TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistการเมือง "Old Normal" ซ้ำเติม "วิกฤติเศรษฐกิจ"

การเมือง “Old Normal” ซ้ำเติม “วิกฤติเศรษฐกิจ”

บรรยากาศการเมืองในบ้านเราช่วงนี้ยอมรับว่ากำลังวิกฤติจริง ๆ ยิ่งการลอกคราบของแต่ละพรรค ไม่ว่าจะเป็น “พลังประชารัฐ” ชัดแจ๋วแหว๋วแล้วว่า “ลุงป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ์ เจ้าของพรรคตัวจริงจะมาทวงพรรคคืน พร้อมแบ๋ไต๋ชื่อ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย นั่งตำแหน่งแม่บ้าน ว่ากันกว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะไม่มีชื่อ 4 กุมาร “อุตตม-สนธิรัตน์-สุวิทย์-กอบศักดิ์” อยู่ในโผ

ในซีกประชาธิปัตย์ก็ไม่เบาแม้จะไม่โฉ่งฉ่างอย่างพลังประชารัฐแต่ก็มีคลื่นใต้น้ำเรียกร้องให้มีการปฏิรูปพรรคกระทั่งเลยไปถึงให้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่ นั่นแปลว่า อาจจะไม่ใช่ “จุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์” กับ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เป็นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคอีกต่อไป

แต่ที่ “เซอร์ไพรส์” มาแรงแซงโค้งก็พรรครวมพลังประชาชาติไทยของ “ลุงกำนัน” เมื่อนอมินีอย่าง “หม่อมเต่า” จัตุมงคล โสณกุล ยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรคแบบช็อกคนในวงการเมืองข่าววงในบอกว่าเพราะทนใบสั่งจากคนนอกพรรคไม่ไหวแต่ก็ยังนั่งเก้าอี้ “จับกัง1” รัฐมนตรีแรงงานต่อไปแต่เชื่อว่าเรื่องคงไม่หยุดแค่นี้แน่ ๆ เพราะลุงกำนันเตรียมดัน “ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์” เสียบแทน

ปรากฏการณ์ชุลมุนฝุ่นตลบที่เกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ออกจะหนักไปทาง “โอลด์ นอร์มอล” แบบถอยหลังลงคลองหลายสิบปีสวนทางกับบรรยากาศความเป็นไปทางเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในห้วงเวลาที่เรียกว่าวิกฤติอย่างหนักหน่วงถึงขั้น “เผาจริง”

ดัชนีสะท้อนจากคนกำลังจะตกงานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากธุรกิจสายป่านขาดต้องปิดกิจการคาดว่าอาจจะมีคนตกงานถึง 8 ล้านคน บัณฑิตย์จบใหม่ 5.4 แสนคนต้องเตะฝุ่น “หนี้ครัวเรือน” ที่พอกหางหมูมาตั้งแต่ก่อนโควิดสูงแตะ ๆ 80% ของจีดีพี ถึงตอนนี้น่าจะทะลุเพดานไปแล้ว

แต่ระเบิดเวลาที่น่าห่วงที่สุดเมื่อมีคนที่ไม่ได้ชำระหนี้ 3-6 เดือนตาม “นโยบายพักชำระหนี้” ของรัฐบาลอยู่ 15 ล้านคน นับเป็นมูลหนี้ 6.7-6.8 ล้านล้านบาท หรือคือประมาณ 1 ใน 3 ของหนี้ทั้งหมดของระบบธนาคารซึ่งเดือนตุลาคมจะครบกำหนด คาดว่าในนี้จะมีหนี้เสียราว ๆ 7-8% ระเบิดเวลาลูกนี้ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลเตรียมจะถอดสลักอย่างไร

กลับมามองในแง่รายได้เข้าประเทศตอนนี้ก็ต้องรอไปก่อน เพราะบรรดาเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าอเมริกา จีน ญี่ปุ่น อินเดีย กลุ่มประเทศในยุโรป เกือบจะเรียกว่า “เครื่องยนต์ดับสนิท” ไม่เหลือแม้แต่เครื่องเดียวที่จะมีกำลังพอจะชักลากเศรฐกิจให้ขยับเขยื้อนได้บ้าง ก็คงจะเหลือแต่ “เครื่องยนต์เมดอินไทยแลนด์” ไม่ว่าการลงทุนโดยภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชนและการบริโภคภายในประเทศจะมาทดแทนการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ปั๊มเงินจากนอกประเทศสร้างรายได้เข้าประเทศมาโดยตลอด

เหนือสิ่งใด เวลานี้คงต้องหันมาพึ่งการท่องเที่ยวในประเทศและทำมาค้าขายกันเองไปพลาง ๆ ล่าสุดรัฐบาลก็เพิ่งอัดงบฯ 2.2 หมื่นล้านหว่านเงินปลุกท่องเที่ยวในประเทศโครงการไทยเที่ยวไทย 3 แพ็กเกจมีสารพัดรูปแบบ ทั้งให้เที่ยวฟรี-ช่วยจ่ายค่าโรงแรม ที่พัก- ตั๋วเครื่องบิน 40% มีเอ็กซ์ตร้าให้จ่ายในร้านอาหาร-สถานที่ท่องเที่ยว คาดสร้างรายได้ทั้งทางตรง-ทางอ้อม 7 หมื่นล้านแต่จะเป็นจริงดังฝันหรือไม่ก็คงต้องคอยดูกันต่อไป

ภายใต้สภาวะที่ การเมือง ยังคงเป็น “โอลด์ นอร์มอล” แต่ เศรษฐกิจที่กำลังจะลอกคราบเป็น “นิวนอร์มอล” ยังเดินขากะเผลก ๆ อย่างนี้จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ลำพังโฉมหน้าครม.และ “ทีมเศรษฐกิจชุดนี้” ไม่รู้ว่าจะรับมือวิกฤติเศรษฐกิจหลังควิด-19 ไหวหรือไม่

ถ้าการจัดขบวนทัพ “ครม.ชุดใหม่” ก้าวข้าม “โอลด์ นอร์มอล” ทางการเมืองไปได้ เอาคนมีความรู้ความสามารถมาช่วยกู้เศรษฐกิจได้อย่างสอดคล้องกลมกลืนกันจริง ๆ ก็ต้องถือว่า โชคดี แต่ถ้าปรับครม.เที่ยวนี้รูปร่างหน้าตาออกมาออกไปทางอัปลักษณ์อย่างที่เป็นข่าวก็แทบไม่ต้องคาดเดาชะตากรรมว่าอนาคตประเทศจะไปในทิศทางใด

คงต้องดูกันต่อไปว่าเศรษฐกิจและการเมืองหลังจากนี้จะไปเป็นอย่างไรจะเป็นความโชคร้ายหรือโชคดีของประเทศ

ทวี มีเงิน

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

-พิรุธ “เสือหิว” จ้องถลุงงบฟื้นศก.4 แสนลบ. “ชงเองกินเอง”
-เงินล่องหน … กับ New Normal
-“ระเบิดเวลา” เศรษฐกิจ น่ากลัวกว่าไวรัสโควิด-19
-เศรษฐกิจไทย บนบ่าของ “คนชั้นกลาง”
-วิกฤติครั้งนี้หนักกว่า “ต้มยำกุ้ง”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ