TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessMeta เผยเทรนด์บนสังคมออนไลน์ "วิดีโอสั้น" เครื่องมือการตลาดทรงอิทธิพลสุดในโลกยุคดิจิทัล

Meta เผยเทรนด์บนสังคมออนไลน์ “วิดีโอสั้น” เครื่องมือการตลาดทรงอิทธิพลสุดในโลกยุคดิจิทัล

ด้วยพฤติกรรมการเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ของคนไทยที่จัดอยู่ในลำดับต้น ๆ ของโลก ส่งผลให้สื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ หรือ น้องใหม่มาแรงอย่าง ติ๊กต๊อก กลายเป็นช่องทางสำคัญให้นักการตลาดทั้งหลายเข้าถึงผู้บริโภคชาวไทยในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้า ทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ลดแลกแจกแถม หรือทำกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์เพื่อเพิ่มความไว้วางใจ หรือ ความภักดีต่อแบรนด์ 

ปรีชา คุณธรรมสถิต หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรเพื่อความบันเทิงประจำประเทศไทยเวียดนามและบังกลาเทศจาก Meta กล่าวว่า การเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ส่งผลต่อพฤติกรรมการรับชมภาพเคลื่อนไหวอย่างคลิปวีดีโอ ไม่ว่าจะเป็นคลิปสั้นหรือคลิปยาวอย่างมีนัยสำคัญ โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดได้เร่งการเติบโตทั้งในด้านอัตราการบริโภคและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อประสบการณ์การรับชมวิดีโอ 

ทั้งนี้ การศึกษาของ Meta ประเทศไทย พบว่า กว่า 7 ใน 10 ของคนไทยเข้ามารับชมวิดีโอผ่านฟีเจอร์ Watch บนแอปพลิเคชัน Facebook ในแต่ละเดือน เพื่อรับชมวิดีโอแบบสั้นและวิดีโอที่มีความยาวปานกลางเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ คนไทยชื่นชอบการรับชมวิดีโอบน Facebook เพราะชื่นชอบฟีเจอร์ไลฟ์ และเนื้อหาที่สามารถแชร์ไปยังผู้อื่นได้ง่าย ซึ่งเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เชื่อมต่อกับกลุ่มคนและชุมชนที่มีความคิดหรือความสนใจแบบเดียวกัน

“ข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นถึงโอกาสครั้งยิ่งใหญ่สำหรับธุรกิจ ผู้เผยแพร่เนื้อหา และครีเอเตอร์ ในการต่อยอดและสร้างผลประโยชน์การเล่าเรื่องผ่านวิดีโอบนแอปพลิเคชันในเครือของ Meta โดยเฉพาะบน Facebook เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมที่มีความหมายร่วมกับกลุ่มผู้ชมของ” ปรีชา กล่าว

สำหรับการสำรวจพฤติกรรมครั้งนี้มีขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างอายุระหว่าง 18-60 ปี จำนวน 500 คน ซึ่งการสำรวจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่เทรนด์กระแสโลกบ่งชี้ว่า วีดีโอยังคงเป็นสื่อทีทรงพลังในการเชื่อมต่อผู้คนให้เข้าหากันผ่านการเล่าเรื่องด้วยภาพเคลื่อนไหว และมีผู้คนกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลกรับชมวีดีโอบนช่องทางออนไลน์ในแต่ละวัน ในจำนวนนี้ 720 ล้านคนทั่วโลกใช้เวลาในการรับชมวิดีโอผ่าน Watch อย่างน้อย 1 นาทีในแต่ละเดือน

ในส่วนของประเทศไทย พบว่า 99 % ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยรับชมวิดีโอผ่านช่องออนไลน์ในแต่ละเดือน เกือบทั้งหมดจะดูผ่านสื่อสังคมออนไลน์เป็นหลัก และ กลุ่ม Gen Z เป็นกลุ่มผู้ชมที่กำลังเติบโต โดยคิดเป็นสัดส่วน 28% ของกลุ่มผู้ชมทั้งหมด เมื่อเทียบกับกลุ่มมิลเลนเนียล (23 %) และกลุ่ม Gen X กับเบบี้บูมเมอร์ (49%)

ด้านเนื้อหาของคลิปวีดีโอ พบว่า ผู้ใช้งานชาวไทยนิยมรับชมตัวอย่างภาพยนตร์ (movie trailer) และคลิปข่าวมากกว่าเนื้อหาวิดีโอประเภทอื่น ๆ โดยที่คลิปวีดีโอความยาวระหว่าง 3-5 นาทีได้รับการรับชมมากที่สุด 

ปรีชาเสริมว่า เฟซบุ๊กยังคงเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมของคนไทยในการใช้เป็นช่องทางชมวีดีโอที่เนื้อหาหลากหลาย โดย 49% ของผู้ใช้งานชาย และ 51% ของผู้ใช้งานหญิง ต่างรับชมวิดีโอบนแพลตฟอร์ม Facebook ในปริมาณที่เท่ากัน ส่วนใหญ่คือ 98% รับชมวีดีโอผ่านสมาร์ทโฟน รองลงมาคือผ่านคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คที่ 79% และรับชมผ่านสมาร์ททีวีหรืออุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่ 42%

นอกจากการใช้อุปกรณ์อย่างหลากหลายในการรับชมวิดีโอออนไลน์แล้ว คนไทยส่วนใหญ่นิยมรับชมวิดีโอสั้น (0-3 นาที) และวิดีโอที่มีความยาวปานกลาง (3-10 นาที) โดยรับชมเฉลี่ย เฉลี่ย 13 ครั้งต่อสัปดาห์ และ 11 ครั้งต่อสัปดาห์ ตามลำดับ ขณะที่ วีดีโอที่มีความยาว 10 นาทีหรือมากกว่ามีการรับชมโดยเฉลี่ย 9 ครั้งต่อนาที

ขณะที่ โซเชียลมีเดียเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งสำหรับการรับชมวิดีโอสั้นในประเทศไทย ทั้งยังเป็นช่องทางหลักในการค้นหาเนื้อหาวิดีโอ เป็นวิดีโอสั้น 56% และวีดีโอยาวปานกลางที่ 55%

ขณะเดียวกัน ยังพบว่า 97%  ของชาวไทยที่รับชมวิดีโอออนไลน์ของผู้เผยแพร่ (publishers) เป็นผู้ใช้งาน Facebook Watch อย่างเป็นประจำ โดยผู้บริโภคนิยมรับชมวิดีโอที่มาจากเพจทางการ (official pages) แพลตฟอร์มสื่อ หรือผู้เผยแพร่เนื้อหาดิจิทัลต่างๆ

ปรีชา อธิบายเพิ่มเติมว่า ด้วยพฤติกรรมข้างต้นทำให้เฟซบุ๊กมีการปรับแต่งเครื่องมือเพื่อให้การรับชมเนื้อหาประเภทวีดีโอผ่านเฟซบุ๊กสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ชมที่หลากหลายตามความชอบ โดย 9 ใน 10 รับชมวิดีโอเพื่อพักผ่อนจากการใช้ชีวิตประจำวัน และเพื่อค้นหาจุดสนใจใหม่ ๆ ขณะที่ 8 ใน 10 รับชมวิดีโอเพื่อเชื่อมต่อกับผู้คนที่มีความสนใจแบบเดียวกัน

นอกจากการรับชมตามความชอบแล้ว การสำรวจยังพบว่า ราว 2 ใน 3 ของชาวไทยได้รับการโน้มน้าวให้พิจารณาสินค้าหลังจากเห็นโฆษณาบน Facebook Watch

ทั้งนี้ 28% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยยอมรับว่าตนเองซื้อสินค้าหลังจากเห็นโฆษณาบน Facebook Watch โดยกลุ่ม Gen Z กำลังมีอำนาจในการซื้อมากขึ้น และ 25% ของกลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี ได้ตัดสินใจซื้อสินค้าหลังจากเห็นโฆษณาบน Facebook

ยิ่งไปกว่า 49% ของคนไทยมีการค้นหารีวิวและข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมหลังจากเห็นโฆษณาบน Facebook Watch ขณะที่ 22% ได้ทำการติดต่อผู้ขายในทันที

ตัวแทนจากเฟซบุ๊กเมตาประจำภูมิภาค กล่าวว่า พฤติกรรมที่พบทำให้โฆษณาแบบสั้นถือเป็นเทคนิคทางการตลาดที่กำลังได้รับความนิยมและมีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อสร้างรายได้ ซึ่งในส่วนของเฟซบุ๊ก ได้สร้างช่องทางให้มีโฆษณาในสตรีมที่อยู่ในเนื้อหาวิดีโอ (In-stream video placements) ที่สามารถเลือกตำแหน่งการจัดวางโฆษณาให้อยู่ก่อน ระหว่าง และหลังเนื้อหาวิดีโอได้ เป็นช่องทางการรับข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปดำเนินการต่อได้ เพื่อประเมินศักยภาพการทำงานในฐานะผู้สร้างเนื้อหา และช่วยคัดเลือกคัดกรองนักโฆษณาหรือประเภทของนักโฆษณาที่ต้องการและไม่ต้องการได้

Google ชี้ ASEAN เตรียมพร้อมเข้าสู่ “ทศวรรษแห่งดิจิทัล” คาดมูลค่าเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2030

Adobe เผยปี 2022 “คอนเทนต์” จะทรงพลังและมีบทบาทมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ