TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessผู้บริหาร bitkub โพสต์เฟสบุ๊คชี้แจง กรณีถูกปรับจาก ก.ล.ต.

ผู้บริหาร bitkub โพสต์เฟสบุ๊คชี้แจง กรณีถูกปรับจาก ก.ล.ต.

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา สกลกรย์ สระกวี ประธานกรรมการบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ประกาศผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจ Bitkub หรือ ‘บิทคับ เอ็กเช้นจ์’ ในกรณีถูกปรับจาก ก.ล.ต. เรื่องการสร้างปริมาณซื้อขายเทียมในศูนย์ซื้อขายฯ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เป็นช่วงดำเนินธุรกิจในระยะเริ่มต้นและยังไม่มีความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนชัดเจนในกฎเกณฑ์ที่ตั้งมาใหม่เช่นกัน โดยมีใจความว่า

“สืบเนื่องจากประกาศของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กรณีการเปรียบเทียบปรับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (“บริษัทฯ”) จากการที่ผู้ดูแลสภาพคล่อง หรือ Market Maker ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทฯ  ได้ดำเนินการจับคู่ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ในบัญชีซื้อขายของ Market Maker ในปี 2562 อันทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น

บริษัทฯ ขอกราบเรียนว่า วัตถุประสงค์ของการมี Market Maker ณ ขณะนั้น เป็นไปเพื่อดูแลสภาพคล่องในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทฯ ที่เพิ่งเปิดดำเนินการไม่นาน ให้มีราคาซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใกล้เคียงกับราคาตลาดโลก โดยมีความมุ่งหมายเพื่อประโยชน์ของลูกค้าในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น ทั้งนี้ โดยจากการตรวจสอบ Market Maker เพียงแต่ทำการส่งราคาซื้อขายให้สอดคล้องกับทิศทางของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดโลก ณ ช่วงเวลานั้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อบริษัทฯ ได้รับทราบข้อมูลจากสำนักงาน ก.ล.ต.” ถึงการกระทำข้างต้น บริษัทฯ จึงได้ตรวจสอบ ยับยั้ง สั่งยุติการส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของ Market Maker ที่มีลักษณะดังกล่าวรายดังกล่าวตั้งแต่ปี 2562 และบริษัทฯ ก็ได้ทำการพัฒนาระบบเพื่อป้องกันการจับคู่กันเองของคำสั่งซื้อขายที่ส่งมาจากบัญชีเดียวกันเสร็จสิ้นแล้วเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในอนาคต

นอกจากนี้บริษัทฯ ได้จัดตั้งทีม Market Surveillance เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม เช่น การส่งคำสั่งซื้อขายจับคู่กันเองจากหลายบัญชีของผู้ไม่หวังดีเพื่อดูแลให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทฯ ดำเนินการไปตามกลไกตลาดภายใต้มาตรการป้องกันและการตรวจสอบการส่งคำสั่งซื้อขายที่ผิดปกติในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทฯ และได้มีการรายงานสำนักงาน ก.ล.ต. ให้ทราบมาโดยตลอด บริษัทฯ จึงขอให้ลูกค้า นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านเชื่อมั่นและวางใจว่า บริษัทฯ ได้มีมาตรการป้องกันและการตรวจสอบและได้ใช้ความระมัดระวังอย่างถึงที่สุดในการประกอบกิจการ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

บริษัทฯ ขอเรียนว่า บริษัทฯ ไม่มีเจตนากระทำผิดกฎหมายและไม่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการส่งคำสั่งซื้อขายของ Market Maker แต่อย่างใด โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประกอบธุรกิจด้วยความสุจริตตามหลักบริษัทภิบาลและตามกฎหมาย โดยถือเอาประโยชน์ของลูกค้าและนักลงทุนเป็นสำคัญ ทั้งยังใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดในการกำกับดูแลและตรวจสอบให้ผู้ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังและเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทฯ จะยังคงยึดมั่นหลักการดังกล่าวในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไปในอนาคต

จากนั้นได้มีการเปิดเผยผ่านเฟสบุ๊คบัญชี Sakolkorn Sakavee ซึ่งเป็นบัญชีเฟสบุ๊คส่วนตัวของ สกลกรย์ สระกวี ใจความว่า

“ผมขอชี้แจงกรณี โดน ก.ล.ต. สั่งปรับ และสั่งห้ามเป็นผู้บริหาร 12 เดือน หน่อยนะครับ การถูกปรับครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ปี 2562 หรือ 2019 กลต เข้ามาตรวจบริษัท Bitkub Online หลังจากได้ License ณ ขณะนั้นมี Exchange 3 เจ้า BX, Bitkub, Satang ณ ขณะนั้นวงการคริปโตใหม่มาก พึ่งจะได้ License กัน ผมเชื่อว่าการกระทำ การสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ เป็นสิ่งที่ Exchange ทั่วโลก ณ เวลานั้น มีระบบพวกนี้เกือบหมด จึงทำให้มีความผิดพลาด และความไม่เข้าใจกฏเกณอย่างถี่ถ้วน จากทั้ง Bitkub และ Satang (ไม่ขอพาดพิง BX เพราะปิดไปแล้ว)

และเมื่อเราโดน ก.ล.ต. เข้ามาตักเตือน และสั่งหยุด และเราก็ยอมรับ และหยุดการกระทำตั้งแต่ ก.ล.ต. เข้ามา พร้อมทั้งมีการติดตั้งระบบป้องกันการจับคู่กันเองของคำสั่งซื้อขายที่ส่งมาจากบัญชีเดียวกัน และ มีทีม Market Surveillance เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม เช่น การส่งคำสั่งซื้อขายจับคู่กันเองจากหลายบัญชี โดยเร็วที่สุดตั้งแต่นั้นมา

สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อเหลือเกินว่า การที่ก.ล.ต.ได้สั่งปรับ และยกเรื่องนี้เป็นสำคัญ หลังจากผ่านมา 3 ปี มาแล้วนั้น เพื่อเป็นการยกระดับการกำกับดูแลที่เข้มข้น เข้มงวดขึ้น ซึ่งผมหวังว่ามาตราฐานที่ดีเช่นนี้ จะเป็นการกระทำที่ไม่เจาะจง เพียง Exchange บางราย แค่ Bitkub หรือ Satang แต่ ก.ล.ต. จะเข้าตรวจสอบทุกเจ้าที่มี License อยู่ในปัจจุบันด้วย เพราะผมเชื่อว่า เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ผู้ประกอบการท่านอื่นก็จะยินดีให้ทางก.ล.ต.เข้าไปตรวจสอบเช่นกันครับ

ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น จนถึงปัจจุบัน ผ่านมา 3 ปี Bitkub ไม่เคยปั้ม Volume trade รายได้ และภาษีที่ Bitkub จ่าย เมื่อปีที่แล้วเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

ผมยังคงสู้อยู่ และดูแลภาพรวมของกลุ่ม Bitkub เช่นเดิม  ยังมีอะไรให้เราต้องพัฒนาอีกมากมาย หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจและ เชื่อมั่นใน Bitkub ต่อไปครับ”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

แลกกันหมัดต่อหมัด ระหว่าง “AIS” กับ “TRUE”

ESG เครดิต: หมุดหมายใหม่แห่งความยั่งยืน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ