TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessTencent ปิดดีล iflix สยายปีก ยึดตลาดวิดีโอสตรีมมิ่ง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Tencent ปิดดีล iflix สยายปีก ยึดตลาดวิดีโอสตรีมมิ่ง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตัวเลขที่ Tencent ทุ่มเข้าซื้อ iflix ยังไม่เป็นที่เปิดเผย แต่ประเมินคร่าว ๆ ว่าอาจจะใช้เงินไม่กี่สิบล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุที่ต้องผู้ก่อตั้ง iflix ตัดใจขาย เป็นเพราะปัญหาทางด้านการเงิน และหนี้สะสม ซึ่งการปิดดีลเข้าซื้อ iflix จะทำให้ Tencent ได้ฐานคนดู หรือ active user ประมาณ 25 ล้านคน ใน 13 ประเทศ ครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย

iflix เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอ สตรีมมิ่ง สัญชาติมาเลเซีย เริ่มธุรกิจในปี 2014 เนื้อหาเน้นละครและกีฬา และจับตลาดเฉพาะประเทศเกิดใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเติบโตของ iflix ในช่วงปีแรก ๆ เติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่เริ่มมีปัญหาธุรกิจเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำให้การเงินเริ่มกระท่อนกระแท่น ยิ่งเจอพิษโควิด-19 ยิ่งสร้างปัญหาการเงินมากขึ้น ทำให้ iflix ต้องเลิกจ้างพนักงาน

iflix ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งของ Netflix เนื่องจากว่าเป็นธุรกิจประเภทเดียวกัน แต่ Patrick Grove ผู้ก่อตั้ง iflix บอกว่า iflix และ Netflix จับตลาดผู้บริโภคกันคนละตลาด โดยหากเปรียบ Netflix เป็น iPhone สำหรับ iflix ก็เป็นฝั่งแอนดรอยด์ ที่มีความเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ซึ่งคอนเทนท์ของ iflix เน้นตลาดในภูมิภาค และเก็บค่าบริการที่ถูกกว่า ขณะที่ Netflix เป็นแบรนด์ระดับโลก

แต่เมื่อ Tencent เข้ามาถือ iflix แน่นอนว่าการบริหารและเป้าหมายคงต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน… Tencent มีเป้าหมายชัดเจนในการขยายตลาดวิดีโอ สตรีมมิ่ง โดยก่อนหน้าที่จะเข้าถือ iflix ก็เพิ่งจะเข้าถือหุ้นรายใหญ่ใน iQIYI ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Baidu โดยดำเนินธุรกิจแบบเดียวกับ Netflix และ iflix

และในมือของ Tencent ตอนนี้ก็มี WeChat แอปพลิเคชันแชทบนโทรศัพท์มือถือ และ JOOX แอปพลิเคชันฟังเพลงที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย และ Tencent ก็มีแอปพิลเคชั่นวีดีโอสตรีมมิ่ง ของตัวเองนั่นก็คือ WeTv ซึ่งเพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว

มองภาพแค่นี้… ไม่ต้องบอกว่า Tencent จะสามารถยึดตลาดวิดีโอ สตรีมมิ่ง ในเอเชียไม่ยากนัก เพราะไม่เพียงการต่อจิ๊กซอว์ของ Tencent ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ และเชื่อมเข้าด้วยกัน แต่ยังมีเงินทุนอีกมหาศาล

Netflix เองก็คงจับตามองการคืบคลานเข้าสู่ภูมิภาคเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ Tencent ก่อนหน้านี้ Netflix ให้ความสำคัญของภูมิภาคนี้มากขึ้น และก็มีการจับมือกับผู้ผลิตในภูมิภาคสร้างคอนเทนท์ เหมือนอย่างที่ iflix ทำ เพื่อตอบโจทย์คนดูในท้องถิ่น อย่างของไทย ล่าสุดก็มีเรื่อง The Stranded (เคว้ง)…

ที่ผ่านมาเรียกได้ว่า Netflix เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งยืนหนึ่งในตลาดเอเชีย ท่ามกลางผู้เล่นอีกหลายๆ ค่าย ไม่ว่าจะเป็น iflix, Hooq, Viu และ Viki นอกจากแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งแล้ว ก็ยังมีคู่แข่งอื่น ๆ เช่น Youtube, Facebook และ Apple TV ขณะที่ในไทยเองก็ยังมี LINE TV หรือ AIS TV นี่ยังยังไม่นับรวม TikTok แพลตฟอร์ม วิดีโอสั้นที่ก็มาแรงมาก

ตัวเลขต่อไปนี้คงจะสะท้อนได้ถึงเหตุผลที่แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งค่ายต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมาก นั่นเพราะเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และมีการประเมินเม็ดเงินในธุรกิจนี้ว่าจะมีมูลค่ามากถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025

สมรภูมิรบของการสร้างคอนเทนท์วิดีโอ จากนี้ไปก็ยิ่งทวีความดุเดือดขึ้น

ที่มา news.abs-cbn , theaseanpost

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

-“ความสำเร็จ” ในยามเศรษฐกิจโหดร้าย ….
-Work from Home จะเปลี่ยนภูมิทัศน์ธุรกิจในอนาคตอย่างไร
-เทคโนโลยีไร้สัมผัส ไร้อาหารปนเปื้อน
-เงินล่องหน … กับ New Normal
-Zoom เข้ามา…ดูให้ชัด

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ