TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessBJC เดินหน้าปั้นร้าน 'โดนใจ' โมเดลค้าปลีกใหม่ ตั้งเป้าเปิด 30,000 ร้านในปี 2570

BJC เดินหน้าปั้นร้าน ‘โดนใจ’ โมเดลค้าปลีกใหม่ ตั้งเป้าเปิด 30,000 ร้านในปี 2570

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC เดินหน้าปั้นโมเดลธุรกิจร้านโดนใจ พัฒนาระบบ POS จัดการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ที่เข้ามาช่วยเสริมแกร่งติดอาวุธให้ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วยได้เติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมเปิดตัวพันธมิตรทั้งกลุ่มผู้ผลิตจัดจำหน่ายและ กลุ่มธนาคาร ที่จะเข้ามาร่วมพัฒนาความเข้มแข็งให้โชห่วยไทย ให้มีความมั่นใจในการทำร้านโดนใจ ตั้งเป้าเปิด 8,000 ร้านค้าในปี 2566 และจะเติบโตสู่หลัก 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570

ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ของเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่มีความมุ่งมั่นในการเข้าไปช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ ในท้องถิ่นอย่างร้านโชห่วย เพื่อให้สามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้ จึงเป็นที่มาของการต่อยอดโครงการร้านเครือข่าย “โดนใจ” ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการร่วมพัฒนาร้านค้าโชห่วยให้มีรูปแบบการบริหาร จัดการ ที่ทันสมัย ตลอดจนมีระบบข้อมูลที่ช่วยพัฒนาการขายแบบยั่งยืน โดยเริ่มมีการทำโครงการแบบ “ซอฟต์ ล้อนช์” ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วยที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายร้านโดนใจแล้วประมาณ 1,000 ราย

หลังจากนี้ จะมีการเดินหน้า พร้อมเปิดตัวพันธมิตรทั้งที่เป็นธนาคารพาณิชย์และบริษัทเจ้าของสินค้าที่จะมีการเปิดตัวพันธมิตรอย่างเป็นทางการในต้นปี 2566 นี้

ขณะที่เป้าหมายในปี 2566 นั้น ต้องการดึงร้านโชห่วยเข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายร้านโดนใจ ประมาณ 8,000 ร้านค้า ส่วนเป้าหมายระยะยาว มองถึงการมีเครือข่ายร้านโดนใจทั่วประเทศ 30,000 ร้านค้า ภายในปี 2570 จากร้านค้าโชห่วยทั่วประเทศที่มีตัวเลขอยู่ราวกว่า 400,000 ร้านค้า โดยร้านค้าโชห่วยที่เหมาะสมกับการปรับเปลี่ยนมาเป็นร้านโดนใจก็คือ ร้านค้าปลีกในชุมชนขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง ไม่รวมถึงร้านค้าส่งที่ขายสินค้ายกลังให้กับร้านค้าด้วยกัน

ฐาปณี กล่าวอีกว่า แม้จะมีผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งที่เป็นค้าปลีก-ค้าส่งรวมถึงซัพพลายเออร์เจ้าของสินค้า เข้ามาทำโมเดลเครือข่ายร้านโชห่วยหลายราย แต่ในมุมมองของตัวเอง กลับมองว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะเป็นการเข้ามาช่วยกันพัฒนาให้ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วยมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น และจะนำไปสู่การเติบโตแบบยั่งยืนในระยะยาว

“เรามองว่า ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วย เป็นอีก 1 ฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับรากหญ้า โดยผู้ประกอบการเหล่านั้น มีจุดอ่อนในเรื่องของการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการบริหารสต็อกสินค้าที่ถือเป็นต้นทุนสำคัญ ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จำนวนร้านค้าโชห่วยทั่วประเทศ ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก คือราวกว่า 500,000 ราย เพราะแม้จะมีหลายรายที่เข้ามาทำธุรกิจ แต่ก็มีไม่น้อยที่ต้องเลิกไป บีเจซี มองเห็นปัญหาดังกล่าว จึงเข้ามาทำหน้าที่เป็นคนกลาง

ในการช่วยพัฒนาร้านค้าเหล่านั้นให้มีระบบการบริหารจัดการที่ดี ตลอดจนองค์ความรู้ในการบริหารร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โดยมีการพัฒนาระบบ POS ขึ้นมาเพื่อเข้าไปช่วยร้านค้าเหล่านั้น พร้อมกับการมีทีมงานเข้าไปช่วยพัฒนาและเพิ่มทักษะในการทำธุรกิจค้าปลีกให้กับผู้ประกอบการเหล่านั้น”

เลือกรูปแบบร้าน และสินค้าได้เอง ไม่แบ่งกำไรกับใคร

ฐาปณี เสริมว่า เครือข่ายร้านโดนใจมีจุดเด่นคือ ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วยสามารถเลือกการลงทุนและเลือกสินค้าที่จำหน่ายได้เอง โดยไม่ต้องแบ่งผลกำไรกับใคร ด้วยงบลงทุนไม่สูงนัก โดยแบ่งรูปแบบของร้านออกเป็น 2 รูปแบบ คือ รูปแบบแรก บีเจซีที่จะใช้เครือข่ายของบิ๊กซี เป็นคนจำหน่ายสินค้าให้กับร้านค้าในชุมชน พร้อมจัดส่งให้ถึงหน้าร้าน เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการสั่งซื้อสินค้าเข้าร้านให้กับร้านค้า

รูปแบบที่สอง จะออกมาในลักษณะของการนำระบบ POS ที่พัฒนาขึ้นให้เหมาะสมและตอบโจทย์กับการทำธุรกิจของร้านโชห่วย อีกทั้งยังใช้งานง่าย บีเจซีจะเข้าไปปรับปรุงร้านค้าให้มีรูปแบบที่ทันสมัย และดึงดูดลูกค้ามากขึ้น โดยที่เจ้าของร้านค้าโชห่วยสามารถเลือกขอบเขตการปรับปรุงหรือตกแต่งร้านค้าได้เองตามงบที่ตัวเองเห็นสมควร ทั้งนี้จะมีค่าใช้จ่ายรายเดือนเป็นค่าบริหารระบบประมาณ 4,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ จะถูกคืนกลับไปให้ร้านค้าในกรณีที่มีการสั่งซื้อสินค้าตามเป้าที่กำหนดให้

ส่วนการกระจายสินค้าเข้าร้าน จะใช้เครือข่ายสาขาของบิ๊กซีที่มีสาขาขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 200 สาขา ซึ่งจะเข้ามาช่วยเป็นเครือข่ายในเรื่องของการจัดการสินค้าเข้าร้าน ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีปัญหาในเรื่องของการจัดการเกี่ยวกับสินค้าที่จะนำมาวางขายในร้าน โดยระบบ POS ที่พัฒนาขึ้นนี้ จะทำให้รู้ข้อมูลอย่างชัดเจนว่า สินค้าตัวไหนขายดี หรือสินค้าประเภทใดเป็นที่ต้องการของแต่ละชุมชน ทำให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังสามารถช่วยลดต้นทุนและแก้ปัญหาการบริหารจัดการสต็อกที่เป็นต้นทุนหลักที่ร้าน โชห่วยต้องแบกรับมาตลอด

“ร้านโดนใจ เกิดขึ้นบนความตั้งใจของเราที่ต้องการจะเข้ามาช่วยพัฒนาร้านโชห่วยให้มีการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งในท้ายที่สุดจะส่งผลต่อการเติบโตแบบยั่งยืนทั้งระบบ ที่ไม่เพียงแค่ธุรกิจในเครือของบีเจซี ที่มีลูกค้าส่วนหนึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าโชห่วยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วย และซัพพลายเออร์เจ้าของสินค้าที่เข้ามาร่วมอยู่ในอีโคซิสเท็มของโดนใจ ที่จะเติบโตไปพร้อม ๆ กัน

นอกจากในเมืองไทยแล้ว เรายังมองถึงการพัฒนาโครงการ ร้านโดนใจในเวียดนามด้วยการใช้ต้นแบบจากประเทศไทยไปพัฒนาต่อยอดที่นั่น ซึ่งจะเป็นอีกการเปิดโอกาสให้กับสินค้าไทยให้สามารถขยายโอกาสในการขายสินค้าไปสู่คนเวียดนามได้อีกด้วย”  ฐาปณี สรุป

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Payment Gateway-LINK PAY ยอดพุ่ง ขานรับการใช้จ่ายเงินดิจิทัลหลังโควิด

กสิกรไทย จับมือดราก้อนเอ็นเนอร์จีฯ ปล่อยกู้ติดตั้งแผงโซลาร์ ดอกเบี้ย 0% 3 เดือน

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ