ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรกอาจดูไม่ค่อยดีนัก โดยจะเห็นได้ว่า Performance ของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างที่จะ Underperform เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก และมีอัพไซด์ที่ค่อนข้างจำกัดจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ส่งผลให้นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนของทิศทางตลาด เมื่อลองมองย้อนกลับไปเทียบกับปีที่แล้วพบว่ามูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ลดลงมากว่า 30% แสดงถึงสภาพคล่องในตลาดหุ้นที่ค่อนข้างเบาบางลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในทางกลับกันกลับสำรวจพบว่ามูลค่าลงทุนในตราสารหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงกลับเติบโตขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน สะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมานักลงทุนได้มีการปรับกลยุทธ์การสร้างผลตอบแทนเพื่อรับมือกับสภาวะตลาดหุ้นไทยด้วยการสร้างกระแสเงินสดผ่านหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงมากกว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์โดยตรง
Fixed Coupon Note หรือ FCN เป็นหนึ่งในหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างกระแสเงินสดระยะสั้น โดยอ้างอิงกับราคาหุ้นในตะกร้าหลักทรัพย์ (1-2 หุ้นอ้างอิงใน SET50) มีอายุประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งนักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยเป็นเงินสดทุกรอบเดือนตลอดอายุสัญญา โดยอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังของ FCN อยู่ในช่วง 8-12% ต่อปี ตามระดับความผันผวนของหุ้นอ้างอิง ทั้งนี้การจ่ายคืนเงินต้นของสัญญา FCN อาจอยู่ในรูปแบบของเงินสดหรือหุ้นอ้างอิง ขึ้นอยู่กับราคาใช้สิทธิ ราคากรอบบน หรือ “ราคา Knock out” และราคากรอบล่าง หรือ “ราคา Knock in”
โดยนักลงทุนสามารถปรับระดับความกว้างของกรอบราคาเองได้ โดยสามารถปรับกรอบล่างลงมาในระดับ 10-15% เทียบกับราคา ณ วันเข้าทำสัญญาเพื่อลดความเสี่ยงทางด้านราคา หมายความว่า ตราบใดที่ราคาหุ้นอ้างอิงไม่ลงไปต่ำกว่าระดับราคากรอบล่างตลอดอายุสัญญา นักลงทุนจะได้เงินต้นคืนในรูปแบบของเงินสดรวมกับดอกเบี้ยทุกรอบเดือนในช่วงอายุสัญญา
อย่างไรก็ตามถ้าหากราคาหุ้นอ้างอิงเคยลงไปต่ำกว่าระดับกรอบล่างแล้วไม่สามารถกลับขึ้นมาเหนือบริเวณกรอบบนได้ นักลงทุนจะได้รับคืนเงินต้นในรูปแบบของหุ้นอ้างอิงที่ราคาใช้สิทธิตามจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญา ทั้งนี้ในกรณีนี้นักลงทุนยังคงได้รับดอกเบี้ยทุกรอบเป็นเงินสด ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษและเป็นที่มาของชื่อ “Fixed Coupon Note”
จากผลตอบรับที่ดีในการสร้างดอกเบี้ยเงินสดต่อเนื่องจาก FCN ในหลากหลายสภาวะตลาด ทางหลักทรัพย์บัวหลวงจึงได้รวบรวมข้อเสนอแนะและตกผลึกความต้องการของนักลงทุน ตลอดจนได้ต่อยอดพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ของ FCN เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนสายเน้นสร้างกระแสเงินสด ด้วยการเพิ่มรอบความถี่ในการจ่ายดอกเบี้ย โดยที่ผ่านมาสัญญา FCN จะมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน แต่ฟีเจอร์ใหม่นี้จะจ่ายดอกเบี้ยทุก 2 สัปดาห์ ทำให้นักลงทุนสามารถสร้างกระแสเงินสดได้เร็วขึ้น
โดยปกติลักษณะของ FCN นั้น ในทุกรอบการจ่ายดอกเบี้ยใด ๆ จะมีการดูด้วยว่าเกิดการ Knock Out หรือไม่ โดยหากราคาปิดหุ้นอ้างอิงสูงกว่าหรือเท่ากับราคา Knock Out (KO) ณ วันสังเกตการณ์ (Observation Date) ในรอบจ่ายดอกเบี้ยใด ๆ จะเกิดเหตุการณ์ Knock Out ขึ้นซึ่งนักลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยงวดนั้นพร้อมเงินต้นคืนเต็มจำนวนโดยอัตโนมัติ สัญญาจบทันที ดังนั้น ฟีเจอร์ใหม่ด้วยการเพิ่มรอบความถี่ในการจ่ายดอกเบี้ยเป็นการจ่ายทุก 2 สัปดาห์นอกจากจะเพิ่มความถี่ของกระแสเงินสดจากดอกเบี้ย FCN แล้วยังนำมาซึ่งการเพิ่มขึ้นของโอกาสที่นักลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนได้เร็วขึ้น เนื่องจากโอกาสในเกิดการ Knock out ที่สูงขึ้นตามกลไกข้างต้น
ในเชิงโครงสร้างราคาของตลาดหุ้นไทยที่ในภาพใหญ่มีนิสัยวิ่งออกข้าง (Sideway) ซึ่งอาจทำให้การจับจังหวะลงทุนในหุ้นโดยตรงทำได้ยากขึ้น การมีเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาสร้างผลตอบแทนและสร้างกระแสเงินสดโดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดหุ้นวิ่งออกข้างอย่าง FCN จะมาเป็นทางเลือกการลงทุนที่สามารถยกระดับการบริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นจากการได้กระแสเงินสดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังมีส่วนเผื่อความปลอดภัยจากระดับกรอบล่างหรือ Knock in (KI) ที่ระดับเฉลี่ยต่ำกว่า 10-15% จากราคา ณ วันเข้าลงทุน FCN ตลอดจนนักลงทุนสามารถเลือกความถี่ของการจ่ายดอกเบี้ยได้เองไม่ว่าจะเป็นการจ่ายทุกรอบเดือนหรือทุก ๆ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ FCN เป็นตราสารที่ไม่มีการคุ้มครองเงินต้น ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจเงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถติดตามอ่านบทความอื่น ๆ ได้ ผ่าน Wealth CONNEX เมนู Knowledge แอปที่รวบรวมครบทุกความรู้การลงทุนพร้อมคำถามและคำตอบเรื่อง หุ้น อนุพันธ์ กองทุน LTF RMF DW01 และเครื่องมือด้านการลงทุนต่าง ๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม BLS Customer Service โทร. 0 2618 1111
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ไม่ขายหมู ไม่ติดดอย DW กับ TRAILING STOP ORDER
หลักทรัพย์บัวหลวง ออก DW01 ซีรีส์ W ถือข้ามเสาร์-อาทิตย์ ไม่มีค่าเสื่อมเวลา
