Digital Transformation คือ การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานโดยนำเอา Digital Technology เข้ามาใช้ เพื่อให้มีการเก็บข้อมูลในรูปแบบ Digital มากขึ้น สะดวกต่อการเข้าถึงข้อมูล และนำข้อมูลไปใช้ต่อ เช่น การลงระบบ ERP การเปลี่ยนกระบวนการวางบิลจากกระดาษไปเป็นใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้แต่การชำระเงินในรูปแบบ QR ก็ถือเป็น Digital Transformation ด้วยเช่นกัน
Data-Driven Transformation คือ การปรับเปลี่ยนการตัดสินใจภายในองค์กร โดยใช้ข้อมูลเป็นการตัดสินใจ ซึ่งกระบวนการเดิมที่เน้นคนตัดสินใจ จะเป็นการตั้งข้อสังเกตโดยบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่การเป็น Data-Driven Transformation จะนำข้อมูลที่มีการไหลเวียนอยู่ตลอด เข้าสู่กระบวนการตัดสินใจ และระบบจะสามารถบอกได้ว่า พฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกำลังหมายถึงอะไร และควรตัดสินใจอย่างไร เช่น ระบบ Preventive Maintenance จะสามารถแจ้งเตือนได้ว่า ควรจะมีการซ่อมบำรุงเมื่อใด ระบบ Product Reccomendation สามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคนได้อย่างอัตโนมัติ เป็นต้น
ผลจากการทำ Digital Transformation ทำให้เกิดเป็น Big Data ได้ เนื่องจนข้อมูลจาก Digital Technology เกิดขึ้นตลอดเวลา และอยู่ในรูปแบบที่พร้อมส่งต่อ ทำให้เกิดเป็นข้อมูลขนาดใหญ่เกิดขึ้น
อย่าวไรก็ตาม การทำ Digital Transformation จะเน้นที่ระบบใดระบบหนึ่ง โจทย์ใดโจทย์หนึ่งเสียมากกว่า แต่การเป็น Data-Driven Transformation เป็นเรื่องที่ใหญ่ และกว้างกว่า เพราะต้องทำทั้งองค์กร เนื่องจากทรัพยากร “ข้อมูล” มีความเกี่ยวข้องกับบุคลากรหลายส่วน ตั้งแต่การกรอกข้อมูล การจัดเก็บ การนำไปใช้ การเผยแพร่ การส่งต่อ จนกระทั่งนำข้อมูลไปทำลาย เพราะฉะนั้นการจะเป็น Data-Driven Business ได้ องค์กรจะต้องมีการวางรากฐานของ Data Policy และมีการทำ Data Manangement เพื่อให้รูปแบบในการบริหารจัดการข้อมูลเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งองค์กร
คำถามที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง คือ จะทำ Digital Transformation หรือ Data-Driven Transformation ก่อน ในความเป็นจริง ไม่มีคำตอบที่ตายตัว เพราะทั้งสองโครงการสามารถทำควบคู่กันไปได้ และเป็นส่วนประกอบของกันและกัน ซึ่งข้อมูลจาก Digital Transformation จะนำมาใช้ใน Data-Driven Transformation ต่อได้ แต่ในขณะเดียวกัน การทำ Data Governance และ Data Manangement ไม่จำเป็นต้องรอให้ Digital Transformation ดำเนินการไปก่อน ดังนั้นการวาง Roadmap ที่เหมาะสม จะต้องมองระยะยาว และคัดเลือกหัวข้อในการ Implement ให้เหมาะสมกับโจทย์ และความจำเป็นในการลงทุน
นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างกัน คือ Digital Transformation ส่วนใหญ่เป็นการลงระบบสำเร็จรูป หรือมีกรณีตัวอย่างให้ได้ศึกษา แต่การทำ Data-Driven Transformation เป็นการดำเนินการจัดการทรัพยากร “ข้อมูล” ที่เกิดขึ้นในองค์กร ซึ่งแต่ละองค์กรจะมีโจทย์ และมีรูปแบบที่แตกต่างกัน การดำเนินโครงการ Data-Driven Transformation จึงมีความซับซ้อนมากกว่านั่นเอง
บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน
Data Canvas ตัวช่วยประเมินความพร้อมก่อนดำเนินโครงการ Data Analytics
มิติคุณภาพข้อมูล Timeliness Data ที่หลายองค์กรละเลย
CHATGPT แตกต่างจาก CHATBOT ตัวอื่นอย่างไร คุ้มสำหรับการลงทุนหรือไม่
