TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessTikTok 2024: Creative Economy ครีเอเตอร์ ขับเคลื่อนธุรกิจ

TikTok 2024: Creative Economy ครีเอเตอร์ ขับเคลื่อนธุรกิจ

TikTok ก้าวเข้าสู่ Creative Economy ในปี 2024 โดยเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างโอกาสขับเคลื่อนการสร้างคอนเทนต์และการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต

TikTok เปรียบเสมือนพื้นที่ Canvas หรือผ้าใบผืนใหญ่ที่ให้เหล่าครีเอเตอร์ได้มีการสร้างสรรค์ไอเดีย รวมถึงแสดงศักยภาพในรูปแบบที่เป็นตัวเอง เปรียบเสมือนประตูหน้าต่างที่เปิดให้ทุกคนค้นพบคอนเทนต์รูปแบบใหม่จากทั่วทุกมุมโลก เชื่อมโยงผู้คนจากหลากหลายพื้นที่ให้มาบรรจบกัน เกิดความเข้าใจรวมถึง Empathy ระหว่างผู้คน ทั้งนี้ยังเป็นแพลตฟอร์มที่พร้อมส่งมอบความบันเทิง ความสุขที่เกิดขึ้นจากกลุ่ม Content Creator หรือนักสร้างคอนเทนต์

ปัจจุบัน TikTok กำลังยกระดับเข้าไปสู่ “Creative Economy” ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่เหล่าครีเอเตอร์เป็นส่วนหนึ่งระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคช่วยสร้างสรรค์คอนเทนต์รูปแบบใหม่ ๆ ส่งผลให้ธุรกิจนั้น ๆ เติบโตไปได้

ทั้งนี้ Tik Tok ยังมีพื้นที่ด้านการสนับสนุนเหล่าครีเอเตอร์ให้สร้างคอนเทนต์ที่ดีขึ้นผ่านมุมของการให้ความรู้ เทคนิควิธีการ รวมถึงข้อมูล เพื่อพัฒนาศักยภาพ ยกตัวอย่างเช่นการให้พื้นที่ “Creator House” ได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์ อัพเดตแนวทางการทำคอนเทนต์ใหม่ที่ใส่ใจ Well Being เรียกได้ว่าเป็นโมเดลที่ได้รับการจับตามองมากในปัจจุบัน 

จับเทรนด์ TikTok 2024

ในปี 2024 นี้ สิ่งที่ยังคงเป็นที่น่าจับตามองสำหรับผู้ชม คือ คอนเทนต์ที่มอบความสนุก เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ซึ่งเป็นคอนเทนต์อันดับแรกที่คนให้ความสนใจมากที่สุด

และแน่นอนว่าคอนเทนต์ที่มีลักษณะความจริงใจหรือฟังแล้วได้แรงบันดาลใจก็ยังเป็นอีกหนึ่งประเภทที่กำลังมาแรง แม้กระทั่งสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นเหล่าครีเอเตอร์ร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลายมากขึ้นไม่เคยเห็นมาก่อน เรียกว่าครีเอเตอร์หน้าใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหมวดที่น่าจับตามองมาก ๆ

สำหรับวงการบันเทิง หนัง ซีรีย์ เพลงต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น รวมถึงเทรนด์การท่องเที่ยว เนื่องจากมีการสนับสนุนไทยแฟชั่นให้เป็นแฟชั่นมากยิ่งขึ้น คอนเทนต์ที่ให้ความรู้หรือคอนเทนต์ที่เป็นหนังสือก็จะอยู่กับเราไปอีกยาวนาน นอกจากคอนเทนต์ฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอลแล้วปีนี้จะได้พบความหลากหลายของกีฬามากยิ่งขึ้น สุดท้าย Community ของเกมมิ่งยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สิ่งที่ขับเคลื่อนของคำว่า “Creative Economy” ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์คือ TikTok จะกลายเป็น First Hub โดยเฉพาะการเริ่มต้นที่ Entertainment Hub เป็นจุดศูนย์รวมระหว่างเหล่าครีเอเตอร์ ผู้ผลิตภาพยนตร์ ผู้กำกับ สตรีมมิ่ง โรงหนังต่าง ๆ เข้ามาด้วยกันให้พบกับผู้ชมที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน

ดังนั้น Entertainment Hub ที่เปิดตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นแรงขับเคลื่อนวงการ Entertainment ให้เติบโตยิ่งขึ้น จากข้อมูลยังพบอีกว่า “เนื้อหาที่มีความยาวมากกว่า 1 นาที” จะได้รับการตอบสนองต่อผู้บริโภคมากขึ้นในปีนี้

ด้าน E-Commerce หัวใจสำหรับการขับเคลื่อนส่วนภาคธุรกิจและนักการตลาด 

Customer Insight ข้อมูลเชิงลึก แบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยลำดับแรกมุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจ เช่นอุตสาหกรรมและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมยานยนต์ การเงิน ธุรกิจค้าปลีกที่จะมุ่งโฟกัสในปีนี้ ต่อมาลำดับที่สองเรื่องของข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทศกาลต่าง ๆ ที่สำคัญสำหรับคนไทย ซึ่งสามารถสร้างโอกาสในธุรกิจให้กับนักการตลาดได้เช่น เทศกาลตรุษจีน วันวาเลนไทน์ วันสงกรานต์ & Summer ข้อมูลทั้งหมดนี้จะสามารถบ่งบอกได้ว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าอย่างไร เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

Shoppertainment “คอนเทนต์ที่สร้างความบันเทิงเชิงข้อมูลแก่ผู้บริโภคสามารถทำเกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจได้” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญ แบรนด์ควรทำความเข้าใจในคอนเทนต์ลักษณะนี้ เพราะมันจะสามารถสร้างพลังให้กับแบรนด์ได้ กล่าวคือ “การสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าระหว่างการช้อปจะมอบประสบการณ์ที่มากกว่าการขายของช่วยให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วม สัมผัส Brand Experience ผ่านมิติอื่นๆ ที่เพลิดเพลินจนอาจลืมไปด้วยซ้ำว่ากำลังถูกขายของอยู่”

ซึ่งปัจจุบันคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดของ Shoppertainment จะมีมากถึง 1.4 USD ภายในปี 2025 นอกจากนี้ ยังพบว่า 71% ของคนที่ดูคอนเทนต์บน TikTok รู้สึกถูกกระตุ้นให้ซื้อและนี่คือเหตุผลว่าทำไม Shoppertainment จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจที่ส่วนภาคธุรกิจและนักการตลาดห้ามพลาด

Creative & Game เป็นการรวบรวมอินไซด์ต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อช่วยแบรนด์และนักการตลาดเข้าใจการทำครีเอทีฟได้ดีขึ้น เช่น เว็บไซต์ที่ทุกคนสามารถเข้าไปศึกษาเกี่ยวกับ #แฮชแท็ก (Hashtag) ว่าวันนี้มี #แฮชแท็ก อะไรหรือเพลงที่นิยม ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 วัน 30 วัน และ 120 วัน สามารถเข้าไปดูได้ว่าอะไรกำลังเป็นกระแสใน TikTok เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ทางการตลาด นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือที่ช่วยให้สามารถสร้างครีเอทีฟได้แบบอัตโนมัติ โดยระบบนี้จะสามารถรวบรวมรูปภาพ วิดีโอ แคปชัน คำบรรยาย ส่งผลให้ประหยัดเวลาในการทำคอนเทนต์สั้นลงจากเดิม

TikTok Work เป็นเครื่องมือที่ใช้โปรแกรมโดยสามารถวัดผลในการโฆษณาบน TikTok ได้ว่ามีประสิทธิภาพที่ดีตามวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่แบรนด์ได้ตั้งเป้าหมายไว้

TikTok มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ 3 แนวคิด Smart Economy, Smart Environment และ Smart People

Smart Economy ผู้คนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้ใช้ TikTok เป็นจำนวนมากกว่า 325 ล้านคน รวมถึงบนแพลตฟอร์ม มีธุรกิจมากกว่า 15 ล้านธุรกิจ TikTok มุ่งมั่นตั้งใจทำงานซึ่งพาร์ทเนอร์หลักสำคัญคือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ มีการเทรนนิ่งโดยนำ SME มากกว่า 150 รายขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มเป็นการทำความรู้จักโลกของออฟไลน์มาสู่ออนลน์ เพื่อทำให้สินค้าและบริการเข้าถึงง่ายภายใต้ TikTok Shop

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทยด้วยการเทรน SME ไปกว่า 532 ราย มีคนรับชมบน TikTok มากกว่า 121 ล้านวิว และสร้างรายได้มากกว่า 8.5 ล้านบาท ซึ่งได้มีการคัดเลือกศูนย์ OTOP จาก 76 จังหวัด 5 ภูมิภาคโดยมีการสอนอย่างใกล้ชิด ประกอบด้วย เทรนการเปิดร้านค้า การสินค้า การไลฟ์สตรีม เทรนผ่านเหล่าครีเอเตอร์ และมีความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครด้านการอัพสกิลใหม่ๆ ให้กัยชุมชนชาวโบ้เบ้ เพื่อสามารถมีช่องทางในการหารายได้เพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์ม TikTok Shop 

ต่อมาในด้าน “Creator Economy” ระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยครีเอเตอร์ ณจุดนี้ทาง TikTok ต้องการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ กับ “Creative Economy ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย” โดยรวมเหล่าครีเอเตอร์มากกว่า 36% ที่สามารถสร้างรายได้บน TikTok มากกว่าค่าแรงงขั้นต่ำ ซึ่งตอบสนองกับพื้นที่ชุมชน TikTok แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสร้างขึ้นที่สยามพารากอน ชื่อ “Creator House” ก่อให้เกิดการรวมตัวกันของเหล่าครีเอเตอร์ ซึ่งโดยปกติจะเจอแค่บนช่องทางออนไลน์ TikTok จึงพื้นที่ให้แชร์ประสบการณ์โดยตรงผ่านออฟไลน์มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การจัด Collab เพื่อเป็นการสร้างรายได้เพิ่มเติมและตอบสนอง “Creative Economy ของประเทศไทย”

Smart Environment TikTok เป็นแพลตฟอร์มชั้นดีในการทำให้เกิดการรับรู้ (Awareness) จนกระทั่งกระตุ้นการตัดสินใจ (Call to Action) ซึ่งได้มีการจัดทำแคมเปญร่วมกับกรุงเทพมหานครเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนผลักดันการเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมบนแพลตฟอร์ม TikTok ผ่านการส่งเสริมให้เหล่าครีเอเตอร์สร้างสรรค์คอนเทนต์ โดยภายใน 2 เดือนมีคนสร้างวิดีโอมากกว่า 40,000 ชิ้น และมีคนดูมากกว่า 40 ล้านวิว จุดเริ่มต้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทัศนคติสอนคนให้แยกขยะร่วมลงมือทำทันที ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาสองเดือนมีขยะลดลงกว่า 100 ตัน ในหลายร้อยเท่า ซึ่งจะเป็นแคมเปญที่ทำออกมาเรื่อย ๆ

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นให้เป็นแพลตฟอร์มในการให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมกับเยาวชนโดยมีความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการเทรนนิ่งนักเรียนภายใต้ ECO SCHOOL เนื้อหาจะมีการสอนเกี่ยวกับสร้างความตระหนักรู้ ต่อสิ่งแวดล้อมและความเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ

พร้อมผลักดันแนวทางในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการ REact For Change แวดล้อม บนแพลตฟอร์ม TikTok (3 RE Challenge) ประกอบด้วย

1) Recheck คอยตรวจเช็คการใช้ชีวิตประจำวันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ

2) Refill ชวนพกภาชนะส่วนตัวมาใส่น้ำและอาหารเพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use Plastic)

3) Recycle ชวนคัดแยกขยะก่อนทิ้งเพื่อความสะดวกสำหรับการนำไปกำจัดหรือการรีไซเคิลต่อไป

Smart People แน่นอนว่า TikTok ต้องการสร้างความรู้ให้กับคนไทยเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคคล ซึ่งปลายทางจะสามารถพัฒนาศักยภาพและสามารถสร้างอาชีพได้ ยกตัวอย่างการทำคอนเทนต์อย่างไรให้ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบต่อสังคมเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม สุดท้ายในปี 2024 นี้ จะพัฒนาร่วมกับพาตเนอร์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้มระบบ Ecosystem ที่ดีต่อไป

ทั้งนี้ TikTok เป็นพื้นที่สำหรับครีเอเตอร์สู่การสร้างสรรค์เปรียบเสมือนผ้าใบผืนใหญ่และเป็นประตูให้ค้นพบคอนเทนต์ใหม่ ๆ จากทั่วโลกซึ่งสามารถเชื่อมโยงผู้คนและสร้างความเข้าใจร่วมกัน นอกจากนี้ ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ส่งมอบความบันเทิงและความสุขผ่านครีเอเตอร์ เพิ่มความสนุกและความเป็นจริงในคอนเทนต์ ในปี 2024 นี้ แน่นนอนว่าจะพบเหล่าครีเอเตอร์ที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือต่าง ๆ สำหรับแบรนด์ นักการตลาดได้มีข้อมูลเชิงลึกในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ