TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusiness"สรรพากร" ชูดิจิทัล ทำภาษีเป็นเรื่องง่าย

“สรรพากร” ชูดิจิทัล ทำภาษีเป็นเรื่องง่าย

กรมสรรพากร เดินหน้ายกระดับการบริการด้วยระบบเทคโนโลยีนวัตกรรมดิจิทัล 9 ระบบ หวังช่วยประชาชนคนทั่วไปและผู้ประกอบการ จัดการเรื่องภาษี ทำให้ภาษีเป็นเรื่องง่าย เข้าถึงไม่ยากและสะดวกสบาย รวมถึง ช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการจัดเก็บเอกสารต่าง ๆ เพื่อเสียภาษี

-“ภาษี e-Service” รับ “แพลตฟอร์ม”​ บูม
-ลด VAT = ลดรายจ่าย กระตุ้นศก.

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดใจถึง ที่มาที่ไปของการยกเครื่องปฎิรูประบบการจัดเก็บภาษีไปสู่ระบบดิจิทัลครั้งนี้ว่า เป็นไปภายใต้เป้าหมายของกรมสรรพากร 3 ประการ คือ ต้องการเก็บภาษีให้ได้ตามเป้า สามารถจัดสรรนโยบายภาษีที่สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ให้บริการจัดเก็บภาษีที่ตรงใจผู้บริโภคทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

ทั้งนี้ สำหรับหลักการของการยกเครื่อง หรือ transform ที่กรมสรรพกรนำมาใช้ก็คือ “easy” หมายถึง การทำให้ระบบการเสียภาษีเป็นเรื่องง่าย ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก สำหรับผู้เสียภาษีทุกประเภท ทั้งในแง่ของการเข้าถึง และการจัดเก็บจัดส่งเอกสาร ทำให้ไม่ต้องเสียเวลา แถมยังช่วยลดต้นทุนด้วยการรับทราบถึงวิธีการต่าง ๆ ในเรื่องของการลดหย่อนภาษี

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การปฎิรูปด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลนี้ ขับเคลื่อนภายใต้กลยุทธ์ D2RIVE ซึ่ง

  • D หมายถึง Digital Transformation และ Data Analytics
  • R คือ Recollection (การจัดเก็บภาษี)
  • I คือ Innovation (นวัตกรรมใหม่ๆ)
  • V คือ Value(ค่านิยมและหลักธรรมาภิบาล) และ
  • E คือ Efficiency (ประสิทธิภาพ ทั้งในแง่ของการจัดเก็บภาษี และ ระบบกระบวนการทำงานของกรมสรรพากรเพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็น smart office)

“กลยุทธ์ D2RIVE เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การดำเนินการตามนโยบายของกรมสรรพากรเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานต่าง ๆ และการสร้างนวัตกรรมที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติการและชำระภาษีให้มีความทันสมัยมากขึ้น ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถทำธุรกรรมภาษีได้ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และตอกย้ำความเป็นองค์กรดิจิทัลของกรมสรรพากรอย่างแท้จริง” ดร.เอกนิติกล่าว

สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฎิบัติการและการชำระภาษีของกรมสรรพากรที่มีการเปิดตัวไปอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ภายใต้การสัมมนาในหัวข้อ “วิถีใหม่…ให้ภาษีเป็นเรื่องง่าย” (Easy Tax Transforms Your Life) ประกอบด้วยบริการดิจิทัล 9 ระบบด้วยกันคือ

1.Tax from Home มาตรการที่กรมสรรพากรตั้งใจช่วยให้ภาคธุรกิจและประชาชนเข้าถึงการทำธุรกรรมภาษีในทุกมิติได้ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ใด ๆ ก็ตาม โดยครอบคลุมตั้งแต่

  • 1.1 e-Registration การลงทะเบียนขอยื่นแบบทางอินเทอร์เน็ต และนำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านทาง e–mail ได้ทันที โดยไม่ต้องเดินทางไปยื่นด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาอีกต่อไป
  • 1.2 e-Filing การยื่นแบบแสดงรายการภาษีทางอินเทอร์เน็ต ได้สิทธิขยายเวลาการยื่นแบบและชำระภาษีออกไปอีก ช่วยให้ภาคเอกชนมีเวลาในการบริหารกระแสเงินสดได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
  • 1.3 e-Payment การชำระภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ (ธนาคารเกือบทั้งหมดยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้บริการสำหรับการยื่นแบบและชำระภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์จากนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2563)
  • 1.4 e-Refund การคืนเงินภาษี สำหรับผู้เสียภาษีที่ชำระภาษีไว้เกิน กรมสรรพากรจะดำเนินการคืนภาษีผ่านระบบพร้อมเพย์ที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

2. My Tax Account เป็นบัญชีรายการค่าลดหย่อนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เสียภาษี เข้ามาตรวจสอบสิทธิค่าลดหย่อนภาษีต่าง ๆ เช่น ข้อมูลเบี้ยประกันสุขภาพ ข้อมูลการบริจาคผ่านระบบ e–Donation ข้อมูลเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ข้อมูลเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ซึ่งจะช่วยลดภาระในการเก็บเอกสาร ช่วยให้การ ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการคืนภาษีสะดวกรวดเร็วขึ้น

3.ระบบ e-Donation ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับข้อมูลการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาค ทั้งยังอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริจาค สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้โดยไม่ต้องเก็บหลักฐาน โดยเข้าตรวจสอบข้อมูลการบริจาคด้วยตนเองได้ที่ ระบบ My Tax Account ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร

4. Open API เป็นการเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัพเข้ามามีส่วนร่วม โดยเชื่อมโยงระบบกับกรมสรรพากร ซึ่งจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการยื่นแบบและชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์ของประชาชนผู้เสียภาษีมากขึ้น ช่วยให้การยื่นแบบและเสียภาษีเป็นเรื่องง่ายแม้ไม่รู้เรื่องภาษีเลย โดยขณะนี้เปิดให้บริการแล้วผ่านแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า iTAX และ noon

5.RD Smart Tax Application ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในการจัดการด้านภาษี ทำให้ภาษีเป็นเรื่องง่ายซึ่งจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น โดยเป็นมิติใหม่ของการให้บริการธุรกรรมของภาครัฐผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งในแง่ของข่าวสารสรรพากร สาระความรู้ภาษี ยื่นแบบ ภ.ง.ด.91 ออนไลน์ และแผนที่หน่วยงานสรรพากรทั่วประเทศ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ทั้ง App Store และ Google play

6. VRT on Blockchain เป็นระบบการคืนเงินภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผ่านโมบายล์แอปพลิเคชันที่ใช้ระบบเทคโนโลยีบล็อกเชนในการเชื่อมต่อข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นที่แรกของโลก เพื่อให้บริการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยวไวขึ้น ง่ายขึ้น และไม่ต้องรอคิวอีกต่อไป

7. e-Tax Invoice และ e-Receipt เป็นการออกใบกำกับภาษี รวมถึงใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ และใบรับ ที่จัดทำเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) เพื่อช่วยลดต้นทุนด้านค่าใช้จ่ายและเวลาให้กับผู้ประกอบการในการจัดทำและนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีในรูปแบบใหม่

8. e-Withholding Tax ซึ่งเป็นระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อมีการจ่ายเงินได้ให้แก่ผู้รับเงินทั้งในและต่างประเทศ โดยนำส่งข้อมูลและภาษีพร้อมการชำระเงินผ่านธนาคารที่เป็นผู้ให้บริการระบบ e-Withholding Tax แทนการยื่นด้วยแบบกระดาษ ช่วยลดขั้นตอน ลดต้นทุน ลดภาษี ทั้งยังสามารถตรวจสอบหลักฐานได้ตลอดเวลาที่เว็บไซต์กรมสรรพากร

9. e-Stamp Duty เป็นการชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สำหรับ ตราสารอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยเพิ่มความสะดวกและเป็นการสนับสนุนนโยบาย National e-Payment ของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการเสียภาษี เป็นการส่งเสริมธุรกิจในรูปแบบ e-Business ให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อธิบดีกรมสรรพรการย้ำว่า สรรพากรจะเดินหน้าผลักดันและสนับสนุน บริการทั้ง 9 ระบบนี้ ในทุก ๆ ด้าน รวมถึงการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการบริการที่ดีขึ้น ภายใต้กรอบความคิดที่ยึดผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลางที่ต้องได้รับบริการที่สะดวกบนความพึงพอใจสูงสุด และกรมสรรพากรมุ่งหวังที่จะผลักดันให้เกิดการสร้างบริการต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงมายังระบบภาษี (Tax Ecosystem) ผ่านแพล็ตฟอร์มต่าง ๆ และตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้ใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรเป็นจำนวนร้อยละ 100 ในทุกด้านภายใน 3 ปี

ขณะเดียวกัน ดร.เอกนิติ ยังใช้โอกาสที่ใกล้ถึงกำหนดยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สำหรับรอบปีภาษี 2562 ในเดือนสิงหาคมนี้ เชิญชวนผู้มีเงินได้ยื่นแบบแสดงรายการฯ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th ส่วนใครที่มีมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) 1161 หรือที่สานักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ

“ก้าวต่อไปของกรมสรรพากร คือ การใช้ระบบดิจิท้ลให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเรื่องของภาษีในทุกด้าน ทั้งในแง่ของกฎหมาย การลดหย่อน และการเสียภาษี ด้วยเชื่อว่า เพราะภาษีเกี่ยวข้องกับคนส่วนมาก การทำให้ง่ายขึ้น จะทำให้เกิดการเสียภาษีอย่างถูกต้อง ส่งผลต่อการเก็บภาษีให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพื่อนำไปเงินไปพัฒนาประเทศ ซึ่งกรมสรรพกรมองว่า การเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมพัฒนาประเทศ ที่ไม่เพียงทำให้ภาษีเป็นเรื่องง่ายเท่านั้น แต่จะทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้นด้วย” อธิบดีกรมสรรพากรกล่าว

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

-‘BIG BOY’ แฟรนไชส์แบรนด์ดังแดนมะกัน พร้อมบุกตลาดไทย
-ดีแทคเปิดทดสอบมือถือ 5G คลื่น 26 GHz
-LINE TV เผยยอดคนดูผ่านจอใหญ่โต 121%
-สมรภูมิ “ขนส่งพัสดุ”​ รู้ซึ้ง ศึกพรีเซนเตอร์ไม่ได้ช่วยอะไร

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ