TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistTikTok ใคร ๆ ก็ไม่รัก

TikTok ใคร ๆ ก็ไม่รัก

2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อโซเชียลมีเดีย คงจะสะเทือนเบา ๆ ไปตาม ๆ กัน… ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ทางการจีน ชี้นิ้วไปยังโซเชียลมีเดียในฮ่องกงจะล้วงข้อมูลผู้ใช้งานโดยอ้างเรื่องความมั่นคง โดยพุ่งเป้าไปยังสื่อจากค่ายโลกเสรี โดยเฉพาะสหรัฐฯ

จากนั้นตามหลังมาติด ๆ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชี้นิ้วไปยัง TikTok หาข้ออ้างเรื่องความมั่นคงเหมือนกัน เพื่อจะแบน TikTok ที่ตอนนี้มี active users ต่อเดือนอยู่ราว 800 ล้านคน

ข้อมูลล่าสุดเดือน มิ.ย. 2020 โดย Wallaloo Media ระบุว่าอินเดีย มี Active users มากสุดที่ 500 ล้านคน ตามมาด้วยจีน 180 ล้านคน และสหรัฐฯ 130 ล้านคน และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่โลกยังถูกรุมเร้าด้วยการระบาดของไวรัสโควิด-19 มีอัตราดาวน์โหลด TikTok เพิ่มอีก 112 ล้านครั้ง ในจำนวนนี้ชาวอเมริกันดาวน์โหลดไป 11 ล้านครั้ง

มีข้อมูลอย่างนี้ ประธานาธิบดีจอมสั่งที่เหม็นขี้หน้าจีนเอามาก ๆ ก็เลยชี้นิ้วไปที่ TikTok บริษัทที่มี CEO และบริษัทแม่ Bytedance ที่มีสัญชาติจีน เตรียมแบน เหมือนอย่างที่เคยทำกับ Huawei มาแล้ว และตอนนี้บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ ยอดขายโทรศัพท์มือถืออันดับ 2 ของโลก ยังคงติดโทษแบนไปถึงพฤษภาคมปี 2021 แล้วต้องไปวัดดวงอีกว่าจะขยายโทษแบนต่อ หรือ พอแค่นี้

กลายเป็นว่า TikTok เจอ 2 เด้ง เจอทั้งทางการจีน เจอทั้งสหรัฐฯ อย่างนี้ CEO หนุ่ม แห่ง Bytedance “จาง อี้หมิง” คงมึนเหมือนกัน จาก TikTok จะกลายเป็นปิงปองที่โดยตีกลับไปกลับมา

แต่งานนี้ไม่ต้องให้ TikTok ออกโรง เพราะผู้ใช้งาน TikTok เป็นเดือดเป็นร้อนแทน บางคนถึงขั้น Panic อย่างหนุ่มน้อย ชาวอเมริกันคนหนึ่ง อายุ 16 ปี มีผู้ติดตามใน TikTok อยู่ถึงกว่า 2 ล้านคน คร่ำครวญผ่านไลฟ์ทันที กลัว TikTok ถูกปิด หลังมีข่าวออกมา

ซึ่งช่วงที่มีข่าวออกมา ระบบ TikTok ถึงขั้นมีปัญหา เพราะมีปริมาณ Traffic ในระบบมาก ก็คงจะเป็นเพราะผู้ใช้งานเข้ามา แสดงความกังวลกันพอสมควร

เหตุผลที่สหรัฐฯ ต้องการแบน TikTok มีอยู่ 2-3 ประเด็น

ทางด้าน ไมค์ ปอมเปโอ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Fox News ของสหรัฐฯ ว่า การดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ TikTok ผู้ลงทะเบียนต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจจะตกไปอยู่ในมือของจีน มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ

ขณะที่ตัวประธานาธิบดีทรัมป์ มีเหตุผลส่วนตัวที่แตกต่างไป คือ ต้องการลงโทษจีน ต่อกรณีโควิด-19 ที่ทำให้สหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกต้องยุ่งเหยิง

ทั้งนี้ความชัดเจนในการที่ทางการสหรัฐฯ จะจัดการกับ TikTok ยังไม่มี และทางทำเนียบขาวก็ไม่ได้ชี้แจงอะไรในเรื่องนี้ต่อ ขณะที่ทางนักวิเคราะห์มองว่า คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่สหรัฐฯ จะแบน TikTok … แต่หนทางหนึ่งคืออาจจะบีบไปทาง Apple กับ Google ให้ถอดแอปพลิเคชัน TikTok ออกจากแอพสโตร์ ของโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 ค่าย แต่ทั้งสองค่ายคงไม่ยอมง่าย ๆ แน่

ด้าน TikTok ที่เพิ่งแต่งตั้ง CEO ชาวอเมริกันมาหมาด ๆ เมื่อเดือนมิถุนายน ชี้แจงในบล็อกของ TikTok ว่าข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ทั้งหมดนั้นแบ็คอัพไว้ที่ระบบในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลสำคัญของบริษัทนอกประเทศจีน ซึ่งทางการจีน ไม่สามารถเข้ามาล้วงข้อมูลได้อย่างแน่นอน และ TikTok ไม่มีทางให้ข้อมูลผู้ใช้งานกับทางการจีนแน่นอน

อย่าว่าแต่สหรัฐฯ จะแบน TikTok…อินเดีย ก็ลงดาบ TikTok เหมือนกัน สาเหตุเพราะเกิดเหตุปะทะกันของนักธุรกิจชาวจีนกับอินเดีย ตรงบริเวณชายแดนทั้ง 2 ประเทศ งานนี้ WeChat ก็โดยหางเลขไปด้วย และไม่รู้ว่าทางการอินเดียจะแบน TikTok กับ WeChat ในอินเดียไปถึงเมื่อไหร่ หรือจะโดนแบนยาว

โลกเคยผ่านสงครามที่ใช้กำลังและอาวุธเข้าห้ำหั่นกันมาถึง 2 ครั้ง และเกือบเข้าสู่สงครามการค้าเต็มรูปแบบ เมื่อปีที่แล้ว… และตอนนี้สงครามโลกดิจิทัล กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ โดยมุ่งทำลายความเติบโตทางเทคโนโลยีของอีกฝ่าย โดยใช้คำว่า “ภัยต่อความมั่นคง” มาเป็นตัวจุดชนวน

ยุคโซเชียลมีเดีย ยุ่งเหยิงมากจริง ๆ ทั้งดราม่าคนใช้ ดราม่าการเมือง…

ที่มาข้อมูล: cnet.com edition.cnn.com wallaroomedia.com

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

-บริษัทชั้นนำในสหรัฐฯ กว่าร้อย ตบเท้ายื่น Chapter 11 ขอฟื้นฟูกิจการ
-TikTok ประกาศระงับให้บริการในฮ่องกง หลังฮ่องกงเตรียมล้วงข้อมูลผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย
-เทรนด์การรับประทานอาหาร ของผู้บริโภคในเอเชีย
-ใช้สื่อออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ เพื่อลด “Hate speech”
-Tencent ปิดดีล iflix สยายปีก ยึดตลาดวิดีโอสตรีมมิ่ง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ