TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ วอนช่วยรักษาบรรยากาศการเมือง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ วอนช่วยรักษาบรรยากาศการเมือง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

สัปดาห์ก่อนหน้า ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ฯ ออกมาให้ข่าวประเด็นสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจปีนี้ว่า สภาพัฒน์ฯให้น้ำหนักกับการรักษาบรรยากาศทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ เพราะจะมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการรักษาบรรยากาศทางการเมืองในปีนี้ ไม่ให้มีความขัดแย้งที่รุนแรง

เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ยังระบุด้วยว่าความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์การเมืองที่เกิดขึ้นในหลายภูมิภาค ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่เนื่องจากปีนี้บ้านเรามีการเลือกตั้ง ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนออกไปบางส่วน แต่เชื่อว่าหากสามารถรักษาบรรยากาศทางการเมืองในปีนี้ไม่ให้มีความขัดแย้งที่รุนแรงได้ ภายหลังการเลือกตั้งนักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนทำให้มีเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มขึ้น 

คำกล่าวของเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ไม่ต่างจากคำวิงวอนที่สื่อตรงถึงผู้มีส่วนได้เสียทางการเมือง ตั้งแต่ผู้ถืออำนาจ นักการเมือง นักเคลื่อนไหว ทุนที่อยู่เบื้องหลัง จนไปถึงปลายทางประชานชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศการเมืองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

พูดถึงเรื่องการลงทุน ก่อนหน้านี้ เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ออกมาแถลงว่า การบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาคปีนี้ให้ความสำคัญ 8 เรื่อง ไล่เรียงจาก หนึ่ง แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและเอสเอ็มอี สอง ดูแลการผลิตภาคเกษตรและรายได้เกษตรกร สาม รักษาแรงขับเคลื่อนการส่งออก สี่ สนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ห้า ส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน หก ขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐควบคู่ไปกับการเพิ่มพื้นที่การคลัง เจ็ด ติดตามเผ้าระวังความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก และ ข้อแปด รักษาบรรยากาศทางเศรษฐกิจและการเมือง

การออกมาวิงวอนอย่ามีความขัดแย้งรุนแรง โดยเชื่อมโยงกับการลงทุนของเลขาฯ สศช. คงเป็นวิธีการบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาคอย่างหนึ่ง   น่าสนใจว่าในประเด็นส่งเสริมการลงทุน ที่เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ประกาศเคลียร์ปัญหาและอุปสรรคไว้หลายข้อ อาทิ เร่งให้ผู้ที่ได้รับบีโอไอในช่วงปี 2564 – 2565 ให้เกิดการลงทุนจริง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมไปถึงการแก้ปัญหาขาดแลนแรงงาน อุปสรรคของนักลงทุน ส่งเสริมการลงทุนเชิงรุกเพื่อดึงนักลงทุนเข้า อีอีซี ฯลฯ

มาดูตัวเลขส่งเสริมการลงทุนล่าสุด ปี 2565 บีโอไอระบุมีการขอรับการส่งเสริม 2,119 โครงการ เพิ่มขึ้น 41% จากปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่า 664,635 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% ถือว่าสูงกว่าช่วงก่อนโควิด สำหรับยอดการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนมีทั้งสิ้น 1,554 โครงการ ลดลง 1% แต่มีมูลค่า 618,615 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% และการออกบัตรส่งเสริม จำนวน 1,490 โครงการ เพิ่มขึ้น 9% เป็นมูลค่า 489,088 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 21% 

แม้ตัวเลขขอบีโอไอดูดี แต่ตัวเลขการลงทุนจริงคงยังไม่ปัง เนื่องจากโครงการที่รับส่งเสริมไปแล้วหลายโครงการ ยังรี ๆ รอ ๆ ยิ่งในสถาการณ์ที่โลกเปลี่ยนเร็วและมีปัญหาภูมิศาสตร์ทางการเมืองในหลายส่วนของโลก สถานการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุให้เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ต้องออกมาวอนให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศทางการเมือง ไม่ให้นักลงทุนต่างชาติตกใจและชะลอการตัดสินใจลงทุนออกไป เพราะเจ้าของทุนคงหวังว่าทุนที่นำมาลงต้องปลอดภัยและให้ผลตอบแทนตามสมควร 

บรรยากาศทางการเมืองหลังเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรนั้น ยากคาดเดา เพราะหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แคนดิเดทเบอร์หนึ่งของ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ไปต่อก็แบบหนึ่ง หากไม่ใช่ก็อีกแบบหนึ่ง อย่างไรเสียไม่ว่าการเมืองหลังเลือกตั้งจะออกมาหน้าไหน โปรดฟังคำวิงวอนจากเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ด้วย

สำหรับเศรษฐกิจปีนี้ 2566 สภาพัฒน์ฯ คาดการณ์เอาไว้ว่าจีดีพีจะขยายตัวในช่วง 2-7-3.7% หรือเฉลี่ย 3.2% ดีกว่าปี 2565 ที่ขยายตัว 2.6% เล็กน้อย โดยมีแรงหนุนจากภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ ดังนี้ การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 3.2% การลงทุนขยายตัว 2.2 % การส่งออกติดลบ -1.6% อัตราเงินเฟ้อ 2.5-3.5% โดยภาคท่องเที่ยวรับบทนำเศรษฐกิจ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางเข้าไทยกว่า 28.5 ล้านคน การขยายตัวของการลงทุนภารรัฐและเอกชน การบริโภคของประชาชน เริ่มสูงขึ้น รวมทั้งอานิสงค์จากการเลือกตั้งที่มีการประเมินว่าเงินจะสะพัดราว  5 หมื่นล้านบาท ตามการประเมินของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิตและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  

ภาพเศรษฐกิจข้างต้นจะสดใสขึ้น หรือเปลี่ยนเป็นขมุกขมัว ขึ้นอยู่กับบรรยากาศการเมืองหลังการเลือกตั้งเป็นสำคัญ

ผู้เขียน: “ชญานิน ศาลายา” เป็นนามปากกาของ “คนข่าว” ที่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของวัฎจักรเศรษฐกิจตลอดช่วง 4 ทศวรรษเศษ

1 ปี สงครามยูเครน กับขั้วอำนาจเศรษฐกิจใหม่

จีดีพี ปี 65 จบที่ 3.4% ปีหน้าต้องลุ้น

การกลับมาของ นักท่องเที่ยวจีน และบทเรียนจาก วิกฤติโควิด

ส่อง “คาดการณ์เศรษฐกิจใหม่” หลังจีนเปิดประเทศ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ