงตรงนี้ ผมต้องถามอีกว่า คุณเชื่อหรือไม่ว่าเรื่องของแวมไพร์ เป็นเรื่องจริง เชื่อหรือไม่ว่า ก่อนที่เรื่องราวของ ‘แวมไพร์’ จะกลายเป็นภาพยนตร์ให้เราได้รับชมกันมากมาย รู้ไหมครับว่า มันคือ ‘เรื่องจริง’ และมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง! ถึงขนาดที่ ถูกลงบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์!

ย้อนกลับไปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 หรือราว ๆ ปี พ.ศ. 2268 สงครามระหว่างเซอร์เบอร์-โรมาเนียกับจักรวรรดิออสเตรียได้ถือกำเนิดขึ้น.. ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Peter Plogojowitz เสียชีวิตในสงคราม และถูกฝังอยู่บริเวณนั้น …แต่ 3 เดือนต่อมา กลับมีคนพบเห็นว่าเขาได้เดินทางมายังบ้านเกิด ซึ่งปัจจุบันคือหมู่บ้านที่อยู่ในเขตประเทศเซอร์เบีย และไม่ใช่แค่นั้น…

หลังจากที่เขากลับมาในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ก็มีคนในหมู่บ้านตายไปถึง 9 คน โดยอาการของคนทั้ง 9  เหมือนกัน! คือ ค่อย ๆ หมดแรง หน้าซีดเหมือนเลือดถูกสูบออกจากตัว ซึ่งก่อนเสียชีวิตได้ให้การว่า เขาเห็น Plogojowitz เข้ามาทับตัวและบีบที่ลำคอจนสลบไป

ผลชันสูตรพบว่าสาเหตุการตายเป็นเพราะ ติดเชื้ออะไรสักอย่างจนอวัยวะต่าง ๆ หยุดทำงานครับ …แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ระหว่างรอการฝัง พบว่าทุกศพ เล็บยาวขึ้น ผมและขนยาวขึ้น ผิวซีด และไม่มีกลิ่นเหม็นคล้ายยังมีชีวิตอยู่

เมื่อเจ้าหน้าที่จะไปจับตัวผู้ต้องสงสัยตามคำให้การ กลับพบว่า Plogojowitz ก็ได้ตายไปแล้วเช่นเดียวกัน โดยภรรยาของเขาได้ให้การว่า Plogojowitz ค่อย ๆ หมดแรงและเสียชีวิตด้วยอาการคล้ายกับคนอื่น ๆ ครับ และเมื่อเจ้าหน้าที่ขุดหลุมศพขึ้นมาตรวจสอบก็พบว่า สภาพศพมีลักษณะคล้ายกับศพทั้ง 9 คนเช่นกัน…

แต่เรื่องราวมันไม่ได้จบแค่นั้นครับ

ในสัปดาห์ต่อมา Plogojowitz กลับมาพบภรรยา จนเธอกลัวและต้องหนีไป…สร้างความหวาดผวาให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างยิ่งครับ จนเจ้าหน้าที่พร้อมนักบวช ต้องขุดศพของ Plogojowitz ขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพบว่าศพยังดูสดใหม่ และดูเหมือนว่า ในปากของเขายังมีเลือดสด ๆ อยู่ ชาวบ้านจึงนำศพขึ้นมาและใช้ลิ่มตอกไปที่หน้าอก จนเลือดพุ่งออกมาพร้อมเสียงร้องจ๊าก ในบันทักเล่าว่า ชาวบ้านช่วยกันตอกไปอีกหลายรู เพราะทำยังไง Plogojowitz ก็ไม่ตาย! จนเจ้าหน้าที่ ต้องตัดหัวและจุดไฟเผาครับ

เรื่องราวของ ‘แวมไพร์’ ตนแรกก็จบลงครับ…แต่หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์คล้าย ๆ กันเกิดขึ้น โดยแวมไพร์ที่ถูกจับ ยอมรับว่าเขาโดนแวมไพร์ตัวนึงกัดบริเวณคอ ระหว่างเดินทาง

เรื่องราวทั้งหมดนี้จึงกลายมาเป็นตำนานที่ถูกนำมาสร้างภาพยนตร์มากมายครับ โดยยังคงทิ้งปริศนาไว้ว่า…ยังมีแวมไพร์ปะปนอยู่ในปัจจุบันอีกหรือไม่ หรือเรื่องเล่าที่ว่ามามันจริงแค่ไหน

ชีวิตที่เรียบง่าย ของแวมไพร์ ‘นักลงทุน’

กลับมาที่ข้อสังเกตอย่างหนึ่งของคนที่มีโอกาสเป็นแวมไพร์คือ รวย  ครับ

แล้วเพราะอะไร ทำไมแวมไพร์ส่วนมากถึงรวย หรือว่าเวลาชีวิตที่มากกว่าก็สามารถร่ำรวยได้แล้วจริงหรือ…เราจะมาเจาะลึกประเด็นนี้กันครับ

เวลามีผลกับการลงทุนมากแค่ไหน…

สมมติว่าคุณมีเวลา สัก 200 ปี การเก็บเงินแค่วันละ 10 บาท ก็ทำให้คุณมีเงินแสนได้ง่ายๆ แต่แค่นั้นคงไม่ทำให้ร่ำรวยครับ แล้วทำอย่างไรถึงจะรวยได้! ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ต้องหลบซ่อนอย่างแวมไพร์ คงหนีไม่พ้นการลงทุน หรือ ให้เงินทำงาน นั่นเอง…

ถ้าแวมไพร์ เป็นนักลงทุนระยะยาวคนแรกของโลก… ห่างจากช่วงที่เกิดคดีแวมไพร์เพียงไม่กี่ทศวรรษ…ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2335 โดยใช้ชื่อว่า New York Stock Exchange (NYSE) ซึ่งนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘แวมไพร์นักลงทุน’ นับจากสถิติที่มี หากแวมไพร์เริ่มต้นลงทุน ในดัชนีผลตอบแทนรวม S&P 500 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 (ที่เดิมไม่ได้ใช้ชื่อว่า S&P 500 ครับ แต่จุดเริ่มต้นของดัชนีนี้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2466 มีหุ้นประมาณ 233 ตัว ก่อนจะกลายมาเป็นดัชนี S&P 500 ที่รวมหุ้น 500 ตัวในปี 2500 จนถึงปัจจุบัน)

หากลงทุนด้วยเงิน 1,000 บาท จนถึงปัจจุบัน โดยไม่ถอนออกมาเลย (เงินปันผลก็นำกลับไปลงทุนต่อเรื่อยๆ) ระยะเวลา 87 ปี จาก 1,000 บาท จะกลายเป็นเงิน 6,805,543.88 บาท เรียกได้ว่า กำไร 6,805 เท่าเลยครับ

ในทางกลับกันหากแวมไพร์เอาเงินฝังโอ่งเอาไว้… เงิน 1,000 บาทก็จะมีมูลค่าลดลงเรื่อย ๆ ตามอัตราเงินเฟ้อ หรือดีไม่ดีอาจจะผุพังตามกาลเวลาครับ

หากอ้างอิงจากอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน เงิน 1,000 บาทในตอนนั้น จะมีมูลค่าสูงถึง 21,337.60 บาทในตอนนี้ครับ หรือสามารถสรุปสั้น ๆ ได้ว่า เงิน 1,000 บาทถ้าไม่เอาไปลงทุนเลย จากที่เคยซื้อของได้มากมาย มาถึงตอนนี้อาจจะซื้ออะไรไม่ได้แล้วก็ได้ 

แต่ถ้าหากแวมไพร์ สามารถหาเงินมาลงทุนได้ทุกเดือน ด้วยเงินต้น 1,000 บาท จากนั้น DCA ทุกเดือน โดยไม่ถอนออกมาเลย (เงินปันผลก็นำกลับไปลงทุนต่อเรื่อย ๆ) เมื่อเวลาผ่านไป 87 ปี เงินของเขาจะกลายเป็น 412,413,887.98 บาท ! กำไร 412,413 เท่า จากเงินต้นเพียง 780,000 บาท เรียกได้ว่า รวยไม่ไหวแล้วครับ

ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลว่า หากคุณมีเวลา การลงทุนก็อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ ด้วยพลังแห่งการลงทุนระยะยาวแบบทบต้น เหมือนความร่ำรวยของแวมไพร์ก็ได้ครับ

ระยะเวลา + คุณภาพ=สูตรลงทุนที่ลงตัว มั่งคั่งแบบทวีคูณ

ในโลกการลงทุน แม้คุณจะมีเวลา เยอะแยะมากมายจนอาจจะเป็นนิรันดร์ แต่หากคุณทำอะไรแบบไม่รู้สี่รู้แปด ความร่ำรวยที่มองว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ อาจไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดก็ได้ครับ

ระยะเวลาในการลงทุนเป็นเรื่องของเป้าหมายและความอดทนของคุณ เพราะในหน้าประวัติศาสตร์การลงทุนก็เห็นชัดแล้วว่า ตลาดหุ้นมีวัฏจักรขึ้นลง ผสมกับวิกฤตของมันอยู่ ซึ่งก็อยู่ที่คุณเช่นกันครับ ว่าคุณจะอดทนอย่างมีสติผ่านวิกฤตต่างๆ เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่สำคัญที่สุดมาได้อย่างไร

อีกเรื่องหนึ่งคือ คุณภาพของหุ้น ในการลงทุนหากคุณเลือกธุรกิจที่พื้นฐานไม่ดี เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป เงินคุณก็อาจจะปลิวตามไปด้วยได้ หรือหากคุณตกใจขายทุกครั้งที่หุ้นตก ความร่ำรวยก็คงเกิดขึ้นได้ยากเช่นกันครับ ดังนั้น สิ่งสำคัญไม่แพ้ปริมาณ(เงิน+เวลา) นั่นก็คือคุณภาพของกระบวนการ หรือก็คือคุณภาพของการลงทุนที่คุณเลือกครับ

ในยุคสมัยของแวมไพร์ อาจจะไม่มีใครช่วยเลือกธุรกิจดี ๆ ให้ลงทุน เขาอาจจะต้องคัดสรรหุ้นโดยใช้เวลาที่มีเหลือเฟือของเขาได้ แต่ตอนนี้การลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดี ง่ายและเร็วกว่านั้นครับ

ถ้าคุณกำลังมองหาการลงทุนระยะยาว ที่มีคนช่วยคุณบริหารพอร์ตลงทุน คัดสรรหุ้นดี ราคาเหมาะสม ให้กับคุณ Jitta Wealth สามารถช่วยคุณได้ครับ

ให้มนุษย์อย่างเราได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น สร้างความสุขให้กับตัวเราเองและคนที่คุณรัก หรือสร้างความสวยงามดุจเทพนิยายให้กับโลกใบนี้ก็ได้ครับ

แน่นอนว่าการเป็นมนุษย์ ก็คงไม่ต้องเอาตัวเองไปแข่งกับแวมไพร์ แต่กับคนที่มีเวลาพอๆ กัน ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสม การรู้จักใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ จะเป็นเครื่องมือที่จะทำให้คุณเหนือกว่าได้ครับ   

ผู้เขียน: ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

บทเรียนการขาดทุนฝังใจ จาก ISSAC NEWTON อัจฉริยะติดดอย

บทพิสูจน์กลยุทธ์ ‘จับจังหวะตลาด’ ดีจริงไหม…คุ้มค่าแค่ไหน?

เจาะกลโกง แชร์ลูกโซ่ BERNIE MADOFF โคตรปีศาจแห่ง WALL STREET

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ