การเป็น Smart Hospital นั้นไม่ยาก แต่ที่ท้าทายกว่า คือ การเป็น smart hospital ที่ประชาชนจำนวนมากสามารถเข้าถึงบริการที่ชาญฉลาดของโรงพยาบาลได้ สิ่งนี้เป็นโจทย์ของโรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเอกชนน้องใหม่ที่เปิดมาเพียง 1 ปี แต่มีพันธกิจในการสร้างบริการทางการแพทย์เพื่อให้ประชาชนส่วนมากเข้าถึงได้อย่างสะดวก นำมาซึ่งความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลวิมุตและ AIS Business ในการสร้างให้โรงพยาบาลวิมุตเป็น Smart Hospital อย่างเต็มตัว
นายแพทย์สันติ เอื้อนรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมมุต กล่าวว่า โรงพยาบาลวิมุตเข้าตลาดมาทีหลัง ดังนั้นความเร็วในการเข้าถึงลูกค้า คือ ปัจจัยความสำเร็จ และเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญ โรงพยาบาลจึงทุ่มเม็ดเงินลงทุนในช่วงแรก 100 ล้านบาทสำหรับสร้างโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีรองรับการสื่อสารและการทำงานของโรงพยาบาลให้ตอบโจทย์และขานรับสู่การเป็น Smart Hospital โดยร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ AIS Business ที่เข้ามาดูแลงานด้านเทคโนโลยีการสื่อสารทั้งหมดแบบครบวงจรตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการ
“โรงพยาบาลในอนาคตจะต้องเป็น Smart Hospital โดยภาคบังคับ ซึ่งเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาลซึ่งต้องได้พันธมิตรที่ดี” นายแพทย์สันติ กล่าว
ด้วยแนวคิดที่จะไม่ได้ทำเพียงแค่โรงพยาบาล แต่จะทำเป็นแพลตฟอร์มด้านสาธารณสุข (Healthcare Platform) ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วน คือ การสื่อสารภายในโรงพยาบาล และการสื่อสารภายนอกโรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลวิมุตได้ AIS Business นำโซลูชันเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้ทั้งหมด ภายใต้แนวคิด 3 เรื่อง
เรื่องแรก คือ ลดงานประจำของโรงพยาบาลปละปรับปรุงกระบวนการทำงาน ลดการใช้กระดาษ ข้อมูลทุกอย่างจัดเก็บอยู่ในระบบอิเล็กทรอนิกส์ บุคลากรมีเวลากับคนไข้มากขึ้น
เรื่องต่อมา คือ เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับคนไข้ จากเดิมที่เวลามาติดต่อโรงพยาบาลต้องรอคิวนาน ต้องพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ต้องรอกรอกเอกสาร เปลี่ยนมาเป็นทำอยู่อย่างบนมือถือผ่านแอปพลิเคชัน ViMUT รวมถึงประวัติการรักษา ประวัติการจ่ายยา รวมถึงการเตือนให้ทานยา
เรื่องสุดท้าย คือ เพิ่มความปลอดภัยให้คนไข้ ซึ่งโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการความปลอดภัยสูงมาก อาทิ การระบุตัวคนไข้ให้ถูกต้อง เป็นต้น
“ก่อนทำโรงพยาบาล พฤกษา เรียลเอสเตท คุณทองมา วิจิตรพงษ์พันธ์ มีปณิธาน อยากให้ทุกคนมีบ้านได้ พอมาทำโรงพยาบาลก็อยากให้การรักษาสุขภาพได้รับการบริการที่ดี มีคุณภาพ เข้าถึงง่าย และราคาต้องเข้าถึงได้” นายแพทย์สันติ กล่าว
นายแพทย์สันติ กล่าวว่า โรงพยาบาลโฟกัสที่ 4A คือ
- Available โรงพยาบาลวิมุตจะต้องพร้อมให้การดูแลคนไข้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ทั้งด่วนและไม่ด่วน
- Accessible ต้องให้คนไข้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ง่าย โดยไม่ต้องมาโรงพยาบาล (ในกรณีที่ไม่ต้องมาตรวจวินิจฉัยที่โรงพยาบาล)
- Assure ต้องมีคุณภาพการบริการสาธารณสุขที่ดี
- Affordable คนไข้ต้องจ่ายได้ เป็นราคาที่มีความเหมาะสม (Appropriateness)
และย้ำว่าโรงพยาบาลต้องเข้าถึงง่าย ด้วยการนำเทคโนโลยี พา health to home ของคนไข้ ผ่าน “แอปวิมุต” (ViMUT app) ดูประวัติการรักษษเก่า ประวัติการจ่ายยา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ มีระบบนัดหมาย ระบบจ่ายเงิน และติดต่อกับโรงพยาบาลได้ตลอดเวลา ผ่านระบบ MMPC ซึ่งเอไอเอสดำเนินการให้ (แจ้งเตือนกินยา ในอนาคตมีเชื่อมกับบริษัทประกันเรื่องการเคลมค่ารักษา
เทคโนโลยีช่วย Samrt Hospital เติบโตยั่งยืน
ทั้งนี้ การเป็นโรงพยาบาลเอกชนจะต้องดำเนินธุรกิจให้อยู่ได้และเติบโตได้ โรงพยาบาลเอกชนต้องรักษาดี เป็นที่รู้จักและเป็นที่รักของผู้คน และต้องมีกำไรเพื่อจะเติบโตได้ ซึ่งเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้ทั้งต้นทุนและความพึงพอใจของลูกค้า และผลกำไรจะตามมา จะทำให้โรงพยาบาลวิมุตสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
เทคโนโลยีการสื่อสารทั้งหมดของโรงพยาบาล ทั้งระบบการสื่อสารภายในโรงพยาบาล และการสื่อสารภายนอกโรงพยาบาล AIS Business ดูแลทั้งหมด ตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารภายในโรงพยาบาลเพื่อการปฏิบัติงานของบุคลากรของโรงพยาบาลทั้งการรักษาและการสนับสนุนการรักษา อาทิ การจัดทำเอกสารในรูปดิจิทัล การเชื่อมโยงข้อมูล การตรวจสอบข้อมูล ทั้งการให้ยา การระบุตัวตนคนไข้ ทำให้กระบวนการทำงานลีนมากและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นต้น
รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับระบบสื่อสารภายนอกโรงพยาบาล อาทิ การสื่อสารผ่านแอปพลิเคชัน (ตั้งแต่การลงทะเบียนคนไข้ การทำนัดหมาย รวมถึงการจ่ายเงิน ไปจนถึงประวิตการรักษา และการทำเทเลเมดดิซีน) ผ่านช่องทางออนไลน์ และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ภายใต้การสื่อสารแบบ Omnichannel เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้บริการของโรงพบาลแบบไร้รอยต่อ
นอกจากนี้ เอไอเอสยังเป็นพันธมิตรกับโรงงพยาบาลในเรื่องฐานข้อมูลเพื่อการทำ Omnichannel คนไข้จะเข้ามา รพ.ช่องทางไหน รพ.รู้และต่อเนื่องต่อเชื่อมได้ (เหมือนที่เอไอเอสทำกับบริการ call center ของเอไอเอส)
สำหรับการทำ telemedicine การปรึกษาแพทย์ (พบแพทย์) ออนไลน์ จะนัดหมายล่วงหน้าหรือจะใช้บริการทันทีได้ คนไข้เข้าระบบผ่านแอปฯ ข้อมูลที่แพทย์คุยกับคนไข้จะถูกบันทึกลงในระบบ HIS ของรพ. หากเป็นคนไข้แรก อาจจะนัดหมายเข้าไปทำการตรวจวินิจฉัยที่รพ. หากเป็นการนัดพบหมอล่วงหน้า และมีการจ่ายยาจะส่งยาไปที่บ้าน และจ่ายเงินผ่านแอปได้
“เริ่มให้บริการมา 1 ปี ระบบปรึษาออนไลน์ คนไข้ชอบมาก เมื่อใช้ในการติดตามผลการรักษา (เป็นสัดส่วนการใช้งานที่ค่อนข้างมาก) อาทิ การตรวจดูแผลผ่าตัดออนไลน์ เอไอเอส ร่วมพัฒนากับโรงพยาบาล ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ก้าวแรกที่ผู้ป่วยเข้ามาในรพ. จนถึงการจ่ายเงิน แม้กระทั่งการบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ผ่านแอป VSA” นายแพทย์สันติ กล่าว
โรงพยาบาลวิมุตมีการลงทุนเทคโนโลยีประมาณ 100 ล้านบาท การวางรากฐานที่ดี คือ รากแก้วขององค์กรเกิดใหม่ การวางรากแก้วที่ถูกต้อง การทำโรงพยาบาลไม่ใช่สิ่งเดียวของโรงพยาบาลวิมุต ไม่ใช่แค่โรงพยาบาลแต่เป็นแพลตฟอร์มอะไรบางอย่างที่มากกว่าโรงพยาบาล แต่ 6 ปีแรกจะเน้นธุรกิจโรงพยาบาลก่อน
ตามแผนงาน โรงพยาบาลจะเปิดให้บริการในช่วงแรก 100 เตียง (จากจำนวนเตียงทั้งหมด 236 เตียง) แต่ทว่าช่วงโควิดที่ผ่านมาจำนวนคนไข้ในที่นับรวมคนไข้ที่พักที่ Hospitel และ Home Isolation ที่โรงพยาบาลดูแลรวมเกือบ 1,000 เตียง ซึ่งอาศัยกำลังบุคลากรของโรงพยาบาลไม่ได้ ต้องได้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย รวมถึงการทำ telemedicine ที่ต้องดูแลคนไข้และเก็บข้อมูลประวัติการรักษาผ่านระบบทั้งหมด
“การรักษาเสมือนเป็นหนึ่งในครอบครัว เข้าถึงง่าย สร้างประสบการณ์ยิ่งใหญ่ คือ การผนวกรวมประสบการณ์แบบ physical และ digital เข้าด้วยกัน และนำระบบเข้าถึงชุมชน” นายแพทย์สันติ กล่าว
อุตสาหกรรม Healthcare โอกาสที่ไม่สิ้นสุด
ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ของเอไอเอส คือ การเป็นพันธมิตรให้กับองค์กรในประเทศไทยในทุกอุตสาหกรรมในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนั้น เอไอเอสมองตัวเองเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีแบบ end-to-end
Healthcare เป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญที่จะสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทย โจทย์ของเอไอเอส คือ จะทำอย่างไรให้ โรงพยาบาลวิมุต แตกต่าง และเติบโต แม้จะเป็นโรงพยาบาลน้องใหม่
เริ่มจากการเข้าใจปัญหาว่ารพ.วิมุตต้องการอะไร ซึ่งแบ่งออกมาได้เป็น สามส่วน คือ การให้บริหารด้านเทคโนโลยี โดยไปโฟกัสที่การรักษาพยาบาล ซึ่งเอไอเอสให้บริการ Managed Services IT ด้วยโจทย์ที่รพ.วิมุตต้องการให้บริการทางการแพทย์เช้าถึงชุมชน เอไอเอสให้บริการแอปพลิเคชันให้รพ.วิมุตเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนไข้ของรพ.สามารถใช้บริการได้อย่างสะดวก และการให้บริการจองวัคซีนโควิด-19 ผ่านการพัฒนาแพลตฟอร์มที่เอไอเอสพัฒนาให้
การทำงานร่วมกับโรงพยาบาลวิมุตสู่การเป็น Smart Hospital AIS Business ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลจาก AIS 5G ทั้งบริการโซลูชันแบบครบวงจร งานบริหารจัดการระบบ ICT การจัดการข้อมูลและศูนย์ Data Center การสื่อสารเชื่อมต่อการทำงานด้วย Cloud Contact Center รวมถึงบริการดิจิทัลที่มาช่วยอำนวยความสะดวก และเสริมประสบการณ์ในการใช้บริการรักษาพยาบาลของคนไข้ อาทิ แอปพลิเคชัน บริการ telemedicine
ระบบที่ AIS Business และพันธมิตรร่วมกันพัฒนา ติดตั้ง และดูแลให้โรงพยาบาลวิมุต คือ
- Turnkey IT Solutions ที่ AIS ใช้ศักยภาพด้านโครงข่ายและผสานความสามารถร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่หลากหลายเข้าไปให้บริการได้แบบครบวงจร ทั้งการวางระบบงานด้าน ICT การจัดการฐานข้อมูลหรือ Data Center ระบบสื่อสารและอุปกรณ์ไอที telemedicine
- Managed IT Services เป็นการให้บริการอย่างครบวงจรด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปสนับสนุน พร้อมให้คำแนะนำช่วยเหลือ และดูแลระบบการใช้งานตลอดเวลา
- Digital Service คือ การออกแบบแอปพลิเคชันสำหรับโรงพยาบาลวิมุต รวมถึงระบบเพื่อให้บริการวัคซีน และบริการที่ช่วยยกระดับการทำงานทางการแพทย์ อย่างระบบ Telemedicine เพื่อให้คนไข้หรือผู้รับบริการได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการรักษา
- Cloud Contact Center เป็นระบบการสื่อสารภายในที่ช่วยเชื่อมต่อการทำงานของส่วนต่าง ๆ ทั้งในแง่ของการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและง่ายต่อการบริหารจัดการ
“ในอุตสาหกรรม Healthcare ยังมี unknown – unknown opportunity อีกเยอะมาก เอไอเอสเปลี่ยนจากการขายเป็นระบบเป็นการนำเทคโนโลยีมาสร้างการใช้งาน เพื่อนำศักยภาพของ AIS Business และพันธมิตรมาช่วยทรานส์ฟอร์มให้โรงพยาบาลเป็น Smart Hospital ยกระดับศักยภาพในการรักษาของโรงพยาบาล” ธนพงษ์ กล่าว
การทำงานระหว่างรพ.วิมุตและเอไอเอส ใช้เวลาสั้นมาก รพ.วิมุตเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 กระบวนการให้บริการต่าง ๆ เร็วมาก เป็นไปตามแผน AIS Business ให้บริการครบวงจรทั้งหมดของรพ.วิมุต
“เราต้องการขับเคลื่อน digital economy ในประเทศไทย ด้วยการนำเทคโนโลยีมาช่วยพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งเอไอเอสมีการลงทุนทั้งในเรื่องเทคโนโลยีและบุคลากร เอไอเอสเราไม่ได้เก่งคนเดียว เรามีพันธมิตรเข้าให้บริการร่วมกัน” ธนพงษ์ กล่าว
นายแพทย์สันติ กล่าวย้ำว่า เข้าถึงง่ายไม่แพง โรงพยาบาลรักษาผู้คน ไม่ได้รักษาโรค การวินิจฉัยครั้งแรกได้ถูกต้อง เน้นเรื่องการ proacive care แบรนด์ DNA ระหว่างวิมุตกับพฤกษา คือ ราคาที่เข้าถึงได้ การให้บริการทางการแพทย์เป็นการช่วยคนให้หลุดจากความทุกข์ ความเจ็บป่วย ที่เรียกว่า “วิมุต” เป็นที่มาของชื่อโรงพยาบาล หากปราศจากเทคโนโลยีและพันธมิตรอย่าง AIS Business คงไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์และปณิธานที่วางไว้ได้ …..
ความร่วมมือระหว่าง AIS Business และโรงพยาบาลวิมุต เป็นมากกว่าลูกค้าและผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี แต่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมกันทำงานและใช้จุดแข็งของกันและกันในการส่งมอบคุณค่าการรักษาพยาบาลที่ดีมีคุณภาพในราคาที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เข้าถึงได้ตลอดเวลา เข้าถึงอย่างปลอดภัยและได้รับประสบการณ์ใช้บริการที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีเทคโนโลยีที่เป็นตัวช่วยสำคัญ
บทความอื่น ๆ เกี่ยวกับเอไอเอสที่น่าสนใจ
AIS Business กางแผน 2022 เชื่อม 5G ต่อยอด Digital Business Ecosystem ติดสปีดเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทย
จากความเชื่อและการลงมือทำ การันตีผลงานเชิงประจักษ์ด้วยรางวัล “สุดยอดองค์กรด้านนวัตกรรม” ของ AIS