มีทางเลือกเสมอ “เมื่อมีอากาศหายใจ ก็มีโอกาส เวลาสูดลมหายใจ อย่าลืมสูดโอกาสเข้าไปด้วย”
เข้าสู่เดือนที่สองของปี ด้วยความรู้สึกหดหู่และเหน็ดเหนื่อย ด้วยปัญหาล้อมรอบตัว เมื่อเร็ว ๆ นี้ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้รวบรวมปัจจัยความเสี่ยงของไทยในปี 2565 ในระหว่างการบรรยาย “ระบบเศรษฐกิจไทยกับการบริหารนโยบายการคลังของประเทศ” ให้กับข้าราชการที่เข้ามาอบรมหลักสูตรนักบริหารการเงินการคลังภาครัฐระดับสูง โดยท่านรัฐมนตรีบอกว่าความเสี่ยงที่ไทยต้องเผชิญประกอบด้วย
1. ความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด
2. หนี้ครัวเรือน
3. หนี้สาธารณะ
4. Supply Chain ความต้องการสูงจนขาดตลาด
5. ราคาพลังงาน
ความเสี่ยงที่เราเผชิญกันทุกคน ทำให้การฟื้นตัวของไทยเราทำได้ช้ากว่าคนอื่น ทำให้การดิ้นรนหารายได้เพิ่มของเรา ๆ ท่าน ๆ เพื่อชดเชยกับรายได้ที่ลดลงในบางคน และเพิ่มเติมกับรายจ่ายที่พุ่งสูงขึ้นในทุก ๆ คน เพราะวันนี้การประหยัดอย่างเดียวเอาไม่อยู่ ต้องหารายได้มาชดเชย
การหาอาชีพที่สอง รวมถึงการขวนขวายหาเงินเพิ่มทำให้ทำให้เกิดบรรดากูรูผู้เชี่ยวชาญออกมาแข่งกันขายสูตรการทำธุรกิจที่ว่านี้ออกมาเชิญชวนผ่านรายการในทีวีแทบจะครบทุกช่อง แข่งกับการขายเครื่องสำอาง ยาบำรุงวิตามิน ที่ดาราพิธีกร แข่งกันนำเสนอในทุกรายการ จนชักจะรู้สึกไม่ค่อยสนุก เพราะเบียดบังเนื้อหาของรายการ ขณะที่บรรดาเนื้อหาของหลักสูตรก็ไม่แตกต่างกัน ดูสัก2-3 รายการก็จดจำได้แล้วว่าแต่ละหลักสูตร (ที่เหมือนกันหมด) ประกอบด้วยอะไรบ้าง ราคาหลักสูตรก็ไม่แตกต่างกัน เฮ้อ…จะเรียนกับใครดี? แล้วถ้าไม่เรียน เราทำเองคิดเองได้ไหม
เคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสอนผมเวลาคิดจะทำอะไรก็แล้วแต่ มีกุญแจอยู่ 3 ดอก ที่จะไขคำตอบสิ่งที่เราจะทำว่า มีโอกาสสำเร็จหรือไม่
กุญแจดอกที่ 1 : สิ่งที่คิด สิ่งที่จะทำ เป็นสิ่งแรกที่ไม่เคยมีคนทำมาก่อนหรือไม่? (FIRST)
กุญแจดอกที่ 2 : สิ่งที่คิดจะทำ อาจจะไม่ใช่สิ่งแรก แต่เป็นสิ่งที่ดีกว่าสิ่งที่มีอยู่ หรือไม่ (BEST)
กุญแจดอกที่ 3 : ถ้าหากไม่ใช่สิ่งแรก และไม่แน่ใจว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่เป็นสิ่งที่แตกต่างจากที่มีอยู่ (DIFFERENT)
ลองใช้กุญแจทั้งสามดอกเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเริ่มต้น ถ้าถามว่ากุญแจดอกไหนยากที่สุด ก็แล้วแต่เพราะสิ่งที่คิดได้ สักพักก็จะมีคนคิดตาม จะใช้ทั้งสามดอกหรือดอกใดดอกหนึ่ง หรือจะใช้รวมกัน ก็อยู่ที่กรอบความคิดของแต่ละคน ข้อสำคัญอีกอย่างก็คือ “อย่าหน้ามืด” ชั่วโมงนี้ค่อย ๆคิดค่อยๆ ทำ เมื่อยังไม่ใช่ ก็ต้องรอ ประคับประคองไปก่อน กุญแจดอกไหนก็ช่วยไม่ได้ ถ้าเราหน้ามืด
ใคร ๆ ก็อยากเพิ่มมูลค่ากันทั้งนั้น ถ้าสะสมไม่มากพอแล้วตัดสินใจไปทีเดียว อาจจะสูญหมดก็ได้นะครับในชั่วโมงเศรษฐกิจแบบนี้
และในการตัดสินใจ สิ่งสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนกันก็คือ เมื่อเวลาพบกับปัญหา “มีทางเลือกเสมอ”
ทำให้นึกถึงสปอตโฆษณาทางวิทยุ ของน้ำจิ้มสุกี้ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งแนวคิดนั้นถูกใจจริง ๆ
ในสปอตเขาบอกว่า…..เมื่อจะกินสุกี้แต่..
ถ้าไม่มีผักกาด ใช้ผักกวางตุ้งแทน
ถ้าไม่มีลูกชิ้นปลา ก็ใช้ลูกชิ้นกุ้ง
ถ้าไม่มีเนื้อหมู ก็ใช้เนื้อวัว
แต่ถ้าไม่มีน้ำจิ้มยี่ห้อนี้ ก็ๆๆๆใช้ใครสักคนออกไปซื้อ
ว่าแต่เราจะใช้ทางเลือกแบบไหน เลือกสบายวันนี้ หรือเลือกสบายวันข้างหน้า?
คอลัมน์ Personal Finance ที่ผมรู้จัก (แต่ทำไม่ได้) ตอนที่ 8
บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน
อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่หวัง !!! หรือฝันให้ไกลไปให้ถึงดี?
ไม่มีวิกฤติสำหรับคนที่แสวงหาโอกาส
