TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessอิมแพ็ค เตรียมจัด DigiTech ASEAN Thailand 2023

อิมแพ็ค เตรียมจัด DigiTech ASEAN Thailand 2023

อิมแพ็ค เตรียมจัดงาน ดิจิเทค อาเซียน ไทยแลนด์ แสดงสินค้าและสัมมนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งอาเซียน ภายใต้ความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ, บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด, Kasikorn X, Google, บริษัทอินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของ Digital Transformation ในปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2566 ณ อาคาร 7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นระยะเวลา 3 วัน

พีรยาพัณณ์ พงษ์สนาม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ จากการดำเนินการจัดงานดิจิเทค อาเซียน ไทยแลนด์ ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะช่วงหลังเหตุการณ์โควิด-19 มีอัตราค่อนข้างสูง แสดงให้เห็นและตอกย้ำถึงความสำคัญของ งานดิจิเทค อาเซียน ไทยแลนด์ ผู้คนต้องปรับตัวมากขึ้นให้เข้ากับแนวโน้มของโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลง

ภิญญาพัชญ์ มีสิงห์ภัทรคุณ ผู้จัดการโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ได้รวบรวมผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลกว่า 300 แบรนด์จาก 10 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ภายในงานประกอบด้วยงานสัมนาและเวิร์กช็อปจากผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานชั้นนำกว่า 50 ท่าน ร่วมให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีกว่า 80 หัวข้อ

งาน DigiTech ASEAN Thailand 2023 ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทางภาครัฐ สมาคมกว่า 28 หน่วยงาน แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ เนื่องจากงาน ดิจิเทค อาเซียน ไทยแลนด์ 2023 รวบรวมผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัลไว้อย่างครบครัน โดยผู้แสดงสินค้าในปีนี้ได้แก่ ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ ซอฟแวร์เพื่อธุรกิจ ปัญญาประดิษฐ์ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ อีคอมเมิร์ซและการตลาดดิจิทัล ดาต้าและคลาวด์ สมาร์ทโซลูชันและไอโอที เทคโนโลยี 5G และเครือข่าย รวมไปถึง WEB 3.0 นอกจากนี้ยังมีพาวิลเลียนจากประเทศเกาหลีใต้จำนวน 29 บริษัท จากฮ่องกงอีกจำนวน 20 บริษัท และจากประเทศญี่ปุ่น 5 บริษัท

เหมาะสำหรับทุกแวดวงอุตสาหกรรม ทั้งธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ที่กำลังมองหาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาธุรกิจในทุกแง่มุมไม่ว่าจะเป็น การขาย การตลาด การจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารทรัพยากรบุคคล งานผลิต รวมไปถึงการวิเคราะห์ธุรกิจเพื่อวางแผน แก้ไข และพัฒนาธุรกิจ

ภายในงานยังมีกิจกรรมและเวิร์กช็อปมากมายนำโดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 50 ท่าน จัดกิจกรรมนัดหมายให้กับผู้ประกอบการภายในงาน เพื่อให้เกิดการพูดคุย สร้างความร่วมมือทางธุรกิจ

มุ่งสู่ Digital Transformation

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) กล่าวถึงมุมมองต่อทิศทางของ Digital Transformation ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจ ภาคประชาชน โดยแบ่งออกได้เป็น 4 ยุค 1. Digital Automation เป็นเทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวผู้คนมากที่สุด สามารถพบได้ในทุกอุตสาหกรรมการทำงานผ่านทางดิจิทัล 2. Digital Data Data กับ Blackchain ทำงานร่วมกันภายใต้ปัญญาประดิษฐ์อย่าง AI 3. Digital Access ต้องคงไว้ซึ่งความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล 4. Digital Connect เข้ามาทำให้การทำงานในเชิงธุรกิจถูกเปลี่ยนบนพื้นฐานใหม่ ให้สามารถติดต่อกันได้อย่างไร้พรหมแดนระหว่างฝ่ายต่างๆ

ดังนั้น จากการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ก้าวไปข้างหน้ามาขึ้น ทางภาคธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทำ Digital Transformation ให้สำเร็จ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ

  1. ต้องมีการตั้งเป้าหมายขององค์กรที่ชัดเจน มีการวางแผนกลยุทธ์ที่ดีในการนำเอาดิจิทัลเข้ามาใช้ในองค์กร ตามรูปแบบการทำงานของเทคโนโลยีที่มีความหลากหลาย อัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วยในการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในองค์กร
  2. มีพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการทำงานไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือต่างประเทศ ในการให้คำปรึกษา ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ รวมไปถึงการให้ความรู้ พัฒนาทักษะของบุคลากรภายในองค์กรเพื่อให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและกระบวนการทำงานขององค์กรได้
  3. ปรับเปลี่ยน Culture ขององค์กรให้เปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆที่เข้ามาได้

นอกจากนี้ จีเอเบิลมองว่ากลยุทธ์ของการเป็น Digital Transformation คืออะไรก็ตามที่เหมาะสมและเข้ากันได้กับทางองค์กร ตอบโจทย์ 3S คือ 1. Smart ทำให้ Product Activity เพิ่มขึ้น 2. Security ให้ความสนใจด้าน Security ของทางองค์กร ป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น 3. Sustainability ใช้เทคโนโลยีเข้ามาทำให้ธุรกิจอยู่รอดปลอดภัย และยั่งยืน

สันติ เมธาวิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด (UIH) กล่าวว่า UIH ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางกับ Google ได้ยกระดับความสามารถในการให้บริการโซลูชั่นให้ตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบงานของลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม ทั้งองค์กรรัฐและเอกชน ซึ่ง UIH มีความพร้อมวางแผนยุทธศาสตร์ในเรื่อง Digital Transformation ให้กับองค์กรชั้นนำในไทย พร้อมผสานนวัตกรรมระดับโลกเช่น Google เพื่อให้บริการโครงการต่างๆโดยเฉพาะโซลูชั่นที่เน้นนวัตกรรม AI, Data, Digital Workspace, E-Commerce รวมทั้งบริการ Cloud เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ในการรับมือกับ Digital Transformation ต้องรู้เทรนด์ที่กำลังเข้ามาในอนาคตเพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตและไปรอดได้, หาจุดอ่อนของธุรกิจ, เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้ทำงานได้เร็วขึ้น สะดวกยิ่งขึ้น, หาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้าช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ 6 ข้อหลัก เพื่อเป็น Digital Transformation ที่สมบูรณ์ 1.Change Mindset 2.AI Adoption เพราะ AI มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว 3. Digital Workspace 4. Future Workforce วางกลยุทธ์ในการพัฒนาคนให้พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง 5. Cyber Security มีผู้เชี่ยวชาญป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้นกับข้อมูลภายในองค์กร 6. Sustainability Technology ก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ทรูมันนี่ เปิดตัวบริการ ‘Google Play’ รวมสิทธิประโยชน์ และดีลพิเศษในที่เดียวบนแอปทรูมันนี่

GOOGLE เผย เศรษฐกิจดิจิทัลไทยใหญ่เป็นอันดับ 2 ใน SEA ถูกขับเคลื่อนโดยอีคอมเมิร์ซ คาดแตะประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 68 

เอมิเรตส์ เปิดเที่ยวบินแรกจากดูไบที่ใช้เชื้อเพลิง SAF เต็มรูปแบบ

 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ