TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistBLACKPINK ศรัทธาที่อยู่เหนือคุณค่าธุรกิจ

BLACKPINK ศรัทธาที่อยู่เหนือคุณค่าธุรกิจ

คุณคิดว่าเราสามารถวัดคุณค่าของอะไรที่เป็นนามธรรมได้ยังไงบ้างครับ

ความเชื่อมั่นในอะไรสักอย่างหนึ่งของคุณมีค่าเท่าไหร่ และคุณจะมั่นคงในสิ่งที่ชอบไปได้อีกนานแค่ไหน…

เจอคำถามนี้ไปก็คงต้องมีหยุดคิดกันบ้างใช่ไหมละครับ แต่ถ้าถามเหล่า Blink ว่าจะรัก Black Pink ไปอีกนานแค่ไหน คำตอบที่ได้ก็คงเป็น…ตลอดไป  

ช่วงไม่กี่วันมานี้ นับว่าเป็นข่าวที่ทำให้แฟนคลับหัวใจกลายเป็นสีชมพูขึ้นมากันทั่วโลกเลยทีเดียวครับ กับการประกาศต่อสัญญาในนามวง Black Pink 

(แม้ว่าสัญญาในนามส่วนตัวก็ยังคงต้องติดตามกันต่อไป)

ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะแฟนคลับของวงเท่านั้นที่ดีใจครับ 

แต่เหล่านักลงทุนที่ถือหุ้น YG (YG Entertainment Inc.) ซึ่งเป็นต้นสังกัดของสาว ๆ อยู่ก็หายใจได้ทั่วท้องไปตาม ๆ กัน…เพราะหุ้นพุ่งพรวดขึ้นมาทันที 22% 

ครั้งนี้เราไม่ได้มาเล่าถึงเหตุผลหรือการตัดสินใจใด ๆ ระหว่างตัวศิลปินกับค่ายต้นสังกัดครับ เพราะนั่นคงเป็นเหตุผลส่วนตัวที่เราจะไม่ก้าวล่วง

แต่เราจะมาคุยกันในมุมของนักลงทุน กับหุ้นที่ขึ้นลงเพียงเพราะข่าว ๆ เดียว 

อย่างการต่อสัญญาของ 4 สาว Black Pink ทั้งที่บริษัทยังมีศิลปินภายใต้สังกัดอีกหลายคน…

เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นของ YG และหากคุณเป็นนักลงทุนที่ในบางครั้งคุณก็อยากลงทุนในสิ่งที่ชอบ คุณจะจัดการกับความเสี่ยงนี้ยังไง เราจะพาไปหาคำตอบกันครับ

หากพูดถึงอุตสาหกรรมความบันเทิง ‘เพลง’ คงเป็นอะไรที่สามารถเข้าถึงคนได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นภาษาหรือวัฒนธรรมก็ดูจะไม่สำคัญหากเป็นการสื่อสารผ่านเสียงดนตรี…เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ก้าวข้ามทุกพรมแดนเลยทีเดียวครับ

เพราะแม้เราจะแปลไม่ออก หรืออาจจะตีความไม่ได้ แต่ถ้าจังหวะมันได้ เพลงก็โด่งดังขึ้นมาได้เหมือนกัน 

ซึ่ง K-Pop หรือเพลงจากประเทศเกาหลีใต้ ก็ถือได้ว่าเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก และ YG ก็เป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ในนั้น 

ปัจจุบัน YG มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว ๆ 1.1 ล้านล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 29,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาก็มีศิลปินชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Big Bang 2NE1 หรือ Psy ที่เป็นกระแสไปทั่วโลกจากเพลง Gangnam Style 

ซึ่งต่อมา YG ได้ก้าวเข้าสู่เวทีโลกเต็มตัวกับวง Black Pink ซึ่งกลายเป็นศิลปินที่มีแฟนคลับทั่วโลก เรียกได้ว่าเป็นอีก 1 วงสำคัญที่เปิดประตู K-Pop สู่สายตาชาวโลกอย่างแท้จริง…

สัญญาฉบับที่มีมูลค่ามหาศาล

ราว ๆ กลางปีที่ผ่านมา สัญญาของวง Black Pink รวมถึงสมาชิกทั้ง 4 คนได้หมดลงในเดือนสิงหาคม YG ก็กลายเป็นที่จับต่อมองถึงการต่อสัญญาของวงที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นทั้งหมดของบริษัทครับ

ข่าวแรกถูกปล่อยออกมา ในช่วงเดือนกรกฎาคม ว่าบริษัทไม่สามารถหาข้อสรุปในการเจรจาต่อสัญญากับ ลิซ่า หนึ่งในสามาชิกของวงได้ และนั้นก็ทำให้หุ้นร่วงทันที 7% 

ต่อมาในเดือนกันยายนหุ้นก็ร่วงอีก 9% หลังมีสื่อรายงานว่า ลิซ่า จะไม่ต่อสัญญา ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดของราคาหุ้นนับตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2565 เลยทีเดียวครับ

ไม่จบแค่นั้น เพียงเวลาไม่นานในช่วงเดือนเดียวกัน มีข่าวออกมาอีกครับว่า มีสมาชิกเพียงคนเดียวที่ต่อสัญญา นั่นก็คือ โรเซ่ ทำให้หุ้นร่วงลงอีกกว่า 13.3% แม้ YG จะออกมาชี้แจงว่าอยู่ในระหว่างเจรจา แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก

จนเมื่อเดือนพฤศจิกายนมีข่าวออกมาว่า สมาชิกทั้ง 4 คนซึ่งประกอบไปด้วย ลิซ่า เจนนี่ จีซู และ โรเซ่ จะยังคงทำกิจกรรมของวงต่อไปแม้ไม่ได้เซ็นสัญญาในฐานะสมาชิกเดี่ยวของค่ายก็ตาม ทำให้หุ้นขึ้นทันที 3%

จนเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว ที่ทาง YG ออกมายืนยันว่า Black Pink ต่อสัญญาในฐานะวง แต่สัญญาเดี่ยวๆ ของศิลปินแต่ละคนนั้นยังอยู่ระหว่างเจรจา แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้หุ้น YG พุ่งสูงถึง 22%! 

เรียกได้ว่าโล่งใจกันถ้วนหน้าทั้งแฟนคลับและนักลงทุนครับ

และครั้งนี้ก็ได้ถือกำเนิด ‘สัญญา’ ที่เรียกได้ว่ามีมูลค่ามหาศาลฉบับนึงในโลกลงทุนเลยทีเดียวครับ

เมื่อศรัทธามีค่ามากกว่าคุณภาพของหุ้น 

จากเหตุการณ์ในช่วงหุ้นตกที่ผ่านมา หลายคนอาจมองว่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เมื่อมีข่าวร้ายหุ้นก็ผันผวนได้อยู่แล้ว

แต่กับบริษัทที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้าน คงต้องตั้งข้อสังเกตสักหน่อยแล้วละครับว่าทำไม สัญญาแค่ฉบับเดียวถึงมีผลกับราคาหุ้นขนาดนี้ (อาจ 5 ฉบับ ถ้านับรวมของสมาชิกแต่ละคนเข้าไปด้วย) 

ไม่ใช่แค่เฉพาะหุ้นของ YG เท่านั้นนะครับ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทอะไรก็ตามที่หากราคาหุ้น หรือแม้แต่รายได้ ของบริษัทขึ้นอยู่กับอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวนั่นถือเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมากครับ 

เหมือนกับการที่คุณเดินโดยใช้ขาเพียงข้างเดียว เท่ากับว่าคุณมีสิทธิ์จะล้มได้ทุกเมื่อใช่ไหมละครับ เหมือนกัน หากบริษัทพึ่งพาแค่อย่างใดอย่างนึงมากเกินไป เมื่อเสียสิ่งๆ นั้นไป นั่นอาจหมายถึงหายนะเลยก็ได้

อย่างในกรณีของ YG เอง ที่บริษัทยังคงมีศิลปินในสังกัดมากมาย แต่หุ้นกับอ่อนไหวอย่างมากต่อสัญญาของวงเพียงวงเดียว

ซึ่งนั่นอาจเป็นไปได้ว่า คนลงทุนเพราะเชื่อใน Black Pink ไม่ใช่ YG

และคุณอาจต้องกลับมาตั้งข้อสังเกตถึงคุณภาพและการเติบโตในระยะยาวอีกครั้ง

กระจายความเสี่ยง ให้สมองได้ทำงานไปพร้อมกับหัวใจ

ถึงตรงนี้ก็ไม่ต้องตกใจนะครับ การลงทุนในสิ่งที่รักก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะคุณจะให้เวลาและทำความเข้าใจมันจนทะลุปรุโปร่ง 

ตามหลักการลงทุนแบบ VI (Value Investment) ที่จะเลือกหุ้นโดยคำนึงถึงคุณภาพธุรกิจ จากงบการเงินย้อนหลัง หรือความสามารถในการแข่งขันในตลาด ความสามารถในการบริหารจัดการต่างๆ เป็นต้น 

ซึ่งความชอบจะเป็นแรงผลักดันให้คุณขวนขวายหาข้อมูลได้มากขึ้น 

แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีหลายๆ อย่างซึ่งข้อมูลที่มีไม่สามารถบอกได้ เช่นเรื่องส่วนตัวของสมาชิกที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้ผ่านตัวเลข การกระจายความเสี่ยงจึงเข้ามาช่วยปิดช่องโหว่ตรงนี้ 

เมื่อคุณได้หุ้นคุณภาพดีที่จะลงทุนแล้ว การติดตามข่าวสารก็สำคัญไม่แพ้กัน แต่ได้รับข่าวสารมาแล้วจะต้องวิเคราะห์และคิดให้รอบคอบก่อน ไม่ใช่ตกใจไปตามข่าว ต้องแข็งแกร่งด้วยเหตุและผลครับ 

ในกรณีนี้ หาก Black Pink และสมาชิกทั้ง 4 คน ยังคงเติบโตอย่างงดงามไปบนเส้นทางที่คุณเองยังได้ชื่นชมและสนับสนุนพวกเขาอยู่ แต่หุ้นที่ลงทุนไว้นี่สิ จะทำยังไง 

แน่นอนครับในระยะสั้นหุ้นอาจร่วงลงไป โดยทิ้งคำถามไว้ว่าจะกลับขึ้นมาอีกทีตอนไหน เพราะงั้น การกระจายความเสี่ยงจึงสำคัญครับ 

คุณควรแบ่งสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่มั่นใจ และหุ้นที่ลงทุนจากความชอบให้เหมาะสม 

เช่นหากคุณชื่นชอบในด้านความบันเทิง อาจลองลงทุนใน ETF ธีมธุรกิจความบันเทิงโดยเฉพาะ ให้คุณได้ลงทุนในสิ่งที่ชอบ และกระจายความเสี่ยงไปพร้อมๆกัน

หรือหากคุณมีธีมการลงทุนในใจ แต่ไม่รู้ว่าจะลงใน ETF ตัวไหนดี ลองศึกษานโยบาย Thematic เพิ่มเติมเพื่อดูว่าในบรรดาธีมเมกะเทรนด์ทั้ง 23 ธีมที่เราคัดเลือกมา มีธีมไหนตรงใจคุณบ้างหรือไม่ แนบลิงก์ไว้ในคอมเมนต์ครับ  

หุ้นที่ตกลงไปนั้นอาจต้องใช้เวลา แต่หากคุณมีพอร์ตส่วนหนึ่งที่ยังคงเติบโต ก็จะทำให้คุณมีเวลาที่จะรอมากขึ้น อย่าง YG ก็อย่าลืมว่าบริษัทเองก็ยังมีศิลปินกลุ่มอื่นอีกมากมาย รวมทั้งบริษัทก็ยังคงดำเนินงานและมีรายได้อยู่

ในระยะยาว ราคาหุ้นที่ตกลงไปจากเหตุการณ์ในระยะสั้นก็มีโอกาสกลับขึ้นมาทำกำไรได้ อย่างเช่นปัจจุบันที่ก็กลับขึ้นมาแล้ว

สุดท้ายการมีสติที่มั่นคง เป็นเรื่องที่ดีเสมอ หุ้นที่คุณมั่นใจว่าศึกษามาเป็นอย่างดี ก็ใช่ว่าในอนาคตจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง…

เมื่อเกิดเหตุการณ์ ให้กลับมาคิดวิเคราะห์และทบทวนใหม่อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจขายหรือทำอะไร

ให้สมองได้เลือกหุ้นที่มีคุณภาพดี และหัวใจได้ลงทุนในอะไรที่คุณรัก แล้วเติบโตไปกับการลงทุนระยะยาวอย่างมีความสุข 

ผู้เขียน: ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth

บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน

เจาะกลโกง แชร์ลูกโซ่ BERNIE MADOFF โคตรปีศาจแห่ง WALL STREET

ย้อนเวลาสู่อาณาจักรโรมัน…ตามล่าบทเรียนวิกฤติการเงินเขย่าโลก

3 หนังสือน่าอ่าน ปูพื้นฐานสู่นักลงทุนสาย VI

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ