TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyยิบอินซอย ปรับสู่ความยั่งยืน นำพลังอายุ 98 ปี พุ่งไปข้างหน้า

ยิบอินซอย ปรับสู่ความยั่งยืน นำพลังอายุ 98 ปี พุ่งไปข้างหน้า

ยิบอินซอย ปรับโครงสร้างหน่วยธุรกิจรับการเปลี่ยนแปลงตลาดยุคใหม่ที่ซับซ้อน ลูกค้าต้องการผลลัพธ์เชิงธุรกิจโดยมีเทคโนโลยีเป็นปัจจัยหนุน พร้อมผนึกพันธมิตรรายเล็กที่มีเทคโนโลยีเฉพาะทาง นำบริษัทก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

สุภัค ลายเลิศ กรรมการอำนวยการ และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด เล่าว่า ปัจจุบัน การทำธุรกิจยากขึ้น เพราะความซับซ้อนของธุรกิจไอที ความหลากหลายที่มากขึ้น ตัวเลือกเพิ่มขึ้น ทำให้การวางแผนธุรกิจทำได้ยากกว่าเดิม เช่น On Premise หรือ Cloud, OpenSource หรือ Commercial ทำให้การวางแผนทรัพยากรทำได้ยาก และแนวโน้มธุรกิจเปลี่ยนไปในทางที่คาดเดาได้ยากมากขึ้น เช่นการเปลี่ยนไปคลาวด์ทำให้ต้องเปลี่ยนการบริหารจัดการหลังบ้านเพิ่มขึ้นอีกมาก การสื่อสารของฝ่ายขายก็ต้องเปลี่ยนใหม่หมด จากเดิมขายสินค้ายี่ห้อต่างๆ ยังคาดการณ์การเติบโตของแต่ละยี่ห้อได้ และอนาคตยังจะมีสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาอีก ยิ่งยาก แต่ต้องปรับตัวให้ไว สู้ให้ได้

“บริษัทอย่างเราถ้าปรับตัวช้าก็สู้เขาไม่ได้ แต่ก่อนบริษัทเราใหญ่ มีคู่แข่งใหญ่ ๆ 3 ราย เวลาเข้าประมูลบริษัทใหญ่มีแนวโน้มชนะสูง แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิม การจัดส่งเทคโนโลยีไม่ได้ใช้เงินจำนวนมาก ๆ 60-70 ล้านบาทซื้อฮาร์ดแวร์มาก็ตัดคู่แข่งที่เงินทุนน้อยได้เหมือนเดิม แต่ทุกวันนี้โลกเปิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้จุดแข็งด้านการเงินเท่านั้น บริษัทใหญ่ต้องสร้างมูลค่าของบริษัทให้ชัด สามารถดูแลลูกค้าได้ครบวงจร นอกจากทำตัวเหมือนผู้รับเหมา ยังต้องมุ่งมั่นในธุรกิจของลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนทางธุรกิจตามที่ต้องการ ความรู้ที่มีต้องมากกว่าเดิม ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าให้ได้”

ออราเคิล เปิด 6 คำทำนายธุรกิจคลาวด์เมื่อโลกก้าวสู่ยุคไอทีเต็มรูปแบบ

เดอะมอลล์ กรุ๊ป จับมือไมโครซอฟท์ นำคลาวด์ต่อยอดธุรกิจทำ Seamless O2O

ปรับโครงสร้างหน่วยธุรกิจ

ในบริษัทปรับโครงสร้างหน่วยธุรกิจ “ซอฟต์แวร์ บิสิเนส โซลูชั่นส์” ขึ้น มีรองประธานคนใหม่ดูแล ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา โดยปรับเปลี่ยนทีมงานให้ทำหน้าที่ให้คำแนะนำลูกค้าได้มากขึ้น จากการรับโจทย์ธุรกิจของลูกค้ามาแตกงานออกไป ผลลัพธ์จะไม่ใช่ด้านเทคนิคัล แต่เป็นผลตอบแทนของลูกค้า

ยิบอินซอยปีนี้ ตั้งเป้าไว้มากจาก 1. ซิเคียวริตี้ที่เริ่มตั้งตัวได้แล้ว จากเดิมการเติบโตไม่บาลานซ์เพราะขายเซิร์ฟเวอร์มาก ส่วนเน็ตเวิร์ค และซิเคียวริตี้ มียอดขายจำนวนน้อย แต่ปัจจุบันได้ตั้งทีมเน็ตเวิร์ค ซิเคียวริตี้ขึ้น 

“แม้เริ่มแตกทีมช้ากว่าคนอื่นพอสมควร ต้องเตรียมพาร์ตเนอร์ หาคน แต่ปีนี้จะเริ่มเห็นยอดขายเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น การเติบโตจะเห็นเป็นจริงเป็นจังขึ้น และสร้างรายได้สูงขึ้นมาก”

2. ซอฟต์แวร์บิสิเนส โซลูชั่นส์ มีรายได้โปรเฟสชันนอล เซอร์วิสมากขึ้น ปีนี้แทบไม่มีรายได้จากการขายไลเซน หรือการขายของเลย เป็นการขายโนว์เลจ จะเห็นชัดเจนขึ้น และปรับปรุงส่วนต่างกำไรสุดท้ายได้ดีขึ้น

3. ภาคราชการ จะกลับมาบุกมากขึ้น จากที่ผ่านมาช่วงหนึ่งอาจโฟกัสเพียงลูกค้าเดิมที่มีอยู่ แต่ปีนี้จะเริ่มเปิดตลาดมากขึ้น อาจเห็นการร่วมมือกับกระทรวง ทบวงกรมใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งการต่อยอดโครงการเก่า ๆ ที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ เช่น กรมศุลกากร กรมบัญชีกลาง

ร่วมมือพันธมิตรเฉพาะทาง

ปีที่แล้ว ยิบอินซอยส่งงานเกี่ยวกับดาต้าออกไปให้บริษัทขนาดเล็กที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากขึ้น

“เพราะบางสายงานเฉพาะจริง ๆ คนรุ่นใหม่ไม่ได้อยากจะเข้ามาอยู่ด้วยกับบริษัทใหญ่ๆ อยากอยู่แบบเล็ก ๆ เฉพาะในกลุ่มของพวกเดียวกัน ตั้งบริษัทละ 8-10 คน อาจเป็นกลุ่มเรียนมาด้วยกัน แล้วฟอร์มบริษัทขึ้นเพื่อโฟกัสอย่างเดียว หรือบริษัทขนาดเล็กบางแห่งจะไม่พึ่งพาเอสไอ จะสั่งซื้อฮาร์ดแวร์ออนไลน์มาใช้ บางแห่งยิงขึ้นคลาวด์”

อย่างไรก็ตาม เอสไอใหญ่ ๆ ยังอยู่ได้ ธุรกิจยังเติบโต แต่ไม่หวือหวาเป็นหลายสิบเปอร์เซนต์เหมือนเดิม อาจอยู่ 10-15% บนฐานที่มีลูกค้านิ่งแล้ว

ส่วนโครงการขนาดใหญ่จริง ๆ เช่น การทำระบบเงินกู้ จะอยู่บนพื้นฐานทางธุรกิจ (Business Based) ไม่ใช่ฐานด้านเทคนิคัล บริษัทเอสไอยุคปัจจุบันต้องเข้าไปบริหารจัดการแต่ละส่วนให้สำเร็จเป็นผลทางธุรกิจที่ลูกค้าต้องการ

ยกตัวอย่าง ยิบอินซอยทำคอร์แบงก์ ซึ่งมีองค์ประกอบหลายเรื่อง เช่น เอพีไอ เกตเวย์ และอื่น ๆ ต้องทำให้ครบวงจรทั้งโครงการ ลูกค้ายุคนี้ไม่ค่อยมีประเภทซื้อเฉพาะฮาร์ดแวร์เหมือนเดิมแล้ว แม้เริ่มมีผู้กลับมาซื้อเครื่องหลังจากต้องเผชิญปัญหาการจ่ายรายเดือนแก่ระบบสมาชิก ทำให้ค่าใช้จ่ายไม่นิ่ง กรณีนี้คาดว่าในที่สุดจะหาจุดลงตัวได้เอง แตกต่างกันในแต่ละธุรกิจ

มุ่งสู่ความยั่งยืน

ปีนี้ รายได้กลุ่มไอทีจะอยู่ที่ประมาณหลักหลายพันล้านบาท ซึ่งการเติบโตของบริษัทเริ่มเห็นความยั่งยืนของธุรกิจมากขึ้น อายุบริษัท 98 ปีแต่ยังไม่แก่

“จากเดิมยังมีจุดแข็งที่บริษัทอยู่มายาวนาน แต่เวลาผ่านไปบริษัทอื่นๆ ก็อยู่มา 30 ปีแล้ว ถือว่าผ่านการพิสูจน์มาระดับหนึ่ง เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้วถือว่าอายุไม่ต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัดเช่นอดีตบริษัทอายุ 60 คู่แข่งเพิ่งเกิด 1 ปี”

ดังนั้น บริษัทต้องหันมาสู่ความกระฉับกระเฉงที่มี อายุมากพิสูจน์ความนิ่งได้ ยังเกาะกลุ่มผู้นำธุรกิจที่นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาให้แก่คนไทยโดยตลอดทุกภาคส่วน เพราะเข้าไปมีส่วนร่วมกับทั้งภาคธุรกิจ และหน่วยงานรัฐ

เรดดี้แพลนเน็ต ตำนาน ‘เว็บสำเร็จรูป’ 22 ปี แห่งความท้าทาย สู่เส้นทางโตยั่งยืน

‘ปิยธิดา ตันตระกูล’ ขายไอที ซีเคียวริตี้ ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ให้ลูกค้าเชื่อใจ

เปิดวิสัยทัศน์ผู้นำ 2 รุ่น “กลุ่มบ้านปู” ในวันที่ต้องเปลี่ยนผ่านธุรกิจพลังงานสู่อนาคต

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ