TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessสยามพิวรรธน์ ตั้งเป้าผู้นำค้าปลีกดิจิทัลไทย ผุดแพลตฟอร์ม “ONESIAM SuperApp”

สยามพิวรรธน์ ตั้งเป้าผู้นำค้าปลีกดิจิทัลไทย ผุดแพลตฟอร์ม “ONESIAM SuperApp”

สยามพิวรรธน์ เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกดิจิทัลไทย ด้วยการเปิดตัวแอพพลิเคชันใหม่ “วันสยาม ซูเปอร์แอป” (ONESIAM SuperApp) แพลตฟอร์มที่รวม 4 ห้างใหญ่ในเครือเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค รวมถึงเปิดพื้นที่ให้เหล่าพันมิตร คู่ค้าและแบรนด์หรูต่าง ๆ จากทั่วโลกร่วมสร้างคอนเทนต์ตอกย้ำภาพผู้นำความคิดสร้างสรรค์ มุ่งหน้าสู่โลกใหม่ของธุรกิจที่สามารถขยายไปได้อย่างไร้พรมแดน 

ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ กล่าวในระหว่างพิธีเปิดตัว วันสยาม ซูเปอร์แอป ว่า เป็นการต่อยอดจากวิสัยทัศน์เดิมของบริษัทที่ต้องการให้ศูนย์การค้าเป็นมากกว่าพื้นที่สำหรับขายสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพราะความสำเร็จในธุรกิจไม่ได้วัดกันที่ผลกำไร แต่คือการเป็นศูนย์การค้าอันดับหนึ่งในใจลูกค้า ซึ่งแนวคิดดังกล่าวช่วยให้สยามพิวรรธน์สามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำในการแข่งขันในอุตสาหกรรมค้าปลีกทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้ความร่วมมือกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมปฎิวัติวงการและนำเสนอความแปลกใหม่ก่อนใคร

อย่างไรก็ตาม ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้น ธุรกิจค้าปลีกจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหาทางหลุดออกจากกรอบเดิม ๆ เพื่อให้ไม่เพียงสามารถเติบโตได้ต่อไปเท่านั้น แต่ยังสามารถยืนหยัดเป็นผู้นำอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน 

“สยามพิวรรธน์มองเห็นโอกาสของดิจิทัลจึงได้เริ่มพัฒนาระบบนิเวศธุรกิจพรีเมียมระดับโลกที่จะเชื่อมคู่ค้าพันธมิตรจากทั่วโลก (Global Ecosystem) ให้เติบโตร่วมกันบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากหลักในการดำเนินธุรกิจของสยามพิวรรธน์ที่ยึดมั่นในการ Share Values และ Co-creation เพื่อให้เกิดความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าร่วมกันอย่างยั่งยืน”

สยามพิวรรธน์ใช้ระยะเวลาเพียง 13 เดือน ในการปรับกลยุทธ์ และพัฒนาแอปพลิเคชันรูปแบบใหม่ที่จะทลายทุกข้อจำกัด และสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ อีกหลากหลายประเภทของพันธมิตรในระบบนิเวศของสยามพิวรรธน์ ภายใต้การนำของอริยะ พนมยงค์ ทำหน้าที่ประธานบริหารสายงานนวัตกรรม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ก่อตั้งบริษัท Transformational โดยทำงานร่วมกับอักเซล วินเทอร์ประธานบริหารสายงานดิจิทัล โดยใช้นวัตกรรมจากหลายองค์กรชั้นนำต่างประเทศ สยามพิวรรธน์ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่และแอปพลิเคชันนี้ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นให้สนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจของบรรดาร้านค้าใน 4 ศูนย์การค้ารวมถึงพันธมิตรกว่า 1,000 แบรนด์ ใน 13 อุตสาหกรรม ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เราได้เชิญมาร่วมใน Global Ecosystem นี้

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของ วันสยาม ซูเปอร์แอป คือ กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง

โดยเน้น 4 แนวทางหลักคือ 1) Sharing Economy ที่แบ่งปันผลประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งลูกค้า คู่ค้า ร้านค้า และพันธมิตร โดยสำหรับลูกค้า คือทำให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด ผ่านการปฏิวัติระบบ Loyalty Program ให้เป็นระบบเพิ่มมูลค่า คืนเป็น VIZ COIN จากการจับจ่ายใช้สอยตามเงื่อนไขที่กำหนด ยิ่งไปกว่านั้น สยามพิวรรธน์มีแผนที่จะขยายการให้บริการครอบคลุมเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าในไตรมาสแรกของปีหน้า ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายรายอีกด้วย

ขณะเดียวกัน สยามพิวรรธน์ยังร่วมกับองค์กรนวัตกรรม พันธมิตร คู่ค้า แบรนด์ที่แข็งแกร่งจากทั่วโลกสร้างคอนเทนต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจจาก Content Makers ระดับโลก ร่วมสร้างสรรค์แคมเปญการตลาด กิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมถึง Loyalty Program และมีแผนพัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มที่ลูกค้าสามารถมาร่วมสร้างคอนเทนต์ร่วมกันในแต่ละคอมมิวนิตี้ได้

แนวคิดที่สองคือ ความร่วมมือเพื่อเป็นผู้ชนะด้วยกัน (Collaborate to win) คือการเชื่อมหลายแพลตฟอร์มจากหลายประเภทธุรกิจของพันธมิตรในระบบนิเวศ เช่น Fintech Platform, S-Commerce และ E-Commerce, NFT, Cryptocurrency/Benefits และ Metaverse เพื่อให้ลูกค้าและสมาชิกของพันธมิตรทุกรายได้เข้าถึงทุกธุรกรรมได้บนแพลตฟอร์มเดียว 

ด้านแนวคิดที่ 3 คือ การเติบโตด้วยกันทั้งหมดอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth for All) โดยตั้งเป้าให้ทุกฝ่ายสามารถเติบโตไปด้วยกันได้บนแพลตฟอร์มวันสยาม ซูเปอร์แอป ในแง่ของการขยายธุรกิจและฐานลูกค้าระหว่างพันธมิตรผ่านแพลตฟอร์ม รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะร่วมกันพัฒนาให้เกิดธุรกิจดิจิทัลใหม่ ๆ ได้อย่างไร้ข้อจำกัด 

อริยะ พนมยงค์ ประธานบริหารสายงานนวัตกรรม สยามพิวรรธน์ กล่าวเสริมว่า สยามพิวรรธน์ถือเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพียงไม่กี่รายในโลกและเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ลงทุนสร้างแพลตฟอร์มของตนเองเพื่อลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่ทำให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และบริหารประสบการณ์แบบ Customer Centric อย่างลงลึก เพื่อให้แพลตฟอร์มนี้เข้าใจพฤติกรรม และเข้าถึงความต้องการของลูกค้า สามารถสร้างแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและแตกต่างเพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคในทุกมิติ 

ขณะที่ อักเซล วินเทอร์ ประธานบริหารสายงานดิจิทัล สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า ความยากของการพัฒนาแอปลิเคชันนี้ก็คือระยะเวลาที่ค่อนข้างกระชั้นชิด โดยวันสยาม ซูเปอร์แอป มีระยะเวลาคิดค้น พัฒนา และทดลองเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ทั้งยังต้องสร้างแพลตฟอร์มให้หลากหลายและใหญ่พอที่จะตอบโจทย์ความต้องการของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ และแน่นอนว่า แผนการขั้นต่อไปก็คือการขยายเครือข่ายผู้ใช้งานให้มากขึ้น และให้แพลตฟอร์มมีช่องทางให้ผู้ใช้มีกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น 

ด้าน ปานเทพย์ นิลสินธพ ประธานบริหารสายงานประสบการณ์ลูกค้า สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า “ONESIAM SuperApp จะเป็นประตูสู่ระบบนิเวศของสยามพิวรรธน์ เพราะทุกวันนี้ธุรกิจค้าปลีกไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการจับจ่ายใช้สอยเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งจะมาตอกย้ำความเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครของสยามพิวรรธน์ 

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดและสมัครได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ โดยตัวแพลตฟอร์มนำเสนอสินค้าและบริการที่ถูกคัดสรรมาแล้วอย่างพิถีพิถันให้กับลูกค้าบนความสนใจเฉพาะบุคคล ขณะเดียวกันด้วยเทคโนโลยีปัญญษประดิษฐ์ (AI) ที่จะเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้า พร้อมด้วย Hyper Personalized Marketing ที่จะวิเคราะห์ และคาดการณ์การรับข่าวสารและซื้อสินค้าครั้งหน้าของลูกค้าแต่ละคน ช่วยให้การบริหารจัดการสินค้าและบริการทุกประเภทได้ดีขึ้น รวมทั้งสร้างแคมเปญให้ตรงใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพื่อยกระดับการเชื่อมประสบการณ์โลกคู่ขนาน online/offline ให้กับลูกค้าที่กำลังมองหาประสบการณ์แบบคนรู้ใจ ตอกย้ำความเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครของสยามพิวรรธน์ 

ส่วนเนื้อหาในแอปพลิเคชันจะแบ่งออกมาเป็น 5 คอมมูนิตี้หลัก ปริมาณมากกว่า 30,000 คอนเทนต์ อัปเดตใหม่ทุกเดือน คือ 1) Style: แฟชั่น เครื่องประดับ 2) Glow: สุขภาพ ความสุขสมบูรณ์ ความงาม เครื่องบำรุงผิว 3) Feast หรือ การเฉลิมฉลอง: อาหาร เครื่องดื่ม การสังสรรค์ 4) Travel หรือการแสวงหา: การท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม ดีไซน์ และ 5) Fun หรือกิจกรรมยามว่าง: กีฬา เกมส์ gadget

ปัจจุบัน ลูกค้าของสยามพิวรรธ์สามารถใช้แต้มบัตรเครดิตหรือแต้มสะสมต่าง ๆ เปลี่ยนเป็น VIZ Coin เพื่อใช้เป็นเงินดิจิทัลเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการบนออนไลน์ หรือขณะเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยบนร้านค้าที่เข้าร่วมกับทางศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์ได้ โดย Viz Coin 1 เหรียญมีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท 

อริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ตอบโจทย์กับโลกยุคดิจิทัลมากขึ้น ในต้นปี 2022 สมาชิกจะสามารถใช้วันสยาม ซูเปอร์แอปในการทำธุรกรรมดิจิทัลในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ “สินทรัพย์ดิจิทัล” (Digital Assets) และดิจิทัลยูทิลิตี้ (Digital Utility) เพิ่มเติมจาก Loyalty Programโดยในช่วงแรกนำเสนอประสบการณ์ที่เป็นมากกว่ารีเทลระดับโลกในรูปแบบ “งานศิลปะดิจิทัล NFT” ด้วยการเปิดตัว ความร่วมมือกับ KASIKORN X หรือ KX เป็นพันธมิตรแรก ในการก่อตั้ง Coral – Super Simple NFT Marketplace (CORALWORLD.CO) เพื่อเป็นการสนับสนุน ผลักดัน ต่อยอด งานศิลปะ วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ ทั้งออนไลน์และ ออฟไลน์ ของศิลปินไทยและภูมิภาคในประเทศไทยและไปสู่ระดับโลก 

นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือกับ Zipmex ในการแลกซื้อคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟผ่าน Zipmex Token (ZMT) ก่อนพัฒนาสู่ช่วงที่สอง ซึ่งทางสยามพิวรรธน์ได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ อาทิ X Spring (เอ็กซ์สปริง) และ เจ เวนเจอร์ส เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรภายในปีหน้า

นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังเตรียมขยายศักยภาพการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริงบน Metaverse ด้วยการจับมือกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เชื่อมต่อประโยชน์อันหลากหลายไว้ในที่เดียว และจะมีการพัฒนาธุรกิจและกิจกรรมดิจิทัลเรื่องอื่น ๆ บนซูเปอร์แอปอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับปีแรกตั้งเป้าการดาวน์โหลดไว้ที่ 5 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2565

สยามพิวรรธน์ จับมือ Perx สร้าง ระบบนิเวศดิจิทัล เสริมฐานลูกค้าสู่ Metaverse

สยามพิวรรธน์ ผนึก กรุงไทย หนุน SME

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ