แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีหลายปัจจัยที่เข้ามากดดันเศรษฐกิจจีนอย่างต่อเนื่องให้ชวนใจหาย อาทิสถานการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแล้วยังไม่ได้ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้
GDP ในไตรมาส 2/2023 ขยายตัวที่ 6.3%YoY ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และในไตรมาสที่ 3/2023 ขยายตัวที่ 4.9%YoY ทว่าตัวเลขดังกล่าวนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงเมื่อเทียบกับเป้าหมายในปี 2023 ของรัฐบาลจีนที่ตั้งไว้ที่ 5%
โดยนักวิเคราะห์ของหลักทรัพย์บัวหลวง คาดการณ์ไว้ว่า GDP น่าจะแตะเป้าหมายของรัฐบาลได้จากความพยายามของรัฐบาลจีนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การอนุมัติขยายงบประมาณกลางรอบกลางปี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1998 ในวงเงิน 1 ล้านล้านหยวน(คิดเป็น 0.8% ของ GDP) โดยถูกจัดสรรไว้สำหรับไตรมาส 4/2023 และปี 2024 รวมทั้งทิศทางนโยบายของจีนที่มีการสนับสนุนเอกชนในภาคเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม, การผ่อนคลายการจัดระเบียบหุ้นขนาดใหญ่ เป็นต้น
ประกอบกับการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ (Valuation) ที่สะท้อนภาพรวมตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกง ได้แก่ ดัชนี Hang Seng ประกอบด้วย บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนและฮ่องกงที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงจำนวน 80 ตัว เช่น Tencent, Alibaba, Meituan, AIA ปัจจุบันมีค่า Forward P/E อยู่ที่ 7.72 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับที่ถูกเมื่อเทียบกับ Fair Value (ค่าเฉลี่ย P/E ย้อนหลัง 5 ปี) ที่อยู่ 10.50 เท่า รวมทั้ง Forward EPS หรือ กำไรต่อหุ้น คาดการณ์ในอนาคตได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
แสดงให้เห็นว่า ดัชนีมีโอกาสเติบโตและสร้างกำไรสุทธิให้แก่นักลงทุนได้มากขึ้นตามเวลา นอกจากนี้ยังช่วยจำกัดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายของจีน เนื่องจากดัชนีประกอบไปด้วยหุ้นฮ่องกงราว 33% มาช่วยถ่วงน้ำหนัก
รูปแสดงดัชนี Hang Seng (เส้นสีเหลือง) Forward EPS (เส้นสีแดง) และ Forward P/E (เส้นสีน้ำเงิน) ของ ดัชนี Hang Seng
นอกจากดัชนี Hang Seng แล้วยังมีดัชนี Hang Seng China Enterprises ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้สะท้อนภาพรวมบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง จำนวน 50 ตัว ประกอบด้วย บริษัทชั้นนำ เช่น Tencent, Alibaba และ China Mobile เป็นต้น โดยปัจจุบันดัชนี Hang Seng China Enterprise มีค่า Forward P/E อยู่ที่ 6.79 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับถูกเช่นกัน เมื่อเทียบกับ Fair Value (ค่าเฉลี่ย P/E ย้อนหลัง 5 ปี) ที่ 8.50 เท่า นอกจากนี้การที่ดัชนีมีสัดส่วนบริษัทรัฐวิสาหกิจ (SOE) ของจีนถึง 42% ส่งผลให้ดัชนีมีโอกาสที่จะได้ประโยชน์จากแผนปฏิรูปธุรกิจประเภท SOE ในระยะยาวของรัฐบาลจีน
จากมุมมองทั้งในด้านเศรษฐกิจมหาภาค และมูลค่า (Valuation) ของดัชนีทั้ง 2 ดังที่กล่าวไปข้างต้น รวมทั้งการที่ดัชนี Hang Seng มีแนวโน้มเคลื่อนไหวได้ดี เมื่อเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) แข็งค่า เมื่อเทียบกับเงินหยวน (CNY) ในขณะที่ดัชนี Hang Seng China Enterprise มีแนวโน้มเคลื่อนไหวได้ดี เมื่อเงินหยวน (CNY) แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) ทำให้นับเป็นโอกาสดีในการเริ่มสะสมหรือกระจายพอร์ตลงทุนไปยังหุ้นจีน-ฮ่องกง เพื่อบริหารความเสี่ยงของพอร์ตและสร้างโอกาสเก็บเกี่ยวผลกำไร โดยการลงทุนผ่าน ดัชนี Hang Seng และ Hang Seng China Enterprises ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจจีนและฮ่องกงในระยะยาว
รูปแสดงดัชนี Hang Seng China Enterprise (เส้นสีเหลือง) Forward EPS (เส้นสีแดง) และ Forward P/E (เส้นสีน้ำเงิน) ของ ดัชนี Hang Seng China Enterprise
หากพูดถึงหลักการลงทุนที่เหมาะกับการออมสะสมหรือการลงทุนระยะยาว หลักการลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging (DCA) หรือการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน น่าจะเป็นสิ่งแรกที่เหล่านักลงทุนต่างนึกถึง เนื่องจากการลงทุนแบบ DCA คือ การซื้อหุ้นอย่างสม่ำเสมอแบบเป็นงวด ๆ ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันโดยไม่สนใจราคาทำให้ตัดปัญหาเรื่องการจับจังหวะราคาเข้าซื้อที่บางทีก็ยากจะคาดการณ์ ทั้งยังเป็นวิธีการที่เหมาะสมในการทยอยสะสมช่วงที่หุ้นอยู่ในโซนราคาถูก เนื่องจากราคาหุ้นมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นหรือลงต่อก็ได้ ทำให้การ DCA จะช่วยลดความเสี่ยงหากราคาหุ้นปรับตัวลงต่อ อีกทั้งยังสามารถช่วยให้ต้นทุนราคาหุ้นเฉลี่ยของนักลงทุนต่ำลงได้
นอกจากการเลือกวิธีการลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนแล้ว การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งหากเลือกทั้งวิธีการและหลักทรัพย์ที่จะลงทุนได้ถูกต้อง ถึงแม้จะเริ่มลงทุนตอนสภาวะตลาดอยู่ในช่วงขาลงก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนของพอร์ตเป็นบวกได้ในระยะยาวหากดูจากสถิติการเปลี่ยนแปลงราคาดัชนีที่เป็นตัวแทนของตลาดในระยะยาวตลาดมักจะเคลื่อนไหวเป็น Sideway Up หรือ Sideway โดยมีขนาดการแกว่งตัวในทิศทางบวกมากกว่าในทิศทางลบ ทำให้การลงทุนที่คาดหวังเพียงผลตอบแทนที่ใกล้เคียงดัชนีก็สามารถสร้างกำไรในระยะยาวให้แก่นักลงทุนได้ และยังทำให้การลงทุนในหลักทรัพย์อย่าง ETF (Exchange Traded Fund) หรือกองทุนรวมดัชนี ที่เสมือนได้ลงทุนกระจายหลักทรัพย์ตามดัชนี ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทชั้นนำหลายแห่งได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากมีต้นทุนทางการเงินที่ไม่สูงมาก และไม่ต้องมานั่งวิเคราะห์งบการเงินของแต่ละบริษัทก็สามารถลงทุนพร้อมสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ล้อไปกับดัชนีนั้น ๆ ได้
รูปแสดงดัชนี Hang Seng ตั้งแต่ปี 1987-2023
นักลงทุนสามารถลงทุนใน ดัชนี Hang Seng และ ดัชนี Hang Seng China Enterprise ผ่านระบบออมหุ้นอัตโนมัติของหลักทรัพย์บัวหลวง ในกลยุทธ์ DCA 009 หรือ VA 009 ที่มีนโยบายลงทุนใน DR HK01 โดยมีหลักทรัพย์อ้างอิง คือ Tracker Fund of Hong Kong ETF (2800) ซึ่งเป็น ETF ที่ลงทุนอ้างอิง ดัชนี Hang Seng และ กลยุทธ์ DCA 010 หรือ VA 010 ที่มีนโยบายลงทุนใน DR HKCE01 โดยมีหลักทรัพย์อ้างอิง คือ Hang Seng China Enterprise Index ETF (2828) ซึ่งเป็น ETF ที่ลงทุนอ้างอิง ดัชนี Hang Seng China Enterprise
โดยความพิเศษของการลงทุนในกลยุทธ์ DCA และ VA กับหลักทรัพย์บัวหลวง คือ เราจะบริหารพอร์ตของนักลงทุนด้วยการแบ่งเงินลงทุนซื้อหุ้นด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันเป็นรายวัน สำหรับการลงทุนในกลยุทธ์ DCA หรือแบ่งเงินลงทุนซื้อหุ้นในทุก ๆ วัน โดยมีการควบคุมมูลค่าพอร์ตให้เป็นไปตามมูลค่าเป้าหมาย สำหรับการลงทุนในกลยุทธ์ VA ดังนั้นด้วยความถี่ในการซื้อหุ้นที่มากกว่า จึงกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าการ DCA แบบทั่ว ๆ ไป ที่เป็นการแบ่งเงินลงทุนซื้อหุ้นด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันเป็นรายเดือนหรือรายสัปดาห์ อีกทั้งกลยุทธ์ DCA และ VA ของหลักทรัพย์บัวหลวง มีการนำระบบคอมพิวเตอร์มาช่วยในการคำนวณสัดส่วน และส่งคำสั่งซื้อ-ขายให้นักลงทุนแบบอัตโนมัติ ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าจะได้เฉลี่ยต้นทุนราคารวมทั้งประหยัดเวลาในการคอยติดตามส่งคำสั่งซื้อหุ้นด้วยตนเอง ช่วยให้นักลงทุนรักษาวินัยการลงทุนได้อย่างต่อเนื่องและสามารถไปสู่เป้าหมายการลงทุนได้อย่างมั่นคงและมั่นใจ
สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจลงทุนกลยุทธ์ DCA และ VA สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นออนไลน์ และยืนยันตัวตนด้วย NDID หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยสามารถดำเนินตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- Step 1 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ DCA และ VA คลิก https://bls.tips/introduction-dca-va
- Step 2 เลือกกลยุทธ์การลงทุนของ DCA และ/หรือ VA ที่เหมาะกับท่าน
- Step 3 ติดต่อผู้แนะนำการลงทุนของท่าน หรือ BLS Customer Service โทร. 0-2618-1111 เพื่อสมัครบริการ หรือสมัครบริการด้วยตนเองได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ คลิก https://bls.tips/DCA_VA_applyonline
บทความอื่น ๆ ของผู้เขียน
ชวนสแกนธีมหุ้นนอกเด่น น่าลงทุน ปี 2566
