TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyThreads อีกหนึ่งบทพิสูจน์ของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เรียนรู้ปรับเปลี่ยนและต่อยอดจากจุดอ่อนของคู่แข่ง

Threads อีกหนึ่งบทพิสูจน์ของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เรียนรู้ปรับเปลี่ยนและต่อยอดจากจุดอ่อนของคู่แข่ง

ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นวงการเทคโนโลยีสารสนเทศในรอบสัปดาห์นี้กันเลยทีเดียว เมื่อทาง Meta เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชั้นนำระดับโลกอย่าง Facebook และ Instagram ประกาศเปิดให้บริการแอปพลิเคชั่นตัวใหม่ที่เรียกว่า Threads เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา 

ภายในเวลาไม่ถึง 1 วัน (ราว 18 ชั่วโมง) Threads มียอดดาวน์โหลดสมัครเข้าใช้บริการแล้วมากกว่า 30 ล้านบัญชี โดยในจำนวนนี้มีอินฟลูเอนเซอร์และเซเลบตัวแม่ที่มีผู้ติดตามหลักแสนถึงหลักล้านรวมอยู่ด้วย 

ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า ความฮอทของ Threads มาจากการแผนการตลาดอันแยบยลของ Meta ที่สั่งสม และรู้จักจังหวะช่วงเวลาที่จะปล่อยออกมา เห็นได้จากการที่ให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ได้ลองใช้งานก่อนใคร ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาที่ Twitter คู่แข่งคนสำคัญกำลังเพลี่ยพล้ำอย่างหนัก จากนโยบายที่หวังหารายได้เข้าบริษัทของ อีลอน มัสก์ เจ้าของแพลตฟอร์มนกสีฟ้าหมาด 

แต่ขณะเดียวกัน เหล่ากูรูอีกหลายสำนักก็ชี้ว่า Threads กลายเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ในความอุตสาหะของ มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Meta ที่ไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้จุดอ่อนของคู่แข่ง และนำจุดอ่อนนั้นมาปรับปรุง ต่อยอด และใช้งาน

ทั้งนี้ เป็นที่รู้กันดีสำหรับคนในวงการว่า ซักเกอร์เบิร์ก เป็นนักเรียนรู้ที่ไม่เคยอายที่จะประกาศให้โลกรู้ว่า ยินดีที่จะ “โคลนนิง” ไอเดียดี ๆ มาต่อยอดพัฒนา ยกตัวอย่างเช่น Instagram Stories ที่ได้ไอเดียมาจาก Snapchat, Instagram Reels จาก TikTok และความสามารถในการตัดแต่งข้อความ (editing meassage) ภายใน 15 นาทีหลังส่งข้อความออกไปแล้วใน WhatsApp ที่ได้จาก Telagram และ Signal

ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ ซัคเกอร์เบิร์ก จะเปิดตัว Threads แอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียตัวใหม่ที่มีหน้าตาประหนึ่งร่างโคลนของ ทวิตเตอร์ ราวพิมพ์เดียวกัน ซึ่งมาในจังหวะเป็นใจที่บรรดาผู้ใช้งานทวิตเตอร์กำลังคับข้องใจกับนโยบายของมัสก์ เจ้าของทวิตเตอร์ ที่ล่าสุด สั่ง “จำกัดการมองเห็น” ของผู้ใช้งานทุกกลุ่มชั่วคราว  

รายงานระบุว่า บัญชีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ ได้รับการยืนยันตัวตนจะอ่านฟีดได้ไม่เกิน 6,000 โพสต์ต่อวัน ขณะที่บัญชีผู้ใช้ที่ไม่ผ่านการยืนยันจะอ่านโพสต์ได้ไม่เกิน 600 โพสต์ต่อวัน และบัญชีใหม่ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจะสามารถอ่านโพสต์ได้ไม่เกิน 300 โพสต์ต่อวัน เพื่อหวังให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ สมัครใช้ทวิตเตอร์ บลู (Twitter Blue) บริการจ่ายเงินรายเดือนที่ให้ผู้ใช้งานได้รับการยืนยันตัวตน และช่วยให้ทวิตเตอร์มีรายได้มากขึ้น 

ในแถลงการณ์ของ Meta อธิบายว่า Threads เป็นแอปการสนทนาแบบข้อความที่ซัคเกอร์เบิร์กให้นิยามว่าเป็นการแชร์เรื่องราวเวอร์ชั่นข้อความของ Instagram ที่เปิดให้กว่า 100 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา และญี่ปุ่น ใช้งาน โดยมีผู้ใช้งานคนดังอย่าง  โอปราห์, ชากีรา, เชฟกอร์ดอน แรมซีย์ ตลอดจนบริษัทองค์กรชั้นนำอย่าง Taco Bell, Netflix, Spotify, Washington Post และสื่ออื่นๆ อีกหลายสำนัก 

ทั้งนี้ สิ่งที่ Threads เหมือนกับทวิตเตอร์ คือการที่ผู้ใช้สามารถรีโพสต์ ตอบกลับ หรือ อ้างถึง Quote ใน Threads ได้ ขณะเดียวกันก็สามารถดูจำนวนการถูกใจและการตอบกลับที่โพสต์ได้รับ รวมถึงลิงค์รูปภาพและคลิปวีดีโอสั้น ๆ 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Threads มีต่างออกไป ก็คือการที่สามารถโพสต์ข้อความได้สูงสุด 500 ตัวอักษร ต่างจากทวิตเตอร์ที่สามารถใส่ได้มากสุด 280 ตัวอักษร ยิ่งไปกว่านั้น Threads ยังสามารถใส่ลิงค์คลิปวีดีโอความยาวสูงสุดถึง 5 นาที

และที่สำคัญ ซัคเกอร์เบิร์กย้ำชัดว่า สิ่งที่ Threads มีแต่ทวิตเตอร์ไม่มีแน่นอนก็คือ การเป็นสถานที่ที่เป็นมิตรสำหรับผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นความแตกต่างที่ Meta ตั้งใจทำให้ Threads ต่างออกไป 

นอกจากนี้ ข้อได้เปรียบอีกประการหนึ่งของ Threads ก็คือการรวมเข้ากับเครือข่ายโซเชียลมีเดียที่มีอยู่แล้วอย่าง Instagram ทำให้ผู้ใช้งานอินสตาแกรมสามารถเข้าสู่ระบบ Threads โดยใช้ข้อมูลรับรองชุดเดียวกัน ช่วยให้โอนย้ายข้อมูลโปรไฟล์ รวมถึงบรรดาผู้ติดตามที่อยู่บน Instagram ใน Threads ได้โดยอัตโนมัติ

แม้ขณะนี้จำกัดการใช้งานเฉพาะผู้มีบัญชี Instagram เท่านั้น แต่มีรายงานระบุว่า ทาง Meta กำลังเร่งพัฒนาเพื่อเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปเข้าเป็นฐานลูกค้าของ Meta มากขึ้น 

ในส่วนของมาตรการความปลอดภัยและนโยบายความเป็นส่วนตัว Meta ระบุว่า Threads จะใช้มาตรการความปลอดภัยแบบเดียวกับที่ใช้บน Instagram ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้แนวทางชุมชนของ Instagram (Instagram’s community guidelines) และจัดหาเครื่องมือเพื่อควบคุมว่าใครสามารถพูดถึงหรือตอบกลับผู้ใช้งาน ดังนั้น เนื้อหาอ่อนไหว อย่าง ทฤษฎีสมคบคิดไปจนถึงข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19  ก็จะใช้มาตรการจัดการแบบเดียวกันกับ Instagram 

เรียกได้ว่า สำหรับผู้ที่ใช้งาน ทวิตเตอร์ หรือ Instagram อยู่แล้ว Threads ก็เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานได้ง่ายเช่นกัน 

แน่นอนว่าในฐานะนักต่อยอดพัฒนา ซัคเกอร์เบิร์กแง้มว่า Threads จะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่สร้างประสบการณ์น่าประทับใจแก่ผู้ใช้งานเพิ่มเข้ามาแน่นอน โดยรวมถึงการขยายการใช้งานให้ครอบคลุมถึงเดสก์ท็อป การปรับปรุงการค้นหา รวมถึงแฮชแท็กตัวเลือกเพื่อให้เฉพาะคนที่คุณติดตามเท่านั้นที่สามารถตอบกระทู้ของคุณได้

ขณะที่ ฟีเจอร์ส ด้านโฆษณา ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สของ Threads ที่ได้รับการจับตามอง เพราะว่าในท้ายที่สุดแล้ว Treads ต้องหารายได้จากการโฆษณา

อย่างไรก็ตาม บรรดากูรูในวงการชี้ว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศความสำเร็จของ Threads เมื่อดูจากประวัติของซัคเกอร์เบิร์กที่ผ่านมา ที่มักมีการเปิดตัวแอปออกมาใช้งานในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะปิดตัวลงไปอย่างเงียบ เช่น กรณีของแอปส่งข้อความใน Instagram ซึ่งชื่อเดียวกันในปี 2019 และปิดตัวภายในเวลาเพียงไม่นาน 

กระนั้น อย่างน้อยที่สุด Threads แอปใหม่ของ Meta ก็น่าสร้างความปวดหัวให้กับ ทวิตเตอร์ไม่น้อย ซึ่ง Adam Mosseri หัวหน้า Instagram ก็ยอมรับว่า การทดสอบที่แท้จริงของ Threads ต่อจากนี้ไม่ได้อยู่ที่ความสามารถในการสร้างกระแสและเงินจากโฆษณาได้มากมาย แต่เป็นการพิสูจน์ว่าแอปดังกล่าวเป็นแอปที่ทุกคนพบว่ามีคุณค่ามากพอที่จะใช้ต่อไปได้เรื่อย ๆ นั่นเอง

ที่มา: ABC News, Channel News Asia, CNN, CNBC, PR Daily

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ