TH | EN
TH | EN
หน้าแรกStartupVertex Ventures ปิดการระดมทุน กองทุนที่ 5 สำเร็จที่มูลค่า 541 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Vertex Ventures ปิดการระดมทุน กองทุนที่ 5 สำเร็จที่มูลค่า 541 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Vertex Ventures Southeast Asia and India ประกาศเสร็จสิ้นการระดมทุนสำหรับกองทุนใหม่ล่าสุด กองทุนที่ 5 ด้วยมูลค่า 541 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยกองทุนที่ 5 ของ VVSEAI มีขนาดเพิ่มขึ้น 80% จากกองทุนที่ 4 ที่ปิดการระดมทุนไปก่อนหน้านี้ในปี 2563

การระดมทุนใหม่สำหรับกองทุนที่ 5 ของ Vertex Ventures Southeast Asia & India เกิดขึ้นจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีจากบริษัทซึ่งกองทุนได้เข้าไปลงทุน เช่น Grab, FirstCry, XPressBees, Recko เป็นต้น

กองทุน VVSEAI กองที่ 5 ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุน (limited partners) ทั้งรายเก่าซึ่งลงทุนในกองทุนก่อนหน้า และรายใหม่ ไม่ว่าจะเป็น กองทุนความมั่งคั่งรัฐบาล (sovereign wealth funds) สถาบันการเงิน (financial institutions) องค์กรเอกชน (corporates) ไปจนถึงสำนักงานครอบครัว (family offices) ทั้งจากเอเชียและยุโรป กองทุนนี้ยังได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนใหม่หลายราย รวมทั้ง Japan Investment Corp (JIC), International Finance Corporation (IFC) และ DEG (German Development Finance Institution)   

Ben Mathias, Managing Partner จาก Vertex Ventures SEA & India กล่าวว่า “กองทุนที่ผ่านมาของเราได้สร้างผลตอบแทนแก่นักลงทุนอยู่ในระดับที่น่าพอใจและสูงกว่าเกณฑ์ในตลาด ประวัติผลประกอบการที่ดีนี้ทำให้นักลงทุนจากกองทุนที่ 4 ส่วนใหญ่ยังคงลงทุนกับเราในกองที่ 5”

Chua Joo Hock, Managing Partner จาก Vertex Ventures SEA & India กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามั่นใจในโอกาสของการลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคนี้ เนื่องจากเห็นระบบนิเวศนี้กำลังเติบโตและมีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยเราเป็นนักลงทุนสถาบันที่ลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพในระยะแรกเริ่มที่ประสบความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย ปรัชญาในลงทุนของเรา คือการคัดสรรและมีความรอบคอบในการประเมิน เราไม่เชื่อในการเป็นนักลงทุนที่เน้นการลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพเป็นจำนวนมาก แต่เชื่อในการเป็นเพื่อนคู่คิดอย่างใกล้ชิดกับผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ตอัพ และสนับสนุนพวกเขาตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นช่วงขาขึ้นหรือขาลง แนวทางการทำงานนี้ช่วยทำให้เราสามารถสร้างยูนิคอร์น หรือบริษัทซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้หลายบริษัท เช่น Grab, PatSnap, Nium, FirstCry, XpressBees และ Licious”

William Sonneborn, Global Director of Disruptive Technologies, Creative Industries and Funds at IFC ซึ่งเป็นสมาชิกของ World Bank กล่าวว่า “IFC เป็นผู้ลงทุนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในการร่วมลงทุน โดยเราร่วมมือกับกองทุนเพื่อช่วยให้เราเข้าถึงโอกาสในการลงทุนโดยตรง ในบริษัทที่สามารถสร้างผลกระทบต่อการพัฒนาเชิงบวกมากที่สุด เราเป็นสถาบันการพัฒนาระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชนในตลาดเกิดใหม่ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Vertex Ventures SEA & India เพื่อช่วยขยายขนาดธุรกิจเชิงนวัตกรรมและดึงดูดผู้บริโภคทางออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลายประเทศเป็นหนึ่งในประเทศที่ขาดโอกาสมากที่สุดจากการร่วมลงทุนระดับโลก”

กองทุนที่ 5 ของ Vertex Ventures Southeast Asia & India มีการกำหนดเงินลงทุนจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพที่ก่อตั้งโดยผู้หญิง ทั้งนี้ มากกว่า 35% ของบริษัทสตาร์ตอัพใน VVSEAI Fund กองที่ 4 มีผู้ก่อตั้งเป็นผู้หญิงอย่างน้อยหนึ่งคน ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อส่งเสริมความตั้งใจของกองทุนในการสนับสนุนผู้ประกอบการที่เป็นผู้หญิงให้มากขึ้น

Rohit Sipahimalani, CIO of Temasek and Board Member of Vertex Holdings กล่าวว่า “เราพอใจกับความก้าวหน้าของ Vertex Ventures SEA & India โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนสตาร์ตอัพร่วมกับผู้ก่อตั้งบริษัทที่เป็นผู้หญิง ขณะที่เรามุ่งเน้นไปที่การลงทุนกับบริษัทที่เป็นเจ้าตลาดระดับภูมิภาค เงินลงทุนส่วนนี้จะมีส่วนช่วยให้เราสามารถยืนยันความมุ่งมั่นของเราต่อความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก”

Joseph Phua, Chairman of 17LIVE Group กล่าวว่า “Vertex Ventures SEA & India มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของบริษัทของเราในช่วงสิบปีที่ผ่านมาอย่างมาก และให้การสนับสนุนบริษัทในฐานะนักลงทุนและพาร์ตเนอร์ พวกเขาเป็นบริษัทหนึ่งในไม่กี่กองทุนที่สามารถสนับสนุนสตาร์ตอัพตั้งแต่ระยะแรกเริ่มจน ถึงการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ไม่ว่าจะเป็นช่วงตลาดขาขึ้นหรือขาลง”

กลุ่มบริษัทที่ Vertex Ventures SEA & India ได้ลงทุนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ Nium (แพลตฟอร์มการโอนเงินระหว่างประเทศ), Licious (แบรนด์สินค้าโปรตีนที่จำหน่ายทางช่องทางออนไลน์เป็นหลัก), KukuFM (แพลตฟอร์มพอดคาสต์ในภาษาท้องถิ่น), PatSnap (ฐานข้อมูลสิทธิบัตรและนวัตกรรมทั่วโลก), Sunday (ผลิตภัณฑ์ประกันออนไลน์), 17LIVE (แพลตฟอร์มความบันเทิงและสื่อสังคม), Kissht (ผลิตภัณฑ์เงินกู้ออนไลน์ในอินเดีย), Ace Turtle (แพลตฟอร์มเทคโนโลยีเพื่อการค้าปลีกหลายช่องทางสำหรับแบรนด์ต่างๆ), TipTip (แพลตฟอร์มการสร้างรายได้สำหรับครีเอเตอร์ในอินโดนีเซีย) และ Ayu Health (เครือข่ายบูรณาการของโรงพยาบาลสำหรับอินเดีย)

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

กทม. จัดกิจกรรม HACK BKK 2023 เปิดรับไอเดียพัฒนา ฟีเจอร์ใหม่ ยกระดับให้ Traffy Fondue

ชวนรู้จัก “Pet Tech” 3 นวัตกรรมเพื่อสัตว์เลี้ยง

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ