TH | EN
TH | EN
หน้าแรกLifeWomen Well Being กับ Apple Watch เสริมสร้างสุขภาวะสตรีด้วยเทคโนโลยีสุขภาพ

Women Well Being กับ Apple Watch เสริมสร้างสุขภาวะสตรีด้วยเทคโนโลยีสุขภาพ

การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและ ‘หาทางออก’ ให้กับประเด็นสุขภาพในปัจจุบัน เน้นการเสริมสร้างสุขภาพมากกว่าการซ่อม โดยเฉพาะประเด็นหลักประกันทางสุขภาพของผู้หญิง ที่ต้องการตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ ไปพร้อมกับการสร้างสมดุลและความเสมอภาคทางเพศในระบบสุขภาพ โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเสริมสร้างสุขภาวะสตรี เพื่อบรรลุความเสมอภาคระหว่างเพศและให้อำนาจเสริมพลังผู้หญิงและเด็กหญิงทุกคน เข้าถึงสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ จนทำให้เกิดเทรนด์สตาร์ตอัพที่เรียกว่า ‘Femtech

นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์ คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาวิชาการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์และประชากร คณะกรรมการพัฒนาการเจริญพันธุ์แห่งชาติ,  หัวหน้ากลุ่มอนามัยแม่และเด็ก สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย และ เจ้าของเพจ การแพทย์แปดนาที (เปลี่ยนชื่อเพจจากเดิม “เค้าเรียกผมว่า หมอเมนส์”)  อธิบายถึงงานด้านการส่งเสริมสุขภาพสตรี ที่กรมอนามัยทำอยู่ว่า มีอยู่  6 ด้านด้วยกัน คือ อาหารการกิน, การออกกำลังกาย, การนอน, สุขภาวะทางสังคม, การงดใช้สารกระตุ้น ลดการกินเหล้า สูบบุหรี่ และสุดท้ายคือ การจัดการความเครียด โดยสามารถแบ่งเป็น 3 หมวดหลักๆ คือ สุขภาวะทางกาย สุขภาวะทางใจ และสุขภาวะทางสังคม (Physical, Mental and Social Well Being)

สุขภาพผู้หญิงจากรอบเดือน

ประจำเดือน : ดัชนีชี้วัดสุขภาวะสตรีตั้งแต่วัยแรกสาวจนเข้าสู่วัยทอง

นพ.โอฬาริก ชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่ผู้หญิงเกิดมา โตขึ้น จนเริ่มเป็นสาวก็นับเริ่มจากการมีประจำเดือน ซึ่งหมายถึงว่า เริ่มมีลูกได้ ไปจนถึงวัยทอง บางคนอาจประสบภาวะมีบุตรยาก ประสบภาวะความปกติของประจำเดือน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาวะของสตรี ประจำเดือนของผู้หญิงจึงเป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญของสุขภาพผู้หญิง มีความเครียด อ้วนเกิน นอนไม่ดี ก็ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ภาวะประจำเดือนไม่ได้มีปัญหาแต่กับผู้หญิง แต่ส่งผลกับผู้ชายที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้หญิง ซึ่งต้องอาศัยความพยายามในการทำความเข้าใจในภาวะการมีประจำเดือนของผู้หญิงเช่นกัน

การติดตามประจำเดือน หรือ Menstrual Tracking มีความสำคัญอย่างยิ่ง การนับแต้มประจำเดือนจะมีวิธีการนับตามมาตรฐานเรียกว่า Pictorial Blood Loss Assessment Chart หรือ PBAC โดยการนับผ้าอนามัยที่ใช้ ใน 1 แผ่น ถ้าเต็มแผ่นให้กี่แต้ม ครึ่งแผ่นกี่แต้ม ถ้าใช้สอดติดแค่ปลายกี่แต้ม เต็มทั้งอันกี่แต้ม  หรือหากเข้าห้องน้ำ แล้วหล่นร่วงลงไป ขนาดเท่าเหรียบบาท เหรียญสิบ ก็นับเป็นแต้มได้หมด ถ้าเกินร้อยแต้มถือว่ามาเยอะผิดปกติ แต่สตรีส่วนใหญ่มักมองข้ามข้อมูลเกี่ยวกับรอบเดือนของตนเอง 

“ดูยังไงว่าประจำเดือนมาเป็นปกติ หนึ่ง รอบเดือน ประมาณ 24-38 วัน สอง แต่ละรอบไม่ควรมาเกิน 8 วัน สาม ไม่ควรมีกระปริบกระปรอยระหว่างรอบ สี่ ไม่ควรมาเป็นก้อน ถ้ามีอาการผิดปกติเกิดจากอะไร ต้องมาพบแพทย์ ทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และสอบถามข้อมูลสำคัญ คือ ประจำเดือนรอบสุดท้ายมาเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็นกรณีประจำเดือนผิดปกติ รวมถึงประวัติคนท้อง เมนส์มาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เป็นวันที่ใช้กำหนดเส้นชัยว่าเด็กจะคลอดวันไหน หรือการรักษาภาวะการมีบุตรยาก ประจำเดือนก็เป็นสิ่งสำคัญ” นพ.โอฬาริก กล่าว

จากการใช้ปฏิทินในการจดบันทึกในสมัยก่อน ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาวะสตรีอย่างมาก มีแอปพลิเคชันเกี่ยวกับสุขภาวะของผู้หญิงที่พัฒนาขึ้นโดย Fem Tech Startup เกิดขึ้นมากมาย เฉพาะแค่เรื่องประจำเดือนก็มีเป็นจำนวนมาก และมีแอปสำหรับสตรีมีครรภ์ ส่วนเรื่องภาวะการหมดประจำเดือน หรือกลุ่มคนมีบุตรยาก ยังมีน้อย 

ออร์กานอน เปิดตัวบริษัทในไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อสุขภาพผู้หญิง

การติดตามรอบเดือนบน iPhone และ Apple Watch

การติดตามรอบเดือนสามารถทำได้ด้วย แอป Health บน iPhone หรือแอปติดตามรอบเดือนบน Apple Watch ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามรอบเดือนของตัวเองพร้อมด้วยรายละเอียดอย่างเช่น อาการและผลทดสอบช่วงไข่ตก การติดตามรอบเดือนใช้ข้อมูลซึ่งผู้ใช้งานบันทึกเอาไว้ในช่วงการมีรอบเดือนก่อนหน้านี้ และระยะเวลาของรอบเดือน รวมทั้งข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจจาก Apple Watch ในการคาดคะเนรอบเดือนและช่วงเวลาไข่สุก ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเปิดการแจ้งเตือนเพื่อบอกให้รู้เมื่อใกล้จะถึงเวลารอบเดือน หรือช่วงไข่สุกครั้งถัดไป

การติดตามรอบเดือนสามารถดูประวัติย้อนหลังได้ถึง 6 เดือน แสดงให้เห็นถึงรูปแบบของรอบเดือนที่มาไม่ปกติ รอบเดือนที่มาน้อยกว่าปกติ มามากกว่าปกติ หรือมีเลือดออกกระปริบกระปรอย ซึ่งอาจเป็นรูปแบบที่บ่งบอกสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ รวมถึงการตรวจสอบความคลาดเคลื่อนของรอบเดือน และส่งออกประวัติการมีรอบเดือนในช่วง 12 เดือนที่แล้วของตนเองเป็นเอกสาร PDF ทั้งนี้ ทาง Apple เน้นย้ำเรื่องความเป็นส่วนตัว ข้อมูลทั้งหมดจะประมวลผลในอุปกรณ์ คนอื่นไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเจ้าของข้อมูลสามารถแชร์ต่อให้กับคุณหมอได้ เพื่อใช้ประกอบการวินิจฉัยให้แม่นยำขึ้น

Mali Application เป็นคุณแม่ในเวอร์ชันที่ดีที่สุดกับ 1000 วันแรกในชีวิตลูกน้อย

โจนัส โคบลิน ได้ก่อตั้ง Mali แอปคู่ใจสำหรับแม่มือใหม่ & การตั้งครรภ์ ในขณะที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์ และมีปัญหาในการค้นหาข้อมูลที่น่าเชื่อถือผ่านอินเตอร์เน็ต  Mali จึงถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มคุณพ่อคุณแม่ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยมีเป้าหมายคือการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ ที่เชื่อถือได้ ผ่านการตรวจสอบและยืนยันทางการแพทย์ อ่านสนุก เข้าใจง่าย เพื่อการเติมเต็มชีวิตประจำวันของคุณแม่และลูกน้อยได้อย่างมีคุณค่าที่สุด โดยเชื่อว่าช่วงเวลา 1,000 วันแรกในชีวิตของลูกนั้นสำคัญที่สุด

“วันแรกที่ลูกเกิดมาในครรภ์ นั่นคือวันที่ความเป็นแม่ได้ถือกำเนิดขึ้นด้วย แม่แต่ละท่านก็พบประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป เป็นทั้งประสบการณ์ที่สวยงาม แต่สำหรับผู้หญิงหลายคน ก็เป็นประสบการณ์ที่ยากลำบากมากเช่นกัน หลายคนอาจจะผ่านมาแล้วกับอาการร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล” โจนัส กล่าว

Mali จึงพยายามที่จะอยู่เคียงข้างแม่มือใหม่ทุกท่าน และเชื่อมต่อระหว่างแม่ด้วยกัน และแม่กับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ร่วมสร้างประสบการณ์ให้คุณเป็นคุณแม่เป็นตัวของตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุดอย่าง ให้คำแนะนำในการหลีกเลี่ยงสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพครรภ์ เพื่อให้ทารกเติบโตอย่างมีสุขภาพดี สมองได้รับการพัฒนาในอัตราที่เหมาะสม  อย่างที่รู้กันว่า สมองทารกจะพัฒนาอย่างรวดเร็วมากในช่วงหกสัปดาห์แรก ซึ่งถ้าคุณแม่เครียดในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์หรือถ้าได้รับสารพิษหรือดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งถ้าดื่มในปริมาณมากก็อาจทำให้ลูกของคุณต้องทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 

งานวิจัยเผย อาหารแพลนต์เบสต์ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนกว่ากินเนื้อสัตว์

สามารถดาวน์โหลด Mali ได้ผ่าน App Store ไม่มีค่าใช้จ่าย ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน มากกว่า 100,000 คน ใช้งานฟีเจอร์สำคัญๆ ได้แก่ การบันทึกทุกช่วงเวลา ช่วยติดตามอาการคนท้องและพัฒนาการทารกในครรภ์ แสดงผลด้วยข้อมูลที่ถูกปรับแต่งให้ตรงกับชื่อ, เพศ, กำหนดคลอด และอายุของลูก พร้อมคำแนะนำการเพิ่มน้ำหนัก อ้างอิงจากดัชนีมวลกายของคุณแม่ ไปจนถึง ฟังก์ชันนับจำนวนการดิ้นและการหดตัวของมดลูก และติดตามพัฒนาการลูกน้อยภายในสองขวบปีแรกหลังคลอด  พร้อมด้วยเกร็ดความรู้ บทความ รวมคำถามและคำตอบ และคู่มือการตั้งครรภ์ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมทุกเรื่องเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ และพัฒนาการเด็ก

ยิ่งขยับ ยิ่งผอม เพราะเราทุกคนมีหุ่นซุปเปอร์โมเดลอยู่ข้างใน

สัณฐิฎา สุรพญานนท์ หรือ โค้ชนัทตี้ วิทยากร คอลัมนิสต์ และครูฝึกสอนส่วนบุคคลผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก สมรรถภาพทางกายของผู้หญิง และการวิ่ง ที่ได้รับการรับรองโดย ACE  ชี้ให้เห็นว่า ในปัจจุบันรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันของคนในสังคม มีการขยับร่างกายน้อยมาก อาหารการกินก็ไม่ค่อยเป็นมิตรกับสุขภาพสักเท่าไรนัก เป็นสาเหตุของภาวะน้ำหนักเกิน 

นอกจากนี้ยังมีปัญหาภาวะออฟฟิศซินโดรม ซึ่งมาจากการนั่งท่าเดิมนานๆ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอรื หรือนั่งประชุม ล้วนทำให้กล้ามเนื้อจดจำและเกิดการหดสั้น ล็อค และเกิดอาการปวดหลังในที่สุด เพราะฉะนั้น ยิ่งขยับ  ยิ่งผอม ไม่ได้หมายความแค่ออกกำลังกาย แต่หมายถึงการขยับร่างกายบ่อย ๆ 

“จริงๆ แล้วเราทุกคนมีหุ่นซุปเปอร์โมเดลอยู่ข้างใน แต่ที่เราไม่เห็นเพราะมีไขมันมาบัง เราจะทำยังไงให้เผยโฉมมันออกมา ก็มีสองเรื่องหลัก คือ การกินดี และการออกกำลังกาย นอกจากนั้นยังมีเรื่องการนอน และความเครียดซึ่งสำคัญมาก” โค้ชนัทตี้กล่าว

“รู้ทัน” แอปแจ้งเตือนภัยสุขภาพ ที่อยู่รอบตัว

กินดีกินให้ถูกต้องไม่ใช่กินน้อยลง

โค้ชนัทตี้อธิบายความหมายของการกินดี ว่าคือ การกินอาหารที่มาจากธรรมชาติ ไม่ผ่านแปรรูป หรือปรุงแต่งน้อยที่สุด ขอให้ 70-80% เป็นอาหารธรรมชาติที่มีประโยชน์ มากกว่าอาหารแปรรูปที่กินได้แต่ควรอยู่ในสัดส่วนไม่เกิน 20% ของอาหารที่บริโภคเข้าไป และที่สำคัญ การกินให้ถูกต้อง ไม่ใช่การกินให้น้อยลงซึ่งอาจจะขัดกับความเชื่อของหลายต่อหลายคน

“หลายคนคิดว่าต้องกินให้น้อยจะได้ผอม แต่นั่นจะนำไปสู่การผอมที่ไม่ยั่งยืน จะผอมแค่ช่วงแรก แต่ไม่มีใครกินน้อยไปได้ตลอดชีวิต เดี๋ยวมันก็จะกลับไปกินเหมือนเดิม แล้วน้ำหนักก็เด้งขึ้น อ้วนเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้น เราควรกินอาหารที่มีประโยชน์และกินมากที่สุดเท่าที่ร่างกายของเราจะเผาผลาญได้ 

คาร์ดิโอ + เวทเทรนนิ่ง + การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ

การออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วนและสร้างหุ่นฟิต จะต้องประกอบไปด้วยรูปแบบการออกกำลังกาย 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ 

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ คือ ออกกำลังกายเพื่อให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ช่วยให้หัวใจแข็งแรง เช่น การวิ่ง ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ตีแบดมินตัน เทนนิส หรือเต้นรำ รวมไปถึงการออกกำลังกายแบบเป็นเซทแบบเซอร์กิตเทรนนิ่ง 

การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง คือ การออกกำลังกายโดยใช้ตัวเราเองเป็นแรงต้าน เช่น การยกดัมพ์เบล การทำท่าสควอท การดึงยางยืด จะช่วยให้เรามีกล้ามเนื้อที่เฟิร์มกระชับ สวยงาม หุ่นดี อีกข้อดีของเวทเทรนนิ่งได้แก่ การเกิดกล้ามเนื้อซึ่งจะเป็นตัวช่วยเผาผลาญไขมันในระยะยาว เปรียบเสมือนเตาเผาผลาญพลังงานของร่างกาย 

และการออกกำลังกายแบบยืดเหยียดซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการออกกำลังกายสองแบบข้างต้นทำให้กล้ามเนื้อมีความตึงเครียด การยืดเหยียดจะทำให้กล้ามเนื้อกลับสู่ความสมดุลได้ หลังการออกกำลังกายทุกครั้งก็ควรยืดกล้ามเนื้อ ทำให้ไม่เกิดอาการบาดเจ็บ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ไม่ติดขัด และช่วยเรื่องสมาธิด้วย

NEAT ไม่ต้องออกกำลังกายก็ผอมได้

นอกจากการออกกำลังกายสามแบบข้างต้นแล้ว การทำกิจกรรมต่างๆ ที่เราทำได้ตลอดทั้งวัน เช่น การทำงานบ้าน หรือเวลาไปไหนใช้การเดินขึ้นลงบันได ไม่ใช้ลิฟต์ ไม่ใช่บันไดเลื่อน หรือการขึ้นรถเมล์ ลงก่อนถึงสักป้าย คือ การทำกิจกรรมที่ไม่ใช่การออกกำลังกายแต่เผาผลาญแคลอรี่ได้ หรือ Non-exercise activity thermogenesis (NEAT)

การทำงานบ้านไม่ว่าจะเป็น การดูดฝุ่น ถูบ้าน รีดผ้า ล้างจาน เป็นกิจกรรมที่เหมือนออกกำลังกาย เพราะใช้แคลอรี่เยอะ บางคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายหนัก แต่ใช้การคุมอาหารและเดินวันละหมื่นก้าวก็สามารถผอมลงได้ นั่นหมายความว่า เมื่อเป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวันจะทำให้เราไม่รู้สึกต่อต้าน สำหรับคุณแม่ลูกอ่อน การเลี้ยงลูกก็เป็นการเผาผลาญพลังงานเยอะมากเช่นกัน แค่เลี้ยงลูกก็ผอมลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีกล้ามเนื้อเยอะอยู่แล้ว จะยิ่งผอมเร็ว  

“ถ้าใครใช้ Apple Watch การมีวงแหวนกิจกรรมเป็นการท้าทายตัวเอง บางทีอีกนิดเดียวใกล้จะปิดวงแล้ว เราก็อยากออกไปทำให้มันสำเร็จ ทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เผาผลาญพลังงานอยู่แล้ว เรานั่งก็เผาผลาญ แต่ถ้าเรายืนขึ้นหรือเดิน ก็จะเผาผลาญมากกว่าอยู่แล้ว ยิ่งเราขยับร่างกายบ่อยๆ ร่างกายก็จะเผาผลาญพลังงานมากขึ้น เหนื่อยมากก็ใช้พลังงานมาก เหนื่อยน้อยก็ใช้พลังงานน้อย  เดินเหนื่อยน้อยกว่าการวิ่งซึ่งในเวลาที่เท่ากันเบิร์นได้มากกว่า วิ่งได้วิ่ง ถ้าวิ่งไม่ได้ก็เดิน ขอให้ผสมผสานการขยับร่างกายเข้าไปในการใช้ชีวิตแต่ละวัน ก็จะไม่เป็นโรคต่าง ๆ จากการนั่งนาน ๆ 

ติดตามกิจกรรมประจำวันด้วย Apple Watch

แอปกิจกรรม บน Apple Watch จะติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ตลอดทั้งวันและช่วยสร้างกำลังใจให้ทำตามเป้าหมายการออกกำลังกาย แอปนี้จะติดตามว่าคุณยืนบ่อยเพียงใด เคลื่อนไหวมากเพียงใด และออกกำลังกายนานกี่นาที โดยจะมีวงแหวนกิจกรรม สามวงที่มีสีแตกต่างกันสรุปความคืบหน้าของคุณ เป้าหมายคือการนั่งให้น้อยลง เคลื่อนไหวให้มากขึ้น และออกกำลังกายบ้างโดยการทำให้วงแหวนเต็มวงทุกวงในทุกวัน

แอปฟิตเนสบน iPhone จะบันทึกกิจกรรมของคุณ ถ้าคุณได้ติดตามกิจกรรมเป็นอย่างน้อย 6 เดือน ระบบจะแสดงข้อมูลแนวโน้มประจำวันสำหรับกิโลแคลอรีที่เคลื่อนไหว จำนวนนาทีในการออกกำลังกาย จำนวนชั่วโมงการยืน จำนวนนาทีการยืน ระยะทางที่เดิน คาร์ดิโอฟิตเนส เวลาเฉลี่ยต่อระยะทางเดิน และอื่น ๆ  

คิม – กวิน นิทัศนจารุกุล ฝันสร้าง สังคมสุขภาพดี ด้วยบริการ ร้านสะดวกซัก Otteri Wash & Dry

สธ. จับมือพันธมิตร ยกระดับ ‘หมอพร้อม’ สู่แอปพลิเคชันสุขภาพเพื่อคนไทย โชว์ 12 ฟีเจอร์ใหม่

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ