TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistอย่าเริ่มต้น "ความไม่รู้"​ ด้วย "ความกลัว"

อย่าเริ่มต้น “ความไม่รู้”​ ด้วย “ความกลัว”

เด็ก ๆ กลัวผีไหมครับ

ผมเชื่อว่ารุ่น ๆ ผมส่วนใหญ่จะกลัวผี แม้ว่าในชีวิตมีสักกี่คนที่เคยเห็นผี

ทำไมเรากลัวผี

ผมมานั่งนึก ๆ ว่าที่กลัวผีทั้งที่ไม่เคยเห็นผี เพราะความไม่รู้ เพราะเราถูกฝังชุดความเชื่อใส่ไว้ในตัวเรา เรากลัวในสิ่งที่ไม่รู้ เรากลัวในสิ่งที่มีคนบอกเล่าเรา ให้เชื่อโดยที่ไม่สัมผัส และเราก็ฝังหัวเชื่อ ไม่แต่เรื่องผีเท่านั้นหรอกครับ หลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ เราเชื่อตามคำบอกคนอื่น

เมื่อความไม่รู้ ได้สร้างให้เรากลัว จนเราไม่เปิดพื้นที่ให้เราแสวงหาโอกาสที่จะเรียนรู้ บางคนเปรียบเทียบเหมือนเราอยู่ใน Comfort Zone จนละทิ้ง “โอกาส”

ไอ้ความไม่รู้ของคนเรานี่แปลกน่ะ เชื่อทั้งที่ไม่รู้ แต่เราก็เชื่อ (บางคนบอกงมงาย) แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เมื่อเชื่อแล้วก็เชื่ออยู่อย่างนั้น จนเรากลัวที่จะออกค้นหา เพราะเราปักความเชื่อไปแล้วในสมอง ในความรู้สึกนึกคิดของเรา และเราก็ชินและปฏิเสธที่จะค้นหา จนเวลามันผ่านไปนานเกินไป

ในทางศาสนาโดยเฉพาะศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าได้แสดงธรรมในบทหนึ่งที่เราอาจจะคุ้นหู เรียกว่า “กาลามสูตร” เป็นหลักในการพิจารณา อะไรควรเชื่อ อะไรไม่ควรเชื่อ เพื่อไม่ให้หลงผิด ท่านกล่าวว่า

  • อย่าเพิ่งเชื่อโดยฟังตามกันมา
  • อย่าเพิ่งเชื่อโดยถือว่าเป็นการเล่าสืบกันมา
  • อย่าเพิ่งเชื่อเพราะข่าวเล่าลือ
  • อย่าเพิ่งเชื่อเพราะอ้างอิงคัมภีร์หรือตำรา
  • อย่าเพิ่งเชื่อเพราะคิดเอาเอง
  • อย่าเพิ่งเชื่อโดยคิดตามสิ่งที่ปรากฏ
  • อย่าเพิ่งเชื่อเพราะต้องกับความเห็นของตน
  • อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดควรเชื่อได้ และ..
  • อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูของเรา

สิ่งที่เน้นในเรื่องความเชื่อก็คือ ให้อิสระทางความคิด ไม่ได้ห้ามเชื่อ แต่ให้พิจารณาให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะปัจจุบัน อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา หรือเชื่ออย่างไร้เหตุผล สังคมไทยเราทุกวันนี้ ข้อมูลข่าวสารเผยแพร่กันอย่างมากมาย จนหากเราเชื่อทันทีที่ได้รับ จะเป็นเรื่องน่ากลัวมาก

ที่ชวนคุยเรื่องนี้ เพราะนึกถึงคนรุ่นผม ช่วงเริ่มต้นวัยทำงาน มีความเชื่อ (ที่บอกต่อกันมา กรอกใส่หู) ตลอดว่า “หุ้น” คือ การปั่นหรือการเก็งกำไร อย่าเข้าไป เพราะการเล่นหุ้น (เห็นไหม ชื่อก็บอกความรู้สึกแล้วว่าเป็นการเล่น ไม่ใช่การลงทุน) เป็นเรื่องการพนัน สู้เก็บเงินไปสร้างธุรกิจของตนเองดีกว่า

เมื่อความเชื่อที่เริ่มจากการไม่รู้ และไม่คิดจะหา

เราก็เลยเก็บเงินไว้ในธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นออมทรัพย์หรือเผื่อเรียก สะสมกันไปทุกวันทุกปี กว่าจะมีเงินสักก้อน ก็เลยเวลาไปเป็นสิบปี

การทิ้งเวลาไปเป็นปีด้วยความเชื่อที่ไม่ได้หาความจริงว่าจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงคืออะไร ข้อดีข้อเสียคืออะไร 

สิ่งที่สูญเสียไปนอกจากเวลาแล้ว ก็คือโอกาส

ผมเองมีโอกาสทำรายการเกี่ยวกับการแนะนำเรื่องการวางแผนการเงินส่วนบุคคล พบว่าปัญหาในคนรุ่นเจน X ขึ้นไป มักจะเอาเงินเก็บสะสมไว้ที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง แต่ที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ ความเคยชินและความกลัวว่าเงินจะหายไป โดยยอมทิ้งโอกาสที่จะเพิ่มมูลค่า

มีข้อมูลที่น่าสนใจ คือ เรื่องของผลตอบแทนรวมในตลาดหุ้นไทย ย้อนหลัง 10 ปี (ข้อมูล จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อ 31 มี.ค.2564) ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.77% ต่อปี และตามกฎของตัวเลข 72 (เอาตัวเลข 72 หารด้วยผลตอบแทน 7.77= จำนวนระยะเวลาที่จำนวนเงินจะเป็น 2 เท่า ซึ่งเท่ากับจำนวนเวลาที่เงินที่ลงทุนในตลาดต่อเนื่อง (โดยไม่ถอนออกมา)ใช้เวลาประมาณ 9 ปีเศษ ๆ ขณะที่ฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ จะต้องใช้เวลาถึง 200 กว่าปี เนื่องจากมีผลตอบแทนเฉลี่ย ปีละ 0.25% เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งก็จะมีผลตอบแทนเฉลี่ยมากกว่าเงินฝากในธนาคาร 

ไม่ว่าเราจะเลือกวิธีแบบไหน ขึ้นอยู่กับสองปัจจัยสำคัญ สิ่งแรก ต้องยอมรับกันก่อนว่าการลงทุนมีทั้งด้านบวก (กำไร) และด้านลบ (ขาดทุน) ไม่ว่าคุณจะเลือกลงทุนแบบไหน แม้แต่คุณจะเก็บเงินเก็บทองแล้วเปิดกิจการเองก็ตาม ก็มีความเสี่ยงทั้งสิ้น

อีกปัจจัย ผลตอบแทน ระยะเวลา และจำนวนเงินที่ลงทุน ทั้งสามส่วนมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน 

ขณะที่คนอีกรุ่นหนึ่งที่ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งเจนวายเจนแซด (บางคนเรียกเจนซี) กล้าตัดสินใจและกล้าเสี่ยงมากกว่า เราจึงเห็นคนรุ่นใหม่นิยมลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งใช้ระยะเวลาน้อยแต่ให้ผลตอบแทนสูง แต่มีความเสี่ยงมาก  เนื่องจากการขึ้นลงรวดเร็ว ประการสำคัญ มีข้อจำกัดในด้านการยอมรับ

อยากบอกว่า ช้าไปก็ไม่ดี เร็วไปก็น่ากลัว การศึกษาให้รู้จริงไม่น่าจะใช้เวลามากเกินไปหรอก

อย่าเริ่มต้นความไม่รู้ด้วยความกลัว คุณจะไม่มีทางพบความจริง

คอลัมน์ Personal Finance ที่ผมรู้จัก (แต่ทำไม่ได้) EP.10

บทความมอื่น ๆ ของผู้เขียน

เครื่องมือลงทุน กับ เงินเฟ้อ

Key of Success

ไม่มีวิกฤติสำหรับคนที่แสวงหาโอกาส

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ