TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusiness"อาร์เอส กรุ๊ป" ใช้ entertainment หนุน commerce หวังโตหมื่นล้าน

“อาร์เอส กรุ๊ป” ใช้ entertainment หนุน commerce หวังโตหมื่นล้าน

“อาร์เอส กรุ๊ป”​ ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 ด้วยการประกาศรีแบรนด์ และเดินหน้ากลยุทธ์ Entertainmerce เดินหน้าทรานส์ฟอร์มธุรกิจจากสื่อและบันเทิงสู่ธุรกิจพาณิชย์เต็มตัว

สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาร์เอส กรุ๊ป กล่าวถึง ทิศทางอาร์เอส กรุ๊ป ในยุคใหม่ ในงาน RS Open House 2020

สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาร์เอส กรุ๊ป กล่าวว่า การทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยโมเดลธุรกิจที่แตกต่างไม่เหมือนใครนั้นเป็นไปได้ และเป็นก้าวใหม่ที่ยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ที่เน้นการ Synergy ระหว่างกลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซและธุรกิจสื่อและบันเทิงเพื่อสนับสนุนการเติบโตระหว่างกันภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ทำให้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่สนับสนุนให้อาร์เอส กรุ๊ปเติบโต

“โมเดลธุรกิจ Entertainmerce เป็นการดึงศักยภาพ ความเชี่ยวชาญจากธุรกิจสื่อและธุรกิจบันเทิงในมือออกมาใช้ให้มากที่สุด สร้างคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ เพื่อเปลี่ยนผู้ชมและผู้ฟังเป็นผู้ซื้อ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การ Synergy กันระหว่างกลุ่มธุรกิจในเครือ ที่สามารถควบคุมและบริหารงานได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ”

ภายใต้กลยุทธ์นี้ สัดส่วนรายได้จากธุรกิจ commerce ของอาร์เอส กรุ๊ปจะขยับจาก 65% เป็น 80% และรายได้รวมจะขยับไปแตะหมื่นล้านในอนาคต 

เดิมเป้ารายได้ปีนี้ตั้งไว้ 5 พันล้านบาท แต่เจอโควิด-19 ทำให้ต้องปรับเป้ารายได้ลงเหลือประมาณ 4,200-4,300 ล้านบาท ซึ่งก็ยังคงเติบโตจาก 3,600 ล้านบาทในปี 2019 โดยสัดส่วนของหน่วยธุรกิจ commerce อยู่ที่ 65% ทีวี 20% วิทยุ 10% และค่ายเพลง 5%

“ปี 2563 เป็นปีแห่งการเริ่มต้นของ อาร์เอส กรุ๊ป ยุคใหม่ ที่มี business model ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นั่นคือ Entertianmerce เรารีแบรนด์องค์กรครั้งสำคัญที่สุด เราเปลี่ยนโลโก้ ปรับโครงสร้างองค์กร โดยใช้แนวคิดการทำงานแบบ Agile มุ่งทำงานเป็นทีม ลดโครงสร้างและขั้นตอนที่ยุ่งยาก เพื่อให้การทำงานรวดเร็วขึ้นและสื่อสารกันได้โดยตรง”

ฝ่าฟันธุรกิจมา 39 ปี อาร์เอสมี 3 ช่วงของการปรับธุรกิจ 

  • ช่วงแรก เป็นยุคปลาใหญ่กินปลาเล็ก ตอนนี้ อาร์เอส กรุ๊ป ยังเป็นปลาเล็ก กลยุทธ์ธุรกิจ คือ ทำอย่างไรไม่ให้ถูกกิน 
  • ส่วนช่วงที่ 2 คือ ยุคปลาเร็วกินปลาช้า ตอนนั้นอาร์เอส กรุ๊ป เริ่มใหญ่ เพราะฉะนั้น กลยุทธ์ คือ ความใหญ่ของอาร์เอส กรุ๊ป จะต้องเร็วด้วย 
  • และช่วงที่ 3 คือ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาไปในอนาคต เป็นยุคของปลาฉลาดกินทุกปลา 

“เราเอาธุรกิจค่ายเพลงกลับมาอีกครั้ง เพราะตอนนี้เรามี business model รองรับ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจต่าง ๆ เกิดที่ตัวศิลปิน ค่ายเพลงบทบาทลดน้อยลงจนแทบไม่มีเลย แต่ตอนนี้เรามี RS Music Star Commerce ที่จะเข้ามาเชื่อมโยงและต่อยอดธุรกิจคอมเมิร์ซให้ศิลปิน เพราะฉะนั้น ศิลปินจะไม่ใช่แค่ร้องเพลงดีอย่างเดียว แต่จะต้องเป็นพันธมิตรธุรกิจกับอาร์เอส”

“ด้วย business model ที่เรามีรองรับ ศิลปินจะเป็นแพลตฟอร์มที่มีชีวิต”​

สุรชัย กล่าวว่า การทำธุรกิจใหม่ คือ ต้องต่อยอดและเชื่อมโยงกับธุรกิจเดิมได้ และต้องมีกำไรที่มากขึ้น สินค้นใหม่ที่อาร์เอสจะเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาด ก็คือ รังนก และอาหารสุนัขและแมว ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีอัตราการเติบโตสูงและต่อเนื่อง 

“ตลาดรังนกใหญ่มาก ไม่ต่ำกว่า 20,000-30,000 ล้านบาทต่อปี เป็นตลาดที่ซัพพลายไม่พอดีมานด์ เป็นสินค้าที่มีโอกาสมากสำหรับเรา เราจะออกสินค้ารังนกสู่ตลาดในไตรมาส 4 ราว ๆ เดือนพฤศจิกายน แบรนด์เสร็จแล้ว” 

เมื่อวางยุทธศาสตร์ธุรกิจด้วยการใช้ธุรกิจบันเทิงหนุนส่งธุรกิจพาณิชย์ให้เติบโตเป็นรายได้หลักของบริษัทอย่างยั่งยืน แต่ละหน่วยธุรกิจทั้งฟากธุรกิจบันเทิงและธุรกิจพาณิชย์ต่างต้องปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเพื่อเสริมแรงระหว่างกัน

ปัจจุบัน อาร์เอส กรุ๊ป แบ่งกลุ่มธุรกิจ ออกเป็น

  • ธุรกิจคอมเมิร์ซ ประกอบด้วย อาร์เอส มอลล์ และ บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด
  • ธุรกิจสื่อและบันเทิง ประกอบด้วย สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 คูลลิซึ่ม และ อาร์เอส มิวสิค

ธุรกิจคอมเมิร์ซ มี อาร์เอส มอลล์ (RS Mall) และ ไลฟ์สตาร์ เป็นหัวเรือใหญ่ และกลยุทธ์ในส่วนของ ธุรกิจคอมเมิร์ซ คือ Star Commerce Model

อาร์เอส มอลล์​ คือ หน้าร้านของอาร์เอส กรุ๊ปที่อยู่บนช่องทีวีดิจิทัล เทเลเซลล์ เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน ปัจจุบัน อาร์เอส มอลล์ มีฐานข้อมูลกว่า 1.4 ล้านรายที่มีการซื้อซ้ำมากกว่า 2 ครั้งต่อปี อาร์เอส มอลล์ มีรายได้ไตรมาส 2 ปี 2563 อยู่ที่ 586.2 ล้าน ประมาณ​ 60% ของยอดขายบนอาร์เอส มอลล์ มาจากสินค้าของไลฟ์สตาร์ โดยมี 3 โปรดักส์แชมป์เปี้ยนที่ทำยอดขายสูงสุด คือ S.O.M. Cordy Tibet & Bhutan, S.O.M. I-Kare และ S.O.M. CMAX 

ในส่วนของไลฟ์สตาร์ มีการเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่หลายตัว ที่สำคัญอยู่ 2 ตัว คือ ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร (Meal replacement) และ อาหารสุนัขและอาหารแมว (Pet Food) ที่มีมูลค่าตลาดกว่า 4 หมื่นล้านบาท และเติบโต 10% ต่อเนื่องทุกปี 

ธุรกิจสื่อและบันเทิง ประกอบด้วย สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 คูลลิซึ่ม และอาร์เอส มิวสิค

สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เดินกลยุทธ์ “เก้าอี้ 4 ขา” กระจายรายได้มาจาก 4 ช่องทาง คือ มีเดียสปอนเซอร์ 40% การจัดอีเวนท์ 10% การขายลิขสิทธิ์ 15% และ Entertainmerce 35%

สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เดินกลยุทธ์ “เก้าอี้ 4 ขา” กระจายรายได้มาจาก 4 ช่องทาง

นงลักษณ์ งามโรจน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กล่าวว่า ครึ่งปีหลัง ช่อง 8 จัดเต็มความบันเทิงเพื่อธุรกิจพาณิชย์ กับรายการ “นายจ๋าทาสมาแล้ว” ที่จะช่วยสนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ บริษัท ไลฟ์สตาร์ ผลิตขึ้น และรายการ “ราคาพารวย” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำเวลาไพร์มไทม์ของช่องมาทำรายการเพื่อสนับสนุนโมเดลธุรกิจ Entertainmerce และเป็นครั้งแรกในการซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศมาประยุกต์ใช้เพื่อเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นผู้ซื้อสินค้า

คูลลิซึ่ม (COOLISM) เดินหน้ากลยุทธ์แม่น้ำ 3 สาย เพื่อขยายรายได้หลักออกเป็น 3 ทาง 

ปริญญ์ หมื่นสุกแสง หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจวิทยุคูลลิซึ่ม กล่าวว่า กลยุทธ์แม่น้ำ 3 สาย เป็นการขยายรายได้หลักออกเป็น 3 ทาง ลดการพึ่งพารายได้ช่องทางใดช่องทางหนึ่งมากเกินไป รลดความเสี่ยงทางธุรกิจ เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์นี้จะสามารถสร้างการเติบโตครั้งใหม่แบบก้าวกระโดด หวังเป็น นิว เอส เคิร์ฟ ในรอบ 15 ปีของคูลลิซึ่ม

สัดส่วนรายได้จากกลยุทธ์แม่น้ำ 3 สาย ของธุรกิจวิทยุ Coolism ของอาร์เอส กรุ๊ป

สัดส่วนรายได้จากกลยุทธ์แม่น้ำ 3 สาย เป็นดังนี้

  • Coolfahrenheit สัดส่วนรายได้ 40% ด้วยจำนวนเรตติ้งและคนฟังคลื่นคูลฟาเรนไฮต์ที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง COOLfahrenheit เป็นสถานีเพลงอันดับหนึ่ง มาเกือบ 2 ทศวรรษ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ฟังเติบโตมาตลอด ถึงแม้มีกระแสว่าคนฟังวิทยุลดลง แต่ COOLfahrenheit ยังคงเติบโตส่วนกระแส และทำสถิติใหม่นิวไฮบนเอฟเอ็ม ด้วยยอดผู้ฟังสูงสุดทะลุ 2 ล้านคน ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
  • COOLive สัดส่วนรายได้ 30% ด้วยการยกระดับการทำงานด้านคอนเสิร์ตและอีเวนต์ ให้เป็นหน่วยธุรกิจอิสระ สร้างสรรค์คอนเสิร์ต และมิวสิค เฟสติวัล โดยในปี 2564 เตรียมจัดงานทั้งหมด 10 งาน ที่มีทั้งศิลปินชั้นนำระดับประเทศและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเข้าถึงผู้ชมคอนเสิร์ตทั้งหมดกว่าหนึ่งแสนคน
  • COOLanything สัดส่วนรายได้ 30% เป็นส่วนหนึ่งของโมเดล Entertainmerce ที่เปลี่ยนผู้ฟังให้เป็นลูกค้า สร้างประสบการณ์ที่ดีในการช้อปปิ้ง ด้วยสินค้าคุณภาพที่รู้ใจและการบริการที่เข้าใจ ผ่านแอปพลิเคชันคูลลิซึ่ม ซึ่งเป็นต้นน้ำแหล่งใหม่ สำหรับยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ฟังเพลงได้ ช้อปเพลิน ในแอปเดียว’

อาร์เอส มิวสิค (RS Music) ชูโมเดลธุรกิจใหม่ ‘Music Star Commerce’ จากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ศิลปิน

สุกฤช สุขสกุลวัฒน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเพลง กล่าวว่า ความท้าทายครั้งสำคัญของธุรกิจเพลง คือ การปรับตัวเพื่อสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ที่แตกต่าง เพลงเป็นแค่เครื่องมือหนึ่ง แต่สิ่งที่จะสร้างและต่อยอดธุรกิจได้ คือ สตาร์ ที่มีตัวตน มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน และมีฐานแฟนคลับ ซึ่งทั้งหมดจะถูกเชื่อมโยงกับโมเดลธุรกิจใหม่ ‘Music Star Commerce’

อาร์เอส กรุ๊ป เตรียมกลับมาลุยตลาดเพลงอีกครั้ง ด้วย 3 ค่ายเพลงที่จับตลาดแตกต่างกัน

ตุลาคม 2563 อาร์เอส เตรียมเปิดตัวศิลปินใหม่ ผ่าน 3 ค่ายเพลง ได้แก่

  • Rsiam
  • Kamikaze
  • Rose Sound

“เราไม่ได้เปลี่ยนเพราะเจอวิกฤติ แต่เราเปลี่ยนเพราะเรากำลังจะไปยุคใหม่” เฮียฮ้อกล่าวทิ้งท้าย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ