Meta เจ้าของเครือข่ายโซเชียลมีเดียชั้นนำอย่าง Facebook และ Instagram วางแผนมุ่งเพิ่มแนวทางการรักษาจำนวนผู้ใช้งาน Threads สะท้อนให้เห็นความเอาจริงเอาจังของ Meta ที่จะปั้นให้แอปพลิเคชันน้องใหม่ตัวนี้เป็นดาวพิฆาต Twitter
รายงานระบุว่ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Meta ได้กล่าวถึงความตั้งใจดังกล่าวกับทางพนักงานของ Meta หลังจากที่ Threads มีจำนวนผู้ใช้งานลดฮวบไปมากกว่าครึ่งในช่วงหลายสัปดาห์หลังเปิดตัวอย่างครึกโครม
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน อ้างอิงเนื้อหาที่ได้จากเสียงบันทึกจากอีเวนต์ Town Hall ของ Meta ซึ่ง ซักเกอร์เบิร์ก ไม่ได้แสดงความวิตกกังวลต่อตัวเลขจำนวนผู้ใช้ที่ลดลงไปแต่อย่างใด โดยเจ้าตัวย้ำว่า แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่การรักษาจำนวนผู้ใช้แอป Threads ก็ยังถือว่าดีกว่าที่คาดไว้
- Threads อีกหนึ่งบทพิสูจน์ของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เรียนรู้ปรับเปลี่ยนและต่อยอดจากจุดอ่อนของคู่แข่ง
- จับตาบอสหญิงคนใหม่ Twitter ตั้งเป้าปั้นนกฟ้าสู่แหล่งข้อมูลเรียลไทม์
ทั้งนี้ ซักเกอร์เบิร์กยอมรับว่า ความต้องการสูงสุดของคนพัฒนาแอปฯ ย่อมต้องการให้มีผู้ใช้งานให้มากที่สุด และใช้อย่างสม่ำเสมอยาวนานต่อไป ซึ่งสำหรับ Treads แม้จะมีรายงานจำนวนผู้ใช้งานที่ลดลงอย่างฮวดฮวบต่อเนื่อง แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
อย่างไรก็ตาม ซักเกอร์เบิร์ก กล่าวว่า ทาง Meta ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังพิจารณาหาแนวทางที่จะรักษาให้ผู้ใช้งานที่เข้ามาลงทะเบียนกับ Threads ใช้งานแอปฯ นี้ต่อไปยาว ๆ
รายงานระบุว่า หนึ่งในแนวทางสำคัญที่ซักเกอร์เบิร์กจะนำมาใช้ ก็คือการยกเลิกปุ่ม “normal” (ปกติ) โดยขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา พร้อมคาดหวังว่าหลังจากที่เลิกไปแล้ว จะช่วยให้จำนวนคนใช้งานที่ถอดใจถอนตัวขอจาก Threads ลดลง
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มคุณลักษณะเพิ่มเติมให้กับแอป ซึ่งรวมถึง Threads ที่ใช้งานสำหรับเดสก์ท็อปและฟังก์ชันการค้นหา
ด้าน คริส ค็อกซ (Chris Cox) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์กล่าวเสริมว่า Meta กำลังมองหาตัวฮุคกระตุ้นการรักษายอดผู้ใช้งาน เพื่อดึงดูดผู้ใช้ให้กลับมาที่แอป ยกตัวอย่างเช่น “ทำให้แน่ใจว่าผู้ที่อยู่ในแอป Instagram สามารถเห็นข้อความ Threads ที่สำคัญได้
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกของบริษัทปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นเพิ่มเติมใด ๆ
รายงานระบุว่า ความคิดเห็นของทีมผู้บริหาร Meta ครั้งนี้ มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ Meta ได้สร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนด้วยการคาดการณ์การเติบโตของรายได้ที่สดใสในนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณฟื้นตัวทางบวกของบริษัทที่เผชิญกับความกังขาอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการใช้จ่ายจำนวนมากเพื่อลงทุนในเมตาเวิร์ส (metaverse) ในปี 2022 ที่ผ่านมา บวกกับยอดขายจากโฆษณาที่ลดลง
ข้อมูลคาดการณ์การเติบโตที่สดใส ส่งผลให้หุ้นของ Meta ขยับปรับตัวพุ่งขึ้นถึง 8% และปิดตลาดในแดนบวกในช่วงท้ายสัปดาห์
ขณะเดียวกัน ซักเกอร์เบิร์ก ยังใช้โอกาสนี้ย้ำว่า การลงทุนในเมตาเวิร์สของบริษัทไม่ใช่เรื่องสูญเปล่า และว่า งานของบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีความจริงเสริมและเสมือนจริงที่จะขับเคลื่อนเมตาเวิร์สนั้นเป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้ อีกทั้งงบประมาณที่ใช้ก็ไม่ได้มากมายอย่างที่หลายคนเข้าใจ
ผู้บริหาร Meta กล่าวเสริมอีกว่า ทางบริษัทจำเป็นต้องเริ่มลงทุนในงานเมตาเวิร์ส ก่อนคู่แข่งอย่าง Apple, Google และ Microsoft เนื่องจากบริษัทคู่แข่งเหล่านี้มีข้อได้เปรียบด้านประสบการณ์แซงหน้า Meta หลายปีในการสร้างระบบปฏิบัติการสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องตลาด
โดยซักเกอร์เบิร์ก แสดงความเชื่อมั่นว่า ด้วยแนวทางของ Meta บริษัทจะมีเครื่องมือทั้งหมดพร้อมสำหรับช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ซึ่งซักเกอร์เบิร์ก คาดการณ์ว่าการนำเทคโนโลยีเมตาเวิร์สมาใช้จำนวนมากจะแพร่หลายมากขึ้นภายในปี 2030
นอกจากนี้ ทั้งซักเกอร์เบิร์ก และ ค็อกซ์ ต่างย้ำถึงการเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่เรียกว่า Llama 2 ซึ่งจะมีการเปิดให้บรรดานักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีจำนวนผู้ใช้งานซอฟท์แวร์ของตนน้อยกว่า 700 ล้านคนสามารถนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ได้ฟรี โดย ซักเกอร์เบิร์กเผยว่า ขณะนี้ Llama 2 มีคำขอดาวน์โหลดมากกว่า 150,000 ครั้งนับตั้งแต่เปิดตัว
ที่่มา Channel News Asia
Bitkub จับมือ Facebook ใช้ Augmented Reality พาทุกคนเก็บ NFT
จับตาบอสหญิงคนใหม่ Twitter ตั้งเป้าปั้นนกฟ้าสู่แหล่งข้อมูลเรียลไทม์