พันทิปดอทคอม (pantip.com) โซเชียลเน็ตเวิร์กแรกของคนไทยที่ยังคงเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ผ่านกาลเวลามานาน 24 ปี นับแต่วันแรกที่เปิดให้บริการในฐานะเว็บคอนเทนต์ภาษาไทย ก่อนปรับมาเป็นเว็บ community ที่ทรงอิทธิพลที่สุดช่วงหนึ่งในสังคมไทย ในวันนี้แม้ว่าเวลาบนโลกออนไลน์ของคนไทยถูกยึดครองโดยแพลตฟอร์มต่างชาติ แต่พันทิปดอทคอมยังอยู่ยั้งยืนยงในฐานะเว็บ community ที่ให้คนมาแชร์ความรู้กัน
-“ตลาดดอทคอม” อีคอมเมิร์ซ ของคนไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย
-“ออนไลน์ มีเดีย” เกิดง่าย ตายง่าย ตัวจริงเท่านั้นที่รอด
อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ Co-founder and Chief Product Officer เว็บไซต์ Pantip.com เล่าให้ The Story Thailand ฟังว่า pantip.com เกิดปี 2539 เป็นยุคที่ในประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตแค่หลักหมื่นหลักแสนคน และอินเทอร์เน็ตจำกัดวงอยู่กับนักศึกษา หรือคนทำงานออฟฟิศ ที่ออฟฟิศเริ่มมีอินเทอร์เน็ตใช้งาน กลุ่ม mass จริง ๆ ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ และยุคนั้นก็เป็นอินเทอร์เน็ตที่ใช้โมเด็ม ต้องโทรศัพท์เข้าไปเพื่อต่อเน็ต
สมัยนั้นเว็บไซต์ในประเทศไทยมีน้อย ไม่ค่อยมีเว็บไซต์ภาษาไทย พันทิปเป็นเว็บภาษาไทยตั้งแต่วันแรก เพื่อให้คนไทยได้อ่านคอนเทนต์ภาษาไทย คุณวันฉัตร (ผดุงรัตน์) เป็นผู้ก่อตั้งพันทิป และนำข่าวไอทีในต่างประเทศมาแปลให้คนไทยได้อ่านในพันทิป มีบทความไอที ตอนนั้นพันทิปเป็นเว็บคอนเทนต์แบบนี้ ซึ่งไม่จูงใจให้คนไทยเข้ามาใช้บริการเป็นประจำ
มีจุดหักเห วันหนึ่งมีผู้ใช้พันทิปท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นคุณหมอได้อีเมลมาคุยกับคุณวันฉัตร บอกว่าพันทิปดีนะแต่จะดีกว่านี้ถ้า พันทิปมีเพลงให้ฟังระหว่างอ่านคอนเทนต์บนเว็บ คุณวันฉัตร สอบถามไปว่าจะทำอย่างไร คุณหมอก็อธิบายวิธีใส่เพลง สื่อสารกันไปผ่านอีเมลหลายฉบับ เกิดเป็นประเด็นว่า การถามตอบเรื่องการใส่เพลงในเว็บเป็นความรู้ที่ดีที่ไม่ควรรู้กันแค่ 2 คนที่คุยกันในอีเมล แต่คิดว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนอื่นอีกเป็นพันเป็นหมื่นคนน่าจะได้คำตอบนี้ด้วย เป็นที่มาของ “เว็บบอร์ด” ในพันทิป
“เว็บบอร์ด” ตัวตนพันทิป
เว็บบอร์ดแรกที่พันทิปมี คือ Technical Chat คุยเรื่องเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เป็นหลักก่อน นั่นคือ จุดเปลี่ยนแรกของพันทิป จากเว็บคอนเทนต์ เป็น community ผู้ใช้เริ่มเยอะขึ้น จากวันละไม่กี่ร้อยคนเพิ่มเป็นหลักพันหลักหมื่นต่อวัน ซึ่งก็อยากจะคุยในเรื่องอื่น ๆ มากขึ้น มีสารพัดเรื่องที่อยากคุย ไม่เฉพาะเรื่องคอมพิวเตอร์ อาทิ เรื่องท่องเที่ยว การเมือง รถยนต์ เป็นต้น
จึงมีการแยกตัวเว็บบอร์ดออกจาก Technical Chat มาเป็น สภากาแฟ (ในวันแรก) มีทั้งหมด 8 ห้องในวันแรก ครอบคลุมความสนใจหลากหลายของผู้ใช้ในวันนั้น คนเข้าพันทิปก็เยอะขึ้นจากหลักพันเป็นหลักหลายหมื่น มีการเปิดห้องเพิ่มมากขึ้น จนเมื่ออินเทอร์เน็ตเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเป็นหลักแสนหลักล้านคน คนก็เข้ามาเล่นพันทิปเยอะขึ้นด้วย พันทิปถือเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้สร้างเนื้อหาขึ้นมาเอง (user generated content plaform) ตั้งแต่ยุคแรก ๆ และเป็นโซเชียลมีเดียยุคแรก ๆ ด้วย
พอคนสร้างคอนเทนต์ได้เอง ก็เกิดปัญหาขึ้น เช่น ปัญหาเรื่องการก่อกวนเว็บไซต์ หรือปลอมแปลงเป็นชื่อคนอื่น เพราะพันทิปในวันแรกไม่ต้องล็อกอิน ไม่มีระบบล็อกอิน ไม่มีระบบสมัครสมาชิก ใครจะใส่ชื่ออะไรก็ได้ เริ่มมีการปลอมชื่อ ก็เลยเริ่มเกิดระบบล็อกอินขึ้นมา เกิดระบบ “อมยิ้ม”
การล็อกอิน คือ การที่จองชื่อในพันทิปแล้วใส่รหัสผ่านไว้ ต่อไปจะตั้งกระทู้/ตอบกระทู้ อะไรต้องใส่ชื่อนี้และรหัสผ่านนี้ และมีไอคอนอมยิ้ม เพื่อจะบอกว่า คน ๆ นี้มีตัวตนจริง ๆ พอเริ่มมีการล็อกอิน ระบบล็อกอินก็มีพัฒนาการต่อมาอีกเยอะมาก
อินเทอร์เน็ตในสมัยนั้นมักจะมีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดี พันทิปเองก็เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งที่ถูกเพ่งเล็งว่าเป็นแพลตฟอร์มที่คนเข้ามาตั้งกระทู้โจมตีกัน พันทิปจึงเริ่มใช้ระบบการยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากเหมือนกันเพราะว่า การที่ต้องให้คนมายืนยันด้วยบัตรประชาชน หมายถึงว่า ผู้ใช้จะลดลง จะมีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่แฮปปี้ที่จะเข้ามาเล่น เป็นจุดเปลี่ยนอีกจุดหนึ่ง
แต่พันทิปต้องการแสดงออกว่าเป็นแพลตฟอร์มที่รับผิดชอบต่อสังคม ไม่อยากให้มีคอนเทนต์ที่ไม่ดี มีทีมงานที่คอยกลั่นกรอง มีระบบสมาชิกที่ดีขึ้น มีการพัฒนาต่อยอดกันขึ้นมา
พอเวลาผ่านไป เริ่มมีโซเชียลเน็ตเวิร์กเกิดขึ้นมาในประเทศ ผู้ใช้เริ่มมีทางเลือกในการใช้แพลตฟอร์มเพื่อสร้างคอนเทนต์ ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดแตกต่างของตัวเองกันอยู่ พันทิป กลับมาดูว่าจุดแข็งของพันทิป คือ อะไร “อะไรคือจุดที่เป็นแก่นของเรากันแน่”
จริง ๆ ในยุคที่เปิดเว็บบอร์ด Technical Chat ขึ้นมา คุณวันฉัตร (ผดุงรัตน์) ได้เขียนข้อความ ๆ หนึ่งไว้บนเว็บไซต์พันทิป “ไม่มีใครรู้ทุกอย่าง เรารู้ในบางเรื่องที่ไม่รู้ เช่นเดียวกับที่คนอื่นก็รู้ในบางเรื่องที่เราไม่รู้ พันทิป คือ พื้นที่สำหรับให้คนมาแบ่งปันความรู้กัน มันเป็นจิตวัญญาณของพันทิป “จุดยืนของเรา คือตรงนี้ คือ พื้นที่ที่ให้คนมาแบ่งปันความรู้กัน”
ช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านอีกยุค คือ ตอนที่สมาร์ทโฟนเริ่มเกิดขึ้นมา คือ ยุครอยต่อจาก 2G มา 3G พันทิปพัฒนารื้อแพลตฟอร์มใหม่ จากเดิมที่มีปัญหาว่าเก็บกระทู้ไว้ได้ไม่นาน เพราะว่า storage มีราคาแพง ในยุคนี้ storage ราคาถูกพันทิปสามารถเก็บกระทู้ได้ตลอดไป
พันทิปพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ ทำให้จำนวนผู้ใช้พันทิปโตแบบก้าวกระโดดจากวันละ 800,000 คน กระโดดเป็นวันละ 4.5 ล้าน – 5 ล้านคน ภายในเวลาประมาณ 2 ปี เป็นการเติบโตที่เร็วมากในช่วงนั้น รวมถึงการปรับให้รองรับการใช้งานผ่านมือถือ ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้สมาร์ทโฟนแต่ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์เข้าพันทิปง่ายขึ้นและอ่านคอนเทนต์ได้ดีขึ้น
จิตวิญญาณของพันทิป
พันทิป คือ พื้นที่สำหรับให้คนมาแบ่งปันความรู้กัน เป็น long-form content ที่มีคุณค่ากับคนอ่านมหาศาล
พันทิปเป็นที่ที่คนมาแสวงหาคำตอบ เขามีคำถามอะไรบางอย่างเขาจะนึกถึงพันทิป อันนี้คือ จิตวิญญาณของพันทิป ทำอย่างไรให้พันทิปมีคำตอบให้กับคำถามของคนไทย คำตอบอย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็นคำตอบที่น่าเชื่อถือด้วย เป็นโจทย์ที่ท้าทาย และเป็นโจทย์จะทำในอนาคตต่อไป
พันทิปมีกระทู้หลายรูปแบบ ปัจจุบันมีกระทู้ 6 รูปแบบ คือ กระทู้คำถาม ซึ่งเป็นกระทู้ที่ได้รับความนิยมสูงสุด กระทู้สนทนาพูดคุย บางทีดูละครแล้วมาพูดคุยกันมารายงานสดกัน กระทู้โพล ให้คนมาโหวตกัน กระทู้รีวิว เป็นที่ที่คนมาหาข้อมูลกันเยอะมากเวลาจะซื้อของอะไรสักอย่าง หรือจะไปเที่ยวไหนสักที่หนึ่ง กระทู้ข่าวสำหรับการอัปเดตข่าวสารในบ้านเมือง และกระทู้ซื้อขายสินค้า เป็นมาร์เก็ตเพลสได้เหมือนกัน ซึ่งอนาคตอาจจะมีกระทู้รูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เพราะพบว่าคำถามบางคำถาม กระทู้ทั้ง 6 ยังตอบได้ไม่ดีนัก
จำนวนสมาชิกของพันทิปในปัจจุบัน อยู่ที่ราว ๆ 4 ล้านกว่าคนต่อวัน มีสมัครเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ ละหลักหลายพันคน ช่วงที่ปรับ 3G มาสัก 3 ปี ที่ผู้ใช้เคยขึ้นไปถึง 5 ล้านกว่าคนต่อวัน ยุคเปลี่ยนผ่านจาก 2G มา 3G จำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ช่วงที่ผู้ใช้พันทิปลดลง คือ ช่วงนี้ ช่วงปัจจุบันนี้ เพราะมีแพลตฟอร์มอื่นที่ดึงผู้ใช้ออกไป ผู้ใช้มีทางเลือกในการเลือกใช้แพลตฟอร์มมากขึ้น
พันทิป คือ community ที่ให้คนมาแชร์ความรู้กัน คนมาช่วยกันตอบคำถามให้กับคนที่สงสัย พอเป็น community แบบนี้ แน่นอนขนาดมันจะเล็กลง ผู้ใช้พันทิปจะลดลงในช่วงเวลานี้
“ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความตั้งใจของเรานิด ๆ สมัยก่อนคนมองว่าพันทิป คือ community มาพูดคุย แต่ปัจจุบันทุกที่ก็เป็น community เราต้องพยายามหาจุดยืนของตัวเอง ว่าเราเป็น community แบบไหน ถามว่าอยากให้มีผู้ใช้จำนวนเยอะ ๆ ไหม คำตอบคือ อยาก แต่เราต้องปรับแพลตฟอร์มของเราให้ friendly กับผู้ใช้งานด้วย ซึ่งก็พยายามทำกันอยู่ มันมีจุดยืนที่เราต้องพยายามรักษาไว้”
หลายแพลตฟอร์มพยายามเอื้อให้ผู้ใช้งานสร้างเนื้อหาได้ง่ายที่สุด ขณะที่พันทิปเป็น long-form content เป็นความยาก แต่เป็นความยากที่มีคุณค่าของมันอยู่ เพราะใช้พลังงานของผู้ใช้เยอะ กว่าจะมาตั้งกระทู้ยาว ๆ ต้องใช้เวลาหาข้อมูล แต่ขณะเดียวกัน content ของเขามีคุณค่ากับคนอ่านมหาศาล
เป็นจุดที่ต้องเลือก พันทิปอาจจะไม่ได้มีจำนวนผู้ใช้มากแบบ Faecbook, TikTok, Twitter แต่ก็เป็นผู้ใช้ที่มีคุณภาพที่เสียสละแรงงานและเวลามาสร้างคอนเทนต์ดี ๆ ให้คนได้อ่านกัน พันทิปมีจุดที่ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นอยู่ คือ แพลตฟอร์มอื่นคือ โซเชียลเน็ตเวิร์กของคน ๆ นั้น มันตีกรอบภายใต้ Echo Chambers อยู่ในพื้นที่ของตัวเอง แต่พันทิป คือ พื้นที่เปิด พื้นที่สาธารณะที่เปิดกว้างมาก เสน่ห์ คือ การเปิดกว้าง เหมือนเป็นโลกกว้างที่ไมไ่ด้อยู่แค่ในห้องแคบ ๆ ของตัวเราเอง แต่เป็นโลกกว้างที่คุณจะได้เรียนรู้จากคนอีกมากมายมหาศาล
แรงจูงใจที่ทำให้เขามาพูดคุยหรือตั้งคำถาม ตอบคำถามในพันทิป ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ในเชิงตัวเงิน บางแพลตฟอร์มยอดวิวเยอะจะได้เงินเยอะ แต่พันทิปไม่มีสิ่งเหล่านี้เลย
พันทิปคือ แพลตฟอร์มที่เสียสละกันจริง ๆ คนมา contribute ที่นี่แล้วมีคนอ่าน กระทู้เข้าถึงได้ตลอด ไม่ต้องอยู่ในวงของใครคนใดคนหนึ่ง เกิดประโยชน์กับคนทั่วไปได้
“สมาชิกหลายคนเล่นพันทิปกันมา 10 ปี 20 ปี มีสมาชิกที่เหนียวแน่นมาก ๆ และให้ความรู้ อาทิ ‘ห้องหว้ากอ’ อ่านแล้วรู้สึกว่าฉลาดขึ้นทันทีเลย ผมค่อนข้างภูมิใจเรื่องคุณภาพของสมาชิกของเรา เชิงปริมาณเราไม่ได้เยอะ แต่เชิงคุณภาพผมว่าเราดีนะ และเราพยายามสรางสายสัมพันธ์กับสมาชิกเหล่านี้ไว้นาน ๆ”
พันทิปจับตลาดในประเทศ ในขณะที่แพลตฟอร์มต่างชาติเขาครองทั้งโลก เป็นความท้าทายที่พันทิปต้องหาสิ่งที่แพลตฟอร์มต่างชาติยังทำได้ไม่ดี เช่น การสร้างสายสัมพันธ์ในเชิงกายภาพ เชิงออฟไลน์กับสมาชิก แพลตฟอร์มต่างชาติไม่ได้ทำหรืออาจจะทำได้ไม่ดีเท่า ต้องพยายามทำตรงนี้ให้ดีขึ้น เพราะเป็นจุดที่จะแตกต่างจากแพลตฟอร์มต่างชาติได้
จะเน้น “คำตอบ” ที่เร็วขึ้น ดีขึ้น น่าเชื่อถือขึ้น
อภิศิลป์ บอกว่า เขาชอบคำพูดหนึ่งของเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon.com ที่พูดว่า “ผมไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเปลี่ยนไปยังไง ผมรู้แค่ว่ามันจะมีอะไรที่มันจะไม่เปลี่ยนไปบ้าง” เขาก็ตั้งคำถามแบบนี้เหมือนกัน ว่าอะไรที่จะไม่เปลี่ยนบ้าง และพบว่าสิ่งที่จะไม่เปลี่ยนเลย คือ ยังไงผู้ใช้จะมีคำถามและต้องการคำตอบ เขาต้องการคำตอบที่เร็วขึ้น ต้องการคำตอบที่ดีขึ้น ต้องการคำตอบที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ดังนั้น พันทิป ต้องโฟกัสกับเรื่องนี้ให้ได้ เป็นโจทย์หลักเลยว่าพันทิปต้องช่วยผู้ใช้งานให้ได้คำตอบของคำถาม เวลาที่เขามีปัญหาหรือมีข้อสงสัยอะไรก็ตาม
พันทิป จะเน้นเรื่องความน่าเชื่อถือในบางหมวด ห้องสวนลุมพินี ที่คุยเรื่องสุขภาพ เป็นห้องที่คนเข้ามาค้นหาข้อมูลเยอะ คำตอบเกี่ยวกับสุขภาพเป็นคำตอบที่อ่อนไหวต้องการความน่าเชื่อถือสูง พันทิปได้เชิญคุณหมอมาช่วยตั้งกระทู้/ตอบกระทู้ เป็น expert account เป็นผู้เชี่ยวชาญบนพันทิป ในอนาคตอาจจะขยายไปหมวดอื่น ๆ มากขึ้น อาทิ เรื่องกฎหมาย และเรื่องเกี่ยวกับภาครัฐ เป็นต้น และอาจจะทำเรื่อง big data มากขึ้น เพื่อให้การตอบคำถามทำได้เร็วขึ้น
จำนวนกระทู้ในพันทิปตอนนี้มีประมาณ 40 ล้านกระทู้ พันทิป มีทีมนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (data scientist) พัฒนาข้อมูลกระทู้ในระบบให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการใช้ big data และ machine learning ซึ่งใช้ machine learning มา 4-5 ปีก่อนหน้านี้แล้ว
รายได้พันทิปมาจากโฆษณา ทำเนื้อหา และบริการ API รูปแบบโฆษณามีหลายแบบ ทั้ง banner, branded content และ influencer เป็นต้น ทีมงานตอนนี้ 70-80 คน คนส่วนใหญ่เป็นเจน Y วัฒนธรรมองค์กรของพันทิป คือ มีความเต็มที่ในการทำสิ่งดี ๆ ให้กับสมาชิกของพันทิป
ในวันนี้แม้ว่าเวลาบนโลกออนไลน์ของคนไทยถูกยึดครองโดยแพลตฟอร์มต่างชาติ แต่พันทิปดอทคอมยังอยู่ยั้งยืนยงในฐานะเว็บ community ที่ให้คนมาแชร์ความรู้กัน
ซึ่งผ่านยุค dot com bubble ในไทยเมื่อสิบกว่าปีก่อน ปัจจุบันพันทิปต้องเจอกับสินามิของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจากสารพัดค่าย สึนามิครั้งนี้ต่างจากอดีต ในอดีตที่เหมือนอยู่ในคลอง แต่ตอนนี้เหมือนเป็นทะเลอันกว้างใหญ่ขึ้น ผู้ใช้มีจำนวนมากขึ้นมาก
พันทิปไม่จำเป็นต้องถือผู้ใช้ทั้งหมดไว้คนเดียว ผู้ใช้เขามีทางเลือกมีแพลตฟอร์มมากมายให้เลือกใช้งาน ชอบแพลตฟอร์มไหนก็เล่นแพลตฟอร์มนั้น และเขาก็ไม่ได้ใช้แค่แพลตฟอร์มเดียว แต่ละแพลตฟอร์มมีจุดยืนของตัวเอง พันทิปก็มีจุดยืนของพันทิปที่อยู่ด้วยจุดยืนของตัวเอง
“ทำพันทิปมา 20 กว่าปี ภูมิใจที่พันทิปเติบโตมาถึงขนาดนี้ก็แปลกใจดีเหมือนกัน เราอาจจะไม่ได้เน้นเรื่องการแข่งขันมาก ซึ่งวัฒนธรรมพันทิปเป็นแบบนี้ แต่การที่มาถึงขนาดนี้ได้ก็ไม่ธรรมดาที่มีผู้ใช้สนับสนุนเรามาถึงขนาดนี้ เป็นความภาคภูมิใจร่วมกันกับสมาชิก คือถ้าสมาชิกไม่มาใช้บริการเรา เราก็ไม่รู้จะภูมิใจอะไรเลยนะ”
สมาชิกเห็นคุณค่าของแพลตฟอร์มพันทิป เขามาใช้งานพันทิป มาผลิตคอนเทนต์ดี ๆ บนพันทิป มันน่าภูมิใจเรื่องนี้
สมาชิกพันทิป ตอนนี้มีความหลากหลายตามแต่ละห้อง เดิมทีคิดว่าสมาชิกของพันทิปต้องเป็นเจน X เพราะพันทิปเปิดมา 24 ปีแล้ว แต่พอมาดูข้อมูลสถิติ พบว่า ตอนนี้สมาชิกมีตั้งแต่เจน Y คือ 24-34 ปี จำนวนมาก รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 18-24 ปี และกลุ่มอายุ 35-44 ปี แต่ละห้องมีความแตกต่างกัน อาทิ ห้องสินธร อาจจะสมาชิกเจนน X มาก แต่ถ้าเป็นห้องกรุงโซล ที่คุยเรื่องเกาหลี ก็อาจจะเป็นเจน Y หน่อย ๆ
“ผมไม่ได้รู้สึกว่าผมเป็นเจ้าของพันทิปอะไรเลย แค่เป็นคนทำงานคนหนึ่งที่อยากทำพันทิปให้มันดีขึ้นเรื่อย ๆ วันหนึ่งหากต้องเกษียณไป คนรุ่นใหม่เจน Y เจน Z เข้ามาแทนมารันพันทิปต่อไปให้มันดีขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วัน ภูมิใจในสมาชิก ภูมิใจที่เห็นเขาทำสิ่งดี ๆ บนแพลตฟอร์มพันทิป”
พันทิป คือ แพลตฟอร์มของคนไทยทุกคน ทีมงานพันทิป ทีมงานคนไทย 100% ที่พัฒนาและรันพันทิปขึ้นมาตลอด 24 ปี
“ทำด้วยความรู้บ้างไม่รู้บ้าง ลองผิดลองถูกหลายอย่าง ทำเท่าที่กำลังจะทำไหว ซึ่งแน่นอนสู้กำลังของแพลตฟอร์มต่างชาติไม่ไหวหรอก แต่ว่าก็ยังอยากทำ ทำแล้วยังมีประโยชน์กับคนไทย มีคุณค่ากับคนไทย เราก็ต้องทำต่อไป มันเป็นความภูมิใจของคนทำงาน”
อยากฝากพันทิปให้คนไทยทุก ๆ คน ให้เข้ามาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของพันทิป ไม่ว่าจะเข้ามาอ่าน เข้ามาเป็นสมาชิก ช่วยตั้งกระทู้ ช่วยตอบกระทู้ พันทิปยังขาดอะไรอยู่ เข้ามาช่วยกันเติม เข้ามาสร้างเนื้อหาดี ๆ ส่งต่อแรงบันดาลใจ ส่งต่อความรู้ กับคนรุ่นต่อ ๆ ไปบนพันทิปกัน อยากให้พันทิปเป็นแพลตฟอร์มที่ทุกคนเป็นเจ้าของจริง ๆ เป็นแพลตฟอร์มที่เป็นของคนไทยจริง ๆ อยากให้พันทิปไปถึงจุด ๆ นั้นให้ได้
“ถ้าพูดถึงแพลตฟอร์มไทยที่ถูกต่างชาติตี ไม่ว่าจะเป็น เสิร์จ (search) อีคอมเมิร์ซ หรือเดลิเวอร์รี่ ล้วนโดนต่างชาติตีหมดแล้ว พันทิปยังเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ยังสู้อยู่ มันเป็นความภูมิใจที่รู้สึกถึงความท้าทายอยู่เหมือนกัน” อภิศิลป์ กล่าวทิ้งท้าย
