“คุณคือคนแรกที่ได้สัมผัสกับอาหาร หมดห่วงอาหารปนเปื้อน” จะเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าร้านอาหาร หรือ ผู้ผลิตอาหาร พูดกับคุณแบบนี้ ในยุคโควิด-19
Contactless society หรือ สังคมไร้สัมผัส เป็นอีกหนึ่งคีย์เวิร์ดของยุคโควิด-19 ที่มาแรง ตามหลัง New Normal และ Social distancing
ล่าสุดความห่วงกังวลต่อการระบาดระลอก 2 ที่กำลังกลับมาอีกครั้งในประเทศจีน ก็ทำให้ความห่วงกังวลว่าไวรัสโควิด-19 อาจจะไม่สามารถคลี่คลายได้ภายในสิ้นปีนี้
ยิ่งทำให้พฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันยังคงต้องยกการ์ดให้สูง…คือ การเว้นระยะห่าง และเลี่ยงการสัมผัสสิ่งต่าง ๆ … ภาวะตอนนี้ไม่ใช่การระวัง แต่เป็นการหวาดระแวงเสียมากกว่า ยังโชคดีที่ประเทศไทย อยู่ในข่ายที่การระบาดยังนิ่ง เรียกได้ว่าแทบไม่มีการระบาด
แต่ความไม่แน่นอนว่าเหตุการณ์จะหยุดลงเมื่อไหร่…ก็ทำให้มีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการเลี่ยงการสัมผัสมากขึ้น ในขณะนี้เน้นไปที่การซื้อขายในร้านค้า ร้านอาหาร โดยพยายามที่จะไม่ให้คนซื้อคนขายอยู่ใกล้กัน ไม่สัมผัสเงิน
เทคโนโลยีเหล่านี้ ก็จะเป็นการจ่ายเงินออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ จ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ การแตะบัตรเพื่อชำระค่าบริการ การสแกนหน้าโดยใช้ AI เพื่อจะเลี่ยงการสัมผัส
ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ยอดการใช้จ่ายแบบสังคมไร้เงินสดในหลายประเทศก็เพิ่มสูงขึ้น และคงจะเป็นพฤติกรรมการชำระเงินที่สังคมจะคุ้นชินอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเรื่องปกติ
ทั้งนี้ นี่เป็นการมองในฝั่งของเทคโนโลยีของการซื้อขาย แต่ยังมีเทคโนโลยีในฝั่งของการผลิต ที่มีการวางระบบให้มีการสัมผัสสินค้าในน้อยที่สุดหรือแทบจะไม่มีเลย โดยเฉพาะการนำโรบอทมาใช้งานมากขึ้น
ก่อนหน้านี้จะเห็นว่าที่จีน มีการนำโรบอทมาใช้เยอะมาก เช่นการวัดไข้ การพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ การปรุงยา เพื่อเลี่ยงการสัมผัสคนไข้ …หรือการพัฒนาและเริ่มทดลองใช้แท็กซี่ไร้คนขับในญี่ปุ่น
แต่สถานการณ์ต่อจากนี้ไปในการใช้เทคโนโลยี หรือ โรบอท เป็นหลักในการผลิตมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ให้สินค้าถึงมือของผู้บริโภคโดยที่ลูกค้าจะได้เป็นคนสัมผัสสินค้านั้นเป็นคนแรก!
หลายคนคงคิดว่า “ไปกันใหญ่แล้ว” หรือ “จะทำได้ยังไง” ซึ่งที่จริงสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังก้าวไม่เร็วเท่านั้นเอง…
อาหารของคุณปลอดจากการสัมผัส ปลอดภัยจากการปนเปื้อนแน่นอน
มี 1 เคสที่น่าสนใจ ของบริษัท Plenty.inc เป็นผู้ผลิตผักสลัด ซึ่งปลูกในโรงปลูก indoor โดยมีเกษตรกรผู้ปลูกเป็นโรบอท และวิธีการปลูกก็ต่างจากปกติ คือ แทนที่จะปลูกแนวนอน แต่กลับปลูกผักแนวตั้ง โดยจะเหมือนปลูกผักไว้บนฝาผนัง… น่าจะเป็นเพราะทำให้มีพื้นที่ปลูกมากขึ้น
Plenty.inc ได้เงินจากการระดมทุนมาถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรับการหนุนหลังจาก Softbank Group ดำเนินการมาแล้ว 2 ปี แต่ว่าความสนใจของตลาดในช่วงที่ผ่านมามีน้อยมาก ทำให้บริษัทต้องจำกัดการต่อยอด การขยายธุรกิจไว้เพื่อดูทิศทางของตลาด
พอเจอโควิด-19 เท่านั้น Plenty.inc ก็เริ่มมีหวัง เพราะความเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยของอาหารมีมากขึ้น การทำเทคโนโลยีมาควบคุม ก็ทำให้สามารถตรวจสอบ และสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้มากขึ้น ผู้บริหารของ Plenty.inc ตั้งเป้าหมายว่าลูกค้าจะเป็นคนแรกที่ได้สัมผัสผักที่ปลูกขึ้นนี้เป็นคนแรก
และก็ปรากฎว่ายอดการสั่งผักของลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 30% แน่นอนว่ายอดที่เพิ่มขึ้นมาจากความหวาดระแวงอาหารปนเปื้อนมากกว่าสิ่งอื่นใด
ก่อนจะมีสถานการณ์โรคระบาด โรบอทที่ใช้สำหรับการจัดเตรียมอาหารเครื่องดื่มก็มีการพัฒนาและนำมาใช้แล้ว แต่ว่ายังไม่ถึงจุดที่สามารถจะทำรายได้ เพราะการนำมาใช้อยู่ในวงจำกัด
เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ถนนในนครซานฟรานซิสโก ของสหรัฐ มีการนำเอาโรบอทมาชงกาแฟแล้ว ชงเสร็จแล้วก็ยื่นให้กับลูกค้าเลย
หรืออย่างร้าน Zume Pizza.Inc ก็ได้เงินสนับสนุนจาก Softbank เหมือนกันในการทำโรบอทมาใช้ในส่วนการผลิตพิซซ่า ซึ่งปีนี้ Zume Pizza ต้องลดคนงานถุง 360 คน และหันมาใช้โรบอทแทน โดยเฉพาะในการแพคพิซซ่าให้กับลูกค้า แถมยังมีโฆษณาตอกย้ำความสะอาดขั้นสุดก่อนถึงมือลูกค้า
“ทันทีที่อบเสร็จจากเตา พิซซ่าก็ถูกแพคลงกล่องทันที โดยไร้การสัมผัส และคุณลูกค้าคือคนแรกที่ได้สัมผัสพิซซ่า”
ต้องขอยืมคำอุทานนี้มาใช้หน่อย… “โอ้ พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก
แม้จะมีหลายร้านอาหารใหญ่ ๆ ที่นำโรบอทมาใช้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ใช่จะมียอดขายเพิ่ม ซึ่งมีปัจจัยอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า โรบอทช่วยควบคุมการทำงาน ตรวจความสะอาดและความปลอดภัยได้ แต่การเติบโตของการผลิตหุ่นยนต์มาใช้ในวงการผลิต ที่อาจจะเติบโตและมีความต้องการแบบอัตราเร่ง โดยที่แรงงานมนุษย์ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ถูกพัฒนาทักษะไปทำงานแบบอื่น โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงประเทศไทย ก็เป็นสิ่งที่น่าห่วงมาก…
แม้ว่ามีความพยายามในการจะ Reskill และ Up skill โดยเฉพาะภาคการผลิต ภาคการเกษตร… แต่ก็ไม่เร็วเท่าโควิด-19 ที่มาอย่างกะทันหัน
ที่มา: Bloomberg- Robot Food Startups Have a New Pitch: No Humans Touch Your Lunch
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
-เงินล่องหน … กับ New Normal
-Zoom เข้ามา…ดูให้ชัด
-TikTok จะครองโลก
-New Normal แห่งสนามการค้า อี-คอมเมิร์ซ
-โควิด-19 กระทบ Sharing Economy ทรุด
