TH | EN
TH | EN
หน้าแรกThe Movementไมโครซอฟท์ จับมือ มธ. ใช้เทคโนโลยียกระดับทักษะดิจิทัลด้านภาษา และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

ไมโครซอฟท์ จับมือ มธ. ใช้เทคโนโลยียกระดับทักษะดิจิทัลด้านภาษา และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

ไมโครซอฟท์ ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการอบรม ASEAN Cybersecurity Skilling (ACSP)  สร้างเสริมทักษะที่จำเป็นในการทำงานให้กับเยาวชน กลุ่มนักเรียน นักศึกษาไทยกว่า 54,000 คน อันจะกลายมาเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะก้าวเข้ามาพัฒนาประเทศในอนาคต

ยกระดับทักษะดิจิทัลทางด้านภาษาให้คนไทย ด้วย AI ที่ใช้งานและวัดผลได้จริง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไมโครซอฟท์ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งถือเป็นสถาบันภาษาแห่งแรกในประเทศไทย ที่ร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในการนำเทคโนโลยีทางด้านการศึกษา ทั้งนวัตกรรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่อยู่ใน Microsoft Teams for Education เช่น Reading Progress มาช่วยพัฒนาทักษะด้านการอ่านภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียน

โปรแกรมถูกออกแบบมาเพื่อให้ทั้งผู้สอนและผู้เรียนสามารถใช้งานร่วมกัน จนเกิดเป็นการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ มีการนำเทคโนโลยี AI อันชาญฉลาดมาช่วยวัดผลสำเร็จของการศึกษาได้จริง เกิดเป็นมิติใหม่ของการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ

โดยในปีแรกตั้งเป้าหมายเป็นการสร้างทักษะการเรียนรู้ด้าน English and Digital Literacy ให้กับคนไทยจากทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อการก้าวข้ามขีดจำกัดในการเรียนภาษาด้วยเทคโนโลยีจากไมโครซอฟท์ที่ตอบโจทย์ผู้เรียนอย่างแท้จริง

Reading Progress จะสามารถสร้างโอกาสในการเรียนรู้เสริมความคล่องทางภาษา เมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ และยังมีประสิทธิภาพ เสมือนเทรนเนอร์ที่คอยบอกให้ผู้เรียนปรับปรุงการออกเสียงพร้อมแนะนำได้อย่างแม่นยำ มีคอร์สต่างๆ ที่สามารถจัดทำขึ้นมาตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อผู้เรียนอย่างมี structure และ นำ AI มาช่วยอ่านแม้กระทั่งรูปปากในการออกเสียงช่วยประหยัดเวลาในการเรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้นรวมถึงผู้สอนเองหรือองค์กรระดับใหญ่ทางด้านการศึกษาก็จะได้ทราบข้อมูลเชิงลึกของผู้เรียนแต่ละคน เพื่อจะได้รู้ว่าความสามารถของผู้เรียนทั้งหมด ข้อดีและจุดที่ต้องเสริมของแต่ละคนจากข้อมูลเชิงลึกที่มาจากข้อมูลจริง

รองศาสตราจารย์ ดร.สุพงศ์ ตั้งเคียงศิริสิน ผู้อำนวยการสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “ความร่วมมือกับไมโครซอฟท์นับเป็นการเดินหน้าสู่ความสำเร็จตามเป้าประสงค์ทางกลยุทธ์ของสถาบันภาษา ในการนำนวัตกรรมเข้ามาพัฒนาการเรียนรู้ทางด้านทักษะภาษาอังกฤษด้วย Artificial Intelligence (AI) จะเข้ามาช่วยขยายความสามารถด้านการเรียนการสอน และขีดจำกัดในการเรียนรู้แบบ Lifelong Learning 

นอกจากนี้ยังใช้เป็นศูนย์กลางทางความรู้และบริการวิชาการที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยเทคโนโลยีให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน 40,000 คน และบุคคลภายนอก จำนวน 10,000 คน ซึ่งตอบโจทย์สอดคล้องกับหนึ่งในเป้าประสงค์ทางกลยุทธ์ของสถาบันภาษาคือ English for All”

ชนิกานต์ โปรณานันท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจภาครัฐและการศึกษา บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์มองเห็นว่าภาคการศึกษามีการปรับตัวเป็นอย่างมาก และเทคโนโลยีถูกนำมาประยุกต์ใช้ในทุกมิติของการเรียนการสอนในปัจจุบัน การร่วมมือกับสถาบันภาษาโดยนำ Reading Progress ใน Microsoft Teams for Education ที่ใช้ AI มาพัฒนาการเรียนการสอนจะทำให้เกิดผลลัพธ์ทางด้านภาษาที่ดียิ่งขึ้น จะไม่เพียงเข้ามาเสริมสร้างทักษะและพัฒนาประสบการณ์ด้านการเรียนรู้แก่นักศึกษา แต่ยังช่วยเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาการเรียนการสอนองค์รวมอีกด้วย

ปัจจุบันความหลากหลายทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสังคม ผลักดันให้ผู้เรียนต้องสื่อสารได้มากกว่าหนึ่งภาษา การสอนภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องได้รับการสนับสนุนเพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ไมโครซอฟท์จึงอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ภาคการศึกษาที่เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ดียิ่งกว่าด้วยพลังของเทคโนโลยี สอดรับกับเป้าหมายของไมโครซอฟท์ในการเป็น Technology for All ที่ช่วยสร้างทักษะดิจิทัลให้กับคนไทย จนเกิดเป็น New S-curve ในการพัฒนาประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0”

จัดทำโครงการ ASEAN Cybersecurity Skilling (ACSP) เพื่ออบรมเยาวชน

ไมโครซอฟท์เล็งเห็นว่าความปลอดภัยด้านไซเบอร์เป็นตัวแปรสำคัญต่อการนำพาประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่ง​​การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยด้านดิจิทัลมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างความรู้พื้นฐานในการรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ในปัจจุบันมีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย

ไมโครซอฟท์จึงได้จัดทำโครงการ ASEAN Cybersecurity Skilling (ACSP) เพื่ออบรมเยาวชนโดยเฉพาะผู้หญิงจำนวน 30,000 คนใน 7 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา

สำหรับประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 4,000 คนที่จะได้รับการอบรมจากวิทยากรด้วยเนื้อหาการอบรมระดับต้นจากไมโครซอฟท์ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนหันมาสนใจพัฒนาทักษะด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ การอบรมครั้งนี้จะเป็นการสอนให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เบื้องต้น ผ่านคุณครูจำนวน 80 คน โดยได้เปิดตัวโครงการและอบรมคุณครูในประเทศไทย วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และถ่ายทอดผ่าน Microsoft Teams ไปยังวิทยากรทั่วประเทศ โดยไมโครซอฟท์ได้เชิญพลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ มาร่วมกล่าวเปิดงาน

“ในฐานะตัวแทนจากหน่วยงานที่ขับเคลื่อนประเทศตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ที่สนับสนุนและเร่งพัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เล็งเห็นว่าการสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์นั้นมีความสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะการเริ่มปลูกฝังการพัฒนาทักษะในกลุ่มเยาวชนนักเรียน นักศึกษา ที่นับเป็นกลุ่มที่สนใจเรียนรู้ภัยไซเบอร์มากที่สุดในประเทศไทย

ความร่วมมือครั้งนี้กับไมโครซอฟท์ในโครงการ ASEAN Cybersecurity Skilling จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเยาวชนรวมถึงผู้หญิง ผู้ด้อยโอกาส สตรีเพศสภาพ และผู้พิการ ในการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยไซเบอร์ ขยายขอบเขตการเรียนรู้ เพื่อบ่มเพาะความสามารถเปิดโอกาสเข้าสู่ตลาดแรงงานในอนาคตได้เป็นอย่างดี การเรียนรู้ด้านความปลอดภัยด้านไซเบอร์ในครั้งนี้นับเป็นการสานต่อเป้าหมายในการนำความรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เข้ามาขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐให้เข้มแข็ง โดยมีเป้าหมายคือการสร้างบุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมทางด้าน Cyber Security Skill ในประเทศให้ได้มากที่สุด ซึ่งบุคลากรถือเป็นหนึ่งฟันเฟืองสำคัญและกำลังหลักในพัฒนาสังคมและประเทศชาติได้อย่างแข็งแกร่ง” พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ กล่าว

สุภาณี อนุวงศ์วรเวทย์ กรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฎิบัติการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์มีความมุ่งมั่นในการนำดิจิทัลเข้ามาเสริมทักษะให้กับทุกคน ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงทักษะดิจิทัลที่ใช้งานได้จริงและเพิ่มมูลค่าให้กับหน้าที่การงานและการดำรงชีวิตของทุกคน พร้อมปรับตัวรับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในยุคดิจิทัล และสามารถนำมาใช้เป็นพื้นฐานในบ่มเพาะความสามารถและสร้างงานสร้างอาชีพในอนาคต

สายงานทางด้าน Cyber security นั้นเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดงาน ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการต่อยอดนำเอาความรู้ไปสร้างงานให้กับตนเองและผู้อื่นได้ ดิฉันต้องขอขอบพระคุณหน่วยงานและพันธมิตรทุกราย กับความร่วมมือในครั้งนี้ ดิฉันเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ด้านภาษาและด้านความมั่นคงด้านไซเบอร์ได้อย่างเป็นรูปธรรม และจะเติมเต็มความตั้งใจของเรากับเส้นทางการสร้างทักษะเชิงดิจิทัลให้กับคนไทย พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้ประเทศไทยไปด้วยกันอย่างแข็งแกร่ง”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Stripe แพลตฟอร์มรับชำระเงิน และผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินระดับโลก เปิดให้บริการในไทยแล้ว

AXONS เตรียมเปิดตัวเป็น “โอเพ่น แพลตฟอร์ม” เปิดโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยีเกษตร

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ